การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – LS ตอนที่ 19 เอ้อร์หยาเกียจคร้านงั้นหรือ?

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 19 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

LS ตอนที่ ๑๙ เอ้อร์หยาเกียจคร้านงั้นหรือ?

 

“โอ้ คุณหนูสอง ข้าต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ขากับเท้าของข้ามันชราภาพแล้ว แต่มันก็แค่น้ำสกปรกเล็กน้อย ท่านแค่เอาน้ำในบ่อล้างมันก็ทานได้แล้วนะเจ้าคะ” แม่บ้านเจิ้งก้าวถอยหลังพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายและเอ่ยต่อ “ข้าต้องไปปลุกฮูหยินหนึ่งให้ตื่นนอนก่อน ข้าเลยไม่มีเวลามาล้างมันให้ท่านน่ะเจ้าค่ะ”

 

ขณะที่นางพูด ไฟไม่ทราบชื่อในใจของแม่บ้านเจิ้งก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เพราะซูเอ้อร์หยาไม่ได้มองนางมาตั้งแต่แรก แถมยังไม่แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือสิ้นหวังใด ๆ อีกด้วย

 

ดูเหมือนว่า…ดูเหมือนว่านางจะเป็นตัวตลกที่ทำการแสดงอยู่คนเดียวบนเวที

 

บ้าเอ๊ย!

 

“เอ้อร์หยาบ้า พี่ชายคนโตของท่านอยู่ไกลจากตัวเมืองแล้ว ไม่มีใครช่วยท่านได้ในครั้งนี้หรอก!” แม่บ้านเจิ้งโมโหอย่างมากแล้วก็สะบัดสะโพกเดินจากไปหลังเอ่ยเช่นนั้นแล้ว

 

ซูเอ้อร์หยาเหลือบขึ้นมองและจ้องแผ่นหลังของแม่บ้านเจิ้ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งรอยยิ้มอ่อนโยนก็ผุดบนใบหน้าของนาง เลือดบนแผ่นหลังไหลลงมาตามม้านั่งและหยดหายไปในฝุ่นผง

 

หลังจากนั้นชั่วยามหนึ่ง มันก็เป็นเวลาของการเรียนในเรือนตะวันออก

 

ฉีเซี่ยนชิงมาเช้ากว่าปกติและก็ไม่มีใครในห้องเรียน เขานั่งประจำโต๊ะครู่หนึ่งพร้อมกับรอยยิ้มผุดบนใบหน้า

 

เอ้อร์หยาฝึกเสวียนกงได้อย่างรวดเร็วและจะบรรลุระดับสองในอีกไม่กี่วัน ดังนั้นเขาก็จะสอนนางเรื่องวิชากระบี่ลับได้ ด้วยกลยุทธ์และทักษะของนางแล้ว เมื่อนางฝึกกลเม็ดการโจมตี นางก็จะกลายเป็นยอดจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ในยุทธภพได้

 

“ข้าจะพานางไปเจอสหายเก่าทั้งหลายในปีหน้า ตาเฒ่าพวกนั้นที่ไม่เจอคนสืบทอดความสามารถคงจะอิจฉาจนแทบกระอักเลือดแน่!”

 

ฮ่าๆๆ…

 

ฉีเซี่ยนชิงคิดและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังลั่น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกเขา เขาก็รีบกลับสู่ท่าทีเคร่งขรึม

 

ซูชิงฮ่าวกระโจนแผลวเข้ามาในห้องเรียน เขามองฉีเซี่ยนชิงพลางเอียงศีรษะและรีบยืนประจำที่ในทันที จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “อรุณสวัสดิ์ขอรับอาจารย์ฉี!”

 

เขามองไปรอบ ๆ และเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเรียนจึงพลันเอ่ยขึ้น “เฮ้อ วันนี้พี่สาวสองมาช้ากว่าข้าอีกหรือเนี่ย?”

 

เอ้อร์หยากำลังจะบรรลุวิชาระดับสองในวันนี้งั้นหรือ?

 

ฉีเซี่ยนชิงรู้สึกย่ามใจและมีรอยยิ้มบนใบหน้าดูล้ำลึกขึ้น จากนั้นจึงเอ่ย “บางทีนางคงมาช้าเพราะอะไรบางอย่าง ชิงฮ่าว นั่งลงเสีย อย่าขี้เกียจในการเรียนเช้านี้ล่ะ”

ซูชิงฮ่าวรู้สึกประหลาดใจเพราะอาจารย์ฉีไม่เคยมีอัธยาศัยดีขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก เขาเดินตรงไปและนั่งประจำที่ หยิบตำราออกมาและเริ่มอ่าน

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูจื่อเผยก็มาตรงเวลาเช่นกัน เห็นว่าอาจารย์กำลังอยู่ในอาการใจลอย นางก็ไม่รบกวนเขาและหยิบตำราขึ้นมาอ่านเหมือนกับซูชิงฮ่าว

 

ครึ่งชั่วยามผ่านไป…

 

ฉีเซี่ยนชิงมีท่าทีไร้อารมณ์ ยังคงไม่ประกาศเลิกการเรียนการสอนเช้าวันนี้ เขารู้สึกร้อนใจนัก เอ้อร์หยาประสบปัญหาในระหว่างการบรรลุวิชาหรือเปล่านะ?

 

นางไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะมันไม่มีสภาวะคอขวดในสามระดับแรกของวิธีการฝึกตนแห่งเสวียนกง หรือว่านางเกียจคร้านเกินกว่าจะมาในวันนี้กัน?

 

เป็นไปไม่ได้!

 

ระหว่างสองเดือนที่เขารู้จักนาง แม้เขาจะไม่รู้จักเอ้อร์หยาทั้งหมดนัก เขาก็รู้ว่านางไม่ใช่เด็กเกียจคร้าน

 

แปลกเกินไปแล้ว…

 

ฉีเซี่ยนชิงย่นคิ้ว ซูชิงฮ่าวอ่านมากเสียจนปากแห้งผาก เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนผู้เป็นอาจารย์ “อาจารย์ฉีขอรับ การเรียนเช้านี้เลยมาครึ่งชั่วยามกว่าแล้วนะขอรับ”

 

เขาเอ่ย จากนั้นก็มองซูจื่อเผยและเอ่ยกระซิบ “พี่สาวสองไม่ได้อยู่ที่นี่ขณะที่พี่สาวสามอยู่ พี่สาวสามขอรับ ท่านรู้ไหมว่าทำไมพี่สาวสองถึงไม่มาที่นี่ในวันนี้?”

 

ซูจื่อเผยหวังจะเลี่ยงคำถามของซูชิงฮ่าว แต่นางก็เห็นว่าอาจารย์ฉีกำลังมองมาที่นางอย่างเคร่งเครียดเช่นกันจนทำให้นางใจเต้นแรง นางจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ข้าไม่รู้เหมือนกัน”

 

“ถ้าศิษย์คนใดคนหนึ่งของข้าไม่มาในวันนี้ ข้าจะไม่เริ่มสอน”

 

ฉีเซี่ยนชิงลุกขึ้นยืนอย่างร้อนใจ “ซูชิงฮ่าว ตามข้ามา และไปดูที่เรือนของพี่สาวสองของเจ้ากัน”

 

ซูชิงฮ่าวเป็นกังวลเกี่ยวกับพี่สาวสองของเขาเช่นกัน เขาจึงรีบลุกขึ้นและเอ่ยตอบ “ขอรับอาจารย์ฉี!”

 

ซูจื่อเผยรู้ว่ามารดาของตนไม่อาจจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเด็ดขาด นางจึงเรียกฉีเซี่ยนชิงอย่างร้อนรนและเอ่ยขึ้น “อาจารย์ฉี ข้าได้ยินว่าพี่สาวสองกำลังฟื้นตัวจากอาการป่วยและไม่ได้พักรักษาตัวอยู่ที่เรือนตะวันออกแล้วเจ้าค่ะ”

 

ฉีเซี่ยนชิงไม่รู้โครงสร้างของบ้านตระกูลซู เขาจึงพยักหน้าและถามกลับ “เช่นนั้นเจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้นางอาศัยอยู่ที่ไหน?”

 

“ข้า…” ซูจื่อเผยดูกระอักกระอ่วน “ข้าไม่…”

 

“ไม่!!”

ซูจื่อเผยกำลังจะแต่งเรื่องประวิงเวลาไว้ขณะที่ซูชิงฮ่าวพลันดึงแขนเสื้อของฉีเซี่ยนชิงและตะโกนขึ้น “อาจารย์ฉี! ท่านต้องช่วยพี่สาวสองของข้านะขอรับ! พี่ชายใหญ่บอกว่าหากพี่สาวสองไม่อยู่ในเรือนตะวันออก ข้าต้องขอความช่วยเหลือจากท่าน! เขาบอกแบบนี้หลายครั้งแล้ว อาจารย์ฉี ท่านต้องช่วยพี่สาวสองของข้านะขอรับ!”

 

ฉีเซี่ยนชิงและซูจื่อเผยมีสีหน้าเปลี่ยนไปในคราวเดียวกัน

 

“บ้าเอ้ย! ซูชิงถานรู้ทันกลอุบายแล้ว!!” ซูจื่อเผยสาปซูชิงถานในใจและมองที่ประตูเรือนอย่างกระวนกระวาย

 

“ข้าสอนแบบอารมณ์ดีมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมาแล้วก็ลืมสถานการณ์ของเอ้อร์หยาในตระกูลซูไปเสียนี่!”

 

ฉีเซี่ยนชิงรู้สึกเสียใจมากจนอยากจะตบหน้าตัวเองสองฉาด เขากุมมือซูชิงฮ่าวและเอ่ยพึมพำ “พาข้าไปคุยกับบิดาเจ้า! ข้าอยากจะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวสักหน่อย!”

 

ซูชิงฮ่าวหันหน้าและออกวิ่ง แต่ซูจื่อเผยคว้าแขนเสื้อไว้จนเขาเกือบจะหกล้ม เขามองกลับมาและเอ่ยอย่างโกรธเคือง “ท่านทำอะไรน่ะพี่สาวสาม?”

 

ซูจื่อเผยร้อนรนเสียจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ตอนนั้นเองนางก็ได้ยินเเสียงที่ทำให้นางโล่งใจได้ในที่สุด “ท่านหมอฉี อย่าร้อนใจไปนักเลย ทำไมท่านถึงต้องกระวนกระวายขนาดนี้ด้วย?”

 

ตรงสุดทางเดินหินเขียว ฮูหยินหนึ่งได้เข้ามาพร้อมรอยยิ้มและมีบรรดาสาวใช้เดินตามหลัง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด