การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 29
ตอนที่ ๒๙
ในตอนนี้ รถม้าอันประณีตงดงามได้มาหยุดอยู่ด้านนอกประตูบ้านตระกูลซู บนม่านมีลายตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า “หยาง” อันเป็นแซ่ เมื่อสารถีเลิกผ้าม่านขึ้น ชายหนุ่มในชุดสีทองก็เดินออกมาในทันทีด้วยสีหน้าภาคภูมิ
พรึ่บ!
ชายหนุ่มคลี่พัด บวกกับใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้ว เขาก็ดูมีราศีแห่งคุณชายขึ้นมา
“น้องสาว ข้ามาตามที่ข้าสัญญาแล้ว!”
ชายหนุ่มเดินอาดผ่านเขตบ้านตระกูลซู หลังจากนั้นก็มีเสียงสะดุด “โอ๊ย” ดังมาจากในบ้าน
เท้าของหยางเว่ยลื่นไถลจนเขาล้มลงปากแตก เขาพยุงตัวขึ้นและปาดคราบเลือดบนใบหน้าพร้อมกับสีหน้าค่อย ๆ บิดเบี้ยว
“ให้ตายเถอะ! ใครพรมปูนขาวไว้บนพื้น? รสชาติเหมือนขนมเข่งเลย!”
“ฮัดเช้ย!”
ซูเอ้อรหยาถูจมูกและรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย “ใครกำลังพูดถึงข้ากันนะ?”
ภายในห้องโถง
เมื่อซูฮ่วนหลี่เห็นหยางเว่ยมีใบหน้าบวมตุ่ย เขาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าต้องระวังหน่อยนะ ถ้าใบหน้าเจ้าเป็นอะไรไปเจ้าจะมีปัญหา วันนี้เจ้ามาหาเพื่อมาคืนไข่มุกราตรีใช่ไหม?”
ใบหน้าของหยางเว่ยไม่ได้เป็นสีแดง เขากำหมัดและเอ่ยขึ้น “ท่านลุง อย่าล้อข้าเล่นเลยขอรับ ไข่มุกราตรีเป็นสมบัติของผู้ปกครองมณฑล ข้าไม่มีมันหรอก! ข้ามาที่นี่เพื่อพูดถึงงานแต่งงานต่างหากขอรับ”
ซูฮ่วนหลี่ยิ้มค้าง เขากุมหมัดของหยางเว่ยช้า ๆ และเอ่ยขึ้น “เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ หลานข้า?”
หยางเว่ยเหมือนจะไม่เห็นว่าเขาทำให้ซูฮ่วนหลี่ไม่พอใจจึงเอ่ยต่อ “ปีที่แล้วข้าตกหลุมรักจื่อเผย และข้าหวังว่าท่านคงจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ขอรับ”
“บังอาจ!”
ซูฮ่วนหลี่ตบโต๊ะพลางตะโกน “ไอ้เด็กเวร เจ้าขโมยสมบัติของข้าไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้บุตรชายข้าต้องเสียเวลาไปหนึ่งปีในเรื่องหน้าที่การงานของเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาที่นี่เพื่อขอแต่งงาน? ออกไปซะ!”
หยางเว่ยยืนขึ้นราวกับว่าจะขอโทษ แต่สีหน้าของเขายังคงเย็นชาและเย่อหยิ่ง เขายิ้มและเอ่ยตอบ “อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลยขอรับ ท่านต้องเห็นสินสอดที่ข้านำมาด้วยเสียก่อน”
หืออ?
ซูฮ่วนหลี่ไม่ได้โกรธ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและเอ่ยช้า ๆ “ถ้าพวกมันไม่ดีพอ เจ้าก็อย่าหวังเลยว่าจะได้แต่งงานกับลูกสาวข้า”
หยางเว่ยมั่นใจอย่างมากและเอ่ยอย่างภาคภูมิ “ข้าเชื่อว่าเมื่อใดที่ท่านได้เห็นพวกมัน ท่านก็จะเห็นด้วยขอรับ”
…
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ใบหน้าของซูฮ่วนหลี่ก็ดูซับซ้อน หยางเว่ยยกมือขึ้นคารวะอย่างภาคภูมิและเอ่ยขึ้น “ในเมื่อท่านเห็นด้วยแล้ว ข้าก็จะกลับไปบอกบิดามารดาของข้าเดี๋ยวนี้เลยขอรับ”
“ลาก่อนหลานข้า”
ซูฮ่วนหลี่ลุกขึ้นและยิ้มตอบ
หยางเว่ยด้อยกว่าชิงถานในเรื่องของตำราและวรยุทธ์ มีอัจฉริยชนวัยเยาว์จำนวนมากในมณฑลนี้ จึงไม่แปลกที่ชายโง่คนนี้จะสอบตก แต่เขาโชคดีเพียงเพราะรู้จักกับข้าราชการในมณฑลนี้บางคนและแสวงหาเส้นสายคนใหญ่คนโต สิ่งต่าง ๆ จึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
ข่าวการมาถึงของหยางเว่ยได้มาถึงเรือนตะวันตกในเช้าวันต่อมา
“อะไรนะ? ทำไมญาติของข้าถึงไม่มาหาข้าล่ะ?” ซูจื่อเผยกระโดดออกจากเตียงด้วยความประหลาดใจ นางตั้งใจจะแต่งหน้าประทินโฉมและเดินออกไป แต่เหล่าสาวใช้กลับบอกนางว่าหยางเว่ยกลับไปแล้วจนนางรู้สึกเศร้า ญาติคนนี้ลืมคำสัญญาระหว่างกันแล้วงั้นหรือ?
ซูเหยียนย่นคิ้วและดุด่าอยู่ในใจ
“สวะไร้ประโยชน์! เขาสอบตกตั้งแต่การสอบประจำมณฑลระดับแรก ข้าคิดว่าข้าน่าจะติดต่อตระกูลร่ำรวยทรงพลังในอวิ๋นจิงผ่านเขาเพื่อหาที่มาของหยกได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีโอกาสอย่างนั้นแล้ว”
แม่บ้านหลี่ก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกันและเอ่ยเรื่องนี้กับซูเอ้อร์หยา ซูเอ้อร์หยาไม่ประหลาดใจนัก นางเอ่ยตอบ “ผลการสอบวัดระดับประจำมณฑลรอบแรกออกมาแล้ว พี่หยางเว่ยไม่ได้ไปที่อวิ๋นจิง ข้าเดาว่าเขาคงสอบตก”
แม่บ้านหลี่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็รู้สึกแปลกใจ นางจึงเอ่ยขึ้น “ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ ว่ากันว่าพรสวรรค์ของคุณชายหยางห่างไกลจากคุณชายถานมากนัก ทว่าตอนนี้คุณชายหยางเหมือนจะไม่เสียใจแต่กลับมีความสุขเสียอีก”
ซูเอ้อร์หยาเงียบไป ดวงตาของนางดูล้ำลึกราวกับผืนทะเล
ในเมื่อนางถือกำเนิดอีกครั้ง นางจึงเปลี่ยนได้แค่ชะตาชีวิตของพี่ชายคนโต ในชีวิตชาติที่แล้ว ตระกูลซูไม่มีความสามารถในการติดสินบนหลี่ซานเป่า ตำแหน่งนั้นจึงกลายเป็นของคุณชายตระกูลจูในที่สุด พี่ชายคนโตถูกเลือกเมื่อเข้าปีที่สามแล้วเท่านั้น
หยางเว่ยได้ใช้เส้นสายเข้าหาคุณชายน้อยของเจ้าประเทศราช เขาได้ตำแหน่งใหญ่โตในมณฑลชิงเหอ หลี่ซานเป่ามักถูกเขาข่มขู่อยู่เสมอ ในที่สุดเขาก็สูญเสียภัตตาคารไป๋เว่ยไปเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งของเขา
ตอนนี้ดูเหมือนว่าหยางเว่ยคนนั้นจะแต่งงานกับซูจื่อเผยในอีกไม่กี่วันนี้
ซูเอ้อร์หยายกยิ้มอย่างสมบูรณ์แบบ นางรอเวลานี้มานานแล้ว
“แม่บ้านหลี่ เตรียมรถม้าให้ข้า ข้าจะเข้าไปในตัวเมือง” ซูเอ้อร์หยาพลันเอ่ยขึ้น
ในตอนแรกแม่บ้านหลี่ก็ลังเล จากนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างประหลาดใจ “คุณหนู ในที่สุดก็เต็มใจออกไปแล้วสินะเจ้าคะ ฤดูร้อนมาถึงแล้ว ท่านยังไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ เลย ท่านน่าจะซื้อสักชุดนะเจ้าคะ แล้วก็…”
แม่บ้านหลี่ออกไปพร้อมกับเอ่ยจู้จี้ ดวงตาของนางชื้นหยาดน้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูสองได้ออกไปข้างนอก ในอดีตคุณหนูสองไม่ได้กินอะไรเพียงพอภายใต้การคุมเข้มของฮูหยินหนึ่ง มันช่างเป็นเรื่องยากลำบากนัก!
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ แม่บ้านหลี่ก็กลับมาด้วยอาการดีใจ ตามมาด้วยพ่อบ้านหลี่
“คุณหนูสองจะออกไปซื้อของเป็นครั้งแรก เพื่อความปลอดภัยแล้วข้าจึงได้จัดผู้คุ้มกันสองคนให้ตามไปด้วย ระวังตัวนะขอรับ หากท่านอยู่ในอันตรายให้รีบไปที่ไป๋เฉ่าถัง”
ซูเอ้อร์หยาพยักหน้า “ขอบคุณจ้ะ เอ้อร์หยาจะระวังตัวไว้”
คอมเม้นต์