การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 38

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 38 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 38

หลี่ซานเป่าย่นคิ้ว​ เขาไม่เต็มใจเลยที่จะเห็นภัตตาคารไป๋เว่ยกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งภายใต้การควบคุมของตระกูลซู​ ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องสังหารซูจื่อเผย​ แต่เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะจุดไต้ตำตอเข้าให้​ เขาเกือบจะถูกเปิดเผยแล้ว

“เจ้าทำงานที่ข้าสั่งไว้พลาด​ ข้าจึงไม่อาจปล่อยเจ้าออกจากคุกได้​ แต่ถือว่าเจ้าได้เสี่ยงชีวิตไป​ งั้นข้าจะลดโทษให้เจ้ากึ่งหนึ่งแล้วกัน​ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

ได้ยินสิ่งที่หลี่ซานเป่าเสนอแล้ว​ ชายชุดดำก็ดีใจนัก​ เขาประสานมือคำนับและเอ่ยรับ​ “ขอบคุณขอรับท่านเจ้าเมือง​ เช่นนั้นข้าจะกลับเข้าคุก”

“ไปเถอะ”

หลี่ซานเป่าโบกมือ​ หลังจากชายในชุดดำออกไปแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียง​ “ไม่ว่าผู้วิเศษในเจียงหูคนนั้นจะทรงพลังเพียงใด​ เขาก็จะถูกข้าสังหารเหมือนกับเจ้านั่นแหละ​ เจ้านักฆ่าดาราดำเอ๋ย”

ท่ามกลางสายตาของผู้คุมขัง ชายในชุดดำก็ได้กลับสู่คุกใต้ดินสกปรกเหม็นอับ เขาหุบยิ้มแล้วเผยความสงบนิ่งบริสุทธิ์ออกมา

“ข้าทำมันเพื่อคุณชาย ส่วนดาราดำนั้นข้าไม่สนไอ้สวะนั่นหรอก แต่ในครั้งนี้ข้าพบข่าวบางอย่างแล้ว ช่างน่าประหลาดใจนักที่บ๊ะจ่างอันเป็นสิ่งที่คุณชายของข้าทำได้มาปรากฏอยู่ในเมืองต้าซูที่นี่ แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถออกไปได้ ช่างเถอะ ข้าจะบอกกับคุณชายหลังจากที่ข้าถูกปล่อยตัวแล้ว”

สามวันหลังจากนั้น ตระกูลซู ตระกูลจู และตระกูลหยางต่างมารวมตัวกันอีกครั้ง ซูเอ้อร์หยาได้ยินเสียงทะเลาะดังมาจากเรือนใหญ่ในเรือนจินหยวน เมื่อดวงตะวันตกดินทางทิศตะวันตก ซูฮ่วนหลี่ก็ส่งสมาชิกตระกูลจูกับตระกูลหยางกลับไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าการจัดสรรผลกำไรของภัตตาคารไป๋เว่ยจะได้รับการแก้ไขแล้ว

ซูเอ้อร์หยาไม่แปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงสงบลงอย่างรวดเร็วและไม่ทะเลาะกันเรื่องความขัดแย้งในการร่วมมือเมื่อก่อนหน้าอีก ภัตตาคารไป๋เว่ยปิดกิจการแล้ว เวลากำลังจะหมดลง หากมันถูกปิดเป็นเวลานานก็จะเสียลูกค้าไป และความพยายามของพวกเขาก็จะสูญเปล่า

เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ ซูฮ่วนหลี่ก็ขอให้ซูเอ้อร์หยาทานอาหารกับเขาในวาระพิเศษ ซูเอ้อร์หยารู้สึกแปลกใจเพราะนางไม่เห็นจูเหยียนเลย

เห็นซูเอ้อร์หยาผู้งดงามเป็นครั้งแรก ซูฮ่วนหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลาย เขาไม่ได้เห็นหญิงสาวมาหลายวันแล้ว ทำไมนางจึงดูยั่วยวนเหลือเกิน?

“เอ้อร์หยา ข้าทำสัญญาตกลงกับตระกูลจูและตระกูลหยางแล้ว ตระกูลทั้งสามจะร่วมมือกันบริหารภัตตาคารไป๋เว่ย แต่ละตระกูลถือกำไรร้อยละสามสิบ เจ้าเองก็จะได้ถือกำไรในร้อยละสิบที่เหลือให้เรา”

ซูเอ้อร์หยาเหลือบมองด้วยสีหน้าประหลาดใจแต่แสร้งทำเป็นงุนงง “ท่านพ่อ ข้าได้ยินมาว่าภัตตาคารไป๋เว่ยปิดกิจการแล้วนี่เจ้าคะ ทำไมส่วนแบ่งกำไรถึงเกี่ยวข้องกับข้าด้วย?”

ซูฮ่วนหลี่แตะศีรษะของซูเอ้อร์หยาด้วยรอยยิ้มและเอ่ยอธิบาย “ภัตตาคารไป๋เว่ยในตอนนี้ต้องการอาหารจานหลักเพื่อที่จะฟื้นตัว ตระกูลที่พัฒนาอาหารจานหลักจะได้ส่วนที่เหลืออีกร้อยละสิบ เข้าใจไหม?”

ซูเอ้อร์หยาพลันเข้าใจกระจ่างและเอ่ยขึ้น “เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าจะกลับไปคิดสูตรอาหารและไม่ทำให้ท่านผิดหวังเจ้าค่ะ”

ซูฮ่วนหลี่พลันหัวเราะ “เด็กดี! แม้จะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองและทำลายสุขภาพของเจ้านะ”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ”

พยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้ว ซูเอ้อร์หยาก็ไม่แปลกใจกับผลสุดท้าย ส่วนแบ่งร้อยละสิบที่เหลือเห็นได้ชัดว่าเป็นของตระกูลซู เนื่องเพราะตระกูลจูกับตระกูลหยางไม่อาจสรรค์สร้างอาหารจานหลักได้เลย พวกเขาเพียงเป็นกังวลว่าตระกูลซูจะไม่แบ่งผลกำไรในยามที่ได้มา ทา่นพ่อต้องทำสัญญาอื่นกับพวกเขา อย่างเช่นว่าถ้าหากตระกูลซูไม่สามารถสรรค์สร้างอาหารได้ มันก็คงจะ…

ซูเอ้อร์หยารู้สึกมั่นใจกับอาหารจานหลัก แต่นางวางแผนที่จะไม่แสดงมันออกมาเร็วเกินไปนัก นางจึงกลับไปที่เรือนจินหยวน และต่อให้นางขลุกอยู่ในครัวทุกวัน ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ซูฮ่วนหลี่รู้สึกร้อนใจทันทีและไปที่ห้องของซูเอ้อร์หยาเพื่อสอบถามนาง นางถอนหายใจด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านพ่อ ข้าเองก็อยากทำอาหารจานหลักแสนอร่อยอยู่เหมือนกันเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่สามารถหาวัตถุดิบได้มากมาย ต่อให้หญิงฉลาดก็ไม่สามารถปรุงอาหารได้โดยปราศจากข้าว”

“ส่วนประกอบอะไรหรือ? เจ้าน่าจะบอกข้าเร็วกว่านี้ ให้ข้าหาพวกมันให้เจ้าเถอะ!” ซูฮ่วนหลี่เอ่ย

ซูเอ้อร์หยาพลันให้เขาดูคลังภาพที่เตรียมไว้ ซูฮ่วนหลี่รู้สึกร้อนใจจนถึงกับรีบส่งคนไปที่ภูเขาเพื่อหามันโดยไม่ต้องคิดซ้ำ เขายังขอความช่วยเหลือจากสองตระกูลที่เหลืออีกด้วย

ซูเอ้อร์หยานั่งอยู่ในลานและเอามือเท้าคางด้วยรอยยิ้ม มีคนรับใช้ว่างงานอยู่หลายคนนัก คงเป็นเรื่องน่าเสียดายหากไม่ใช้งานพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือจากสามตระกูล กระบวนการเก็บสะสมสมุนไพรก็เดินหน้าอย่างรวดเร็วจนเห็นชัด

ในตอนบ่าย ซูฮ่วนหลี่นำกลุ่มคนรับใช้ถือต้นไม้หลากหลายชนิดเข้าไปในเรือนจินหยวน

หลังให้เหล่าคนรับใช้กองต้นไม้ไว้ในเรือนแล้ว ซูฮ่วนหลี่ก็มีท่าทีเปลี่ยนจากร้อนใจเป็นความกังวลและอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “เอ้อร์หยา ดอกไม้ป่ากับผักพวกนี้ใช้เป็นวัตถุดิบได้ไหม? พวกมันส่วนใหญ่มีสีสันสดใสและลักษณะต้องห้าม พวกมันอาจจะมีพิษก็ได้”

ซูเอ้อร์หยาก้มลงมองวัชพืชพิษและเอ่ยปลอบบิดา “ท่านพ่อ วางใจเถิดเจ้าค่ะ ตอนที่ข้าถูกขับออกจากตระกูล ข้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยผลไม้ป่าบนภูเขาและชิมรสพวกมันมามาก ส่วนที่เหลือข้าก็สามารถใช้เข็มเงินทดสอบพวกมันได้”

“ดี” ในตอนแรกซูฮ่วนหลี่รู้สึกคลายกังวลแต่เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้นเขาก็อึ้งไป เขาเอ่ยถามเสียงสั่น “เอ้อร์หยา เจ้าพูดเรื่องอะไรอยู่?! ท่านแม่เจ้าไม่ได้ให้เจ้าอยู่ที่บ้านของท่านลุงห่าง ๆ ของเจ้าหรอกหรือ?”

ซูเอ้อร์หยาดูงุนงง “ท่านลุงห่าง ๆ ? ข้ามีญาติห่าง ๆ ด้วยหรือเจ้าคะ? ข้าเกือบอดตายอยู่ข้างนอกแล้ว เป็นพี่ชายใหญ่ที่ช่วยข้าไว้และพาข้ากลับมาที่บ้านต่างหาก”

ซูฮ่วนหลี่พลันรู้สึกทรมานราวกับถูกฟ้าผ่า ด้วยสภาพจิตใจว่างเปล่า เขาเอ่ยพึมพำอะไรบางอย่างแล้วเดินกะเผลกออกจากเรือนจินหยวนไป

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด