การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – LS ตอนที่ 13 เปลี่ยนใจ
LS ตอนที่ ๑๓ เปลี่ยนใจ
“ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าพบว่าหยกนี้อาจผลิตขึ้นในอวิ๋นจิง ข้าน่าจะทำอะไรเร็วกว่านี้ เพราะเวลามีจำกัด”
ถ้าจื่อเผยถูกรับเข้าตระกูลใหญ่ แม้นางอาจจะกลายเป็น แม่บุญธรรม ของนาง แต่ตำแหน่งของนางก็จะยกระดับขึ้น หลังจากนั้นซูฮ่วนหลี่ก็จะไม่กล้าท้าทายนาง!
จูเหยียนยิ้มราวกับว่าเห็นอนาคตอันงดงาม
คิดดังนี้แล้ว จูเหยียนก็หยิบอัญมณีทั้งหมดที่เก็บไว้เป็นหลายปีออกมา และมุ่งหน้าไปยังโรงจำนำในเมือง
ในห้องเรียน พ่อบ้านเก่าแก่กำลังเขียนสูตรบ๊ะจ่างที่ซูเอ้อร์หยาบอกเขา
ซูฮ่วนหลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ และรับฟังถึงกับประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่าบ๊ะจ่างห่อเล็ก ๆ จะมีกรรมวิธีการทำที่ละเอียดประณีตมากขนาดนี้ บุตรสาวคนที่สองของเขาช่างเป็นอัจฉริยะแห่งการทำอาหารจริง ๆ
โชคไม่ดีที่ตระกูลซูไม่มีภัตตาคาร นี่จึงเป็นเหตุที่เขาปล่อยให้หลี่เว่ยมีโอกาสทำเงินมากมายขนาดนี้ไป!
หลังบอกสูตรอาหารให้แล้ว ซูเอ้อร์หยาก็เรียงบ๊ะจ่างที่เหลือเป็นแถวเรียบร้อย โค้งคำนับและเดินจากไป
พ่อบ้านชราวางพู่กันลงและเป่ากระดาษรอให้หมึกแห้ง เขาเห็นว่านายท่านยังคงอยู่ในอาการงงงวย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงยืนขึ้นและเอ่ยอย่างระมัดระวัง “นายท่าน ท่านคิดว่า…เราควรปล่อยให้คุณหนูสองร่ำเรียนวิชาหรือไม่ขอรับ?”
ซูฮ่วนหลี่ย่นคิ้วอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็คืนสติได้และตะโกนเสียงเกรี้ยว “ไร้สาระ! ปล่อยให้เอ้อร์หยาเรียนวิชาเรอะ…ไม่อย่างเด็ดขาด!”
พ่อบ้านชราถูกตวาดทว่าไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด และเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“นายท่าน สิ่งเลวร้ายเหล่านั้นเป็นอดีตไปแล้วและไม่มีใครจำพวกเขาได้นอกจากคนชราบางคน แม้แต่รัฐบาลก็จัดตั้งการศึกษาให้กับสตรีเพื่อฝึกฝนพรสวรรค์ของพวกนางแล้ว สตรีผู้มีพรสวรรค์เหล่านั้นก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีตามความคาดหวัง เหมือนแม่นางกู่และวีรสตรีคนอื่น ๆ”
พูดถึงจุดนี้ พ่อบ้านชราก็สูดหายใจลึกและลดเสียงต่ำ “คุณหนูสองฉลาดมากขอรับ และบางทีนางอาจมีทักษะการอ่านที่ดี หากนางต้องการศึกษาตำราอาหาร นางก็ต้องอ่านเป็น ถ้าตระกูลซูมีบัณฑิตหญิงหรือต้นเครื่องวังหลวงสตรีที่สามารถนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่บรรพชนได้ นายท่าน นั่นก็เป็นวิธีที่ดีนะขอรับ!”
ได้ยินดังนั้น ท่าทางของซูฮ่วนหลี่ก็ผ่อนคลายลงในที่สุด พ่อบ้านชราพูดมีเหตุผล แต่เงาแห่งการถูกหลอกลวงในปีที่ผ่านมา ๆ มาไม่อาจแก้ไขได้ด้วยคำพูดของเขา
พ่อบ้านชรามองใบหน้าผู้เป็นนายและรีบเอ่ยเสริม “นายท่าน ข้าบอกนางไปแล้วว่าท่านอนุญาตให้คุณหนูสองร่ำเรียนวิชา”
ใบหน้าของซูฮ่วนหลี่เปลี่ยนสีเล็กน้อยและเขาก็ตวาด “เจ้างูเฒ่า เจ้าหลอกข้างั้นเรอะ กล้าดีอย่างไร!?”
จากนั้นซูฮ่วนหลี่ก็หัวเราะและถอนหายใจ “เอาล่ะ…ข้ามีเวลาไม่มากนัก และทุกอย่างมันก็ผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ถ้าเอ้อร์หยาอยากจะร่ำเรียนวิชา ก็ปล่อยให้นางเรียนไป พรุ่งนี้เจ้าเข้าเมืองไปเชิญอาจารย์มาได้”
“ขอรับ เป็นวิธีที่ฉลาดแล้วขอรับนายท่าน” พ่อบ้านออกจากห้องตำราไปด้วยรอยยิ้ม
ซูฮ่วนหลี่ไม่มีอะไรจะพูด เพราะเขารู้ว่าชายชราผู้นี้แกล้งโง่เก่ง แม้เขาจะได้รับการช่วยเหลือจากเขาและกลายเป็นพ่อบ้านของตระกูลซู แต่เขาก็ไม่อาจสืบถึงเบื้องหลังของคนผู้นี้ได้เลยแม้แต่ชื่อของเขา เขารู้เพียงว่าอีกฝ่ายแซ่หลี่ และบางครั้งเขาก็เรียกอีกฝ่ายว่าพ่อบ้านหลี่
หลังจากนั้นทศวรรษกว่า ตาเฒ่าหลี่ก็ไม่เคยล้ำเส้นเขาเลย ซูฮ่วนหลี่ลดความระแวงลงและมองพ่อบ้านหรือผู้ดูแลหลี่คนนี้เป็นคนสนิทข้างกายตน
วันต่อมา พ่อบ้านหลี่ก็เชิญอาจารย์มาท่านหนึ่ง ซูฮ่วนหลี่รู้สึกประหลาดใจที่ได้เจอเขา เขารีบรุดมาหาด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ใช่ท่านหมอฉีหรอกหรือ? ท่านมีเวลามาเยี่ยมบ้านข้าในวันนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? บ้านอันทรงเกียรติของข้ารู้สึกเป็นเกียรตินักที่ท่านมา!”
ท่านหมอฉีมีทักษะด้านการแพทย์และมีชื่อเสียงโด่งดังในเมือง
“เฮ้ย! อย่าว่าเช่นนั้นเลยนายท่านซู” ท่านหมอฉีหัวเราะ “วันนี้ข้ามาที่นี่ในฐานะอาจารย์นะ”
พ่อบ้านหลี่อธิบายอยู่ข้าง ๆ “นายท่านขอรับ เหล่าอาจารย์ในโรงเรียนต่างบอกว่าไม่เพียงแต่ท่านหมอฉีจะมีทักษะการเเพทย์ดี แต่ยังสอนดีอีกด้วย! แล้วท่านหมอฉีก็มีเวลาว่างมากกว่าอาจารย์หลายคนในโรงเรียนเสียอีก”
ซูฮ่วนหลี่พยักหน้า “นั่นก็ดีเลย! ท่านหมอฉี เชิญ เราไปดื่มชาแล้วพบหน้าเอ้อร์หยากันดีไหม?”
ท่านหมอฉีพยักหน้าและเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
เห็นท่านหมอฉีเดินจากไป ซูฮ่วนหลี่ก็ย่นคิ้วและพลันกระซิบถาม “เขาเชื่อได้แน่หรือ?”
“แน่นอนขอรับ! เชื่อถือได้แน่นอน!”
พ่อบ้านหลี่แสดงสีหน้าเป็นกังวลเกินจริงและรีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว “ข้าได้ยินอาจารย์หลายท่านคุยกันว่าท่านหมอฉีอบรมเจ้าพนักงานเก่ง ๆ หลายคนมาหลายปี ตอนนี้เขามีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายในบั้นปลายชีวิตมาหลายปีแล้ว ข้ากำลังเสี่ยงดวงอยู่ และไม่คิดว่าเขาจะมาขอรับ!”
ซูฮ่วนหลี่ยิ้มและบอกพ่อบ้าน “พาชิงฮ่าวมาด้วยสิ มันไม่ต่างนักหรอกระหว่างการสอนเด็กสาวกับการสอนทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาว ให้เงินเดือนดี ๆ กับเขาด้วยล่ะ ข้าอยากให้ท่านหมอฉีรู้สึกถึงความกรุณาของตระกูลซู!”
“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ” พ่อบ้านหลี่รีบตรงไปที่ฝ่ายบัญชีเพื่อรับเงินทันที
หลังจากซูฮ่วนหลี่กับท่านหมอฉีคุยกันครู่หนึ่ง พวกเขาก็ตรงไปที่เรือนหลังเล็กของซูเอ้อร์หยาภายในเรือนฝั่งตะวันออก
ซูเอ้อร์หยากำลังฝึกเสวียนกงระดับแรกอยู่ในห้องของนาง ทันใดนั้นนางก็ย่นคิ้วและลืมตาขึ้น ในตอนนี้แม่บ้านหลี่ที่อยู่ด้านนอกประตูก็เรียกนาง “ออกมาเถอะเจ้าค่ะคุณหนูเอ้อร์หยา นายท่านกับท่านหมอฉีมาหาเจ้าค่ะ”
ท่านหมอฉี?
ซูเอ้อร์หยายิ้ม ดูเหมือนว่าชายชราจะอดไม่ได้ต้องทำอะไรสักอย่างเนื่องจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางสินะ
คอมเม้นต์