การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 21
เมื่อซูฮ่วนหลี่ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดจนถึงขีดสุด
จูเหยียนทำบ้าอะไรอยู่?
“พ่อบ้าน!”
หลังจากซูฮ่วนหลี่ตะโกน พ่อบ้านก็รีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเหงื่อท่วมศีรษะ “นายท่านมีคำสั่งอะไรหรือขอรับ? รถม้าที่จะเดินทางไปร้านผ้าไหมชำรุด ข้าเลยต้องวิ่งหาคนมาซ่อมน่ะขอรับ”
เห็นเสื้อคลุมของพ่อบ้านชุ่มไปด้วยเหงื่อ ซูฮ่วนหลี่ก็ไม่ได้ตำหนิเขาและทำเพียงพูดว่า “ไปที่เรือนตะวันตกแล้วพาเอ้อร์หยามาที่นี่”
คุณหนูสองกลับไปที่เรือนตะวันตกแล้วหรือ?
พ่อบ้านชราประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นฉีเซี่ยนชิงเขาก็เข้าใจในทันที เขารีบรุดไปยังเรือนตะวันตกอย่างร้อนใจโดยไม่เอ่ยอะไรและลืมเรื่องรถม้าเสียสนิท
“นายท่าน เอ้อร์หยาเป็นศิษย์ของข้า ข้ารู้สึกเป็นห่วงนางยิ่งนัก ข้าจะไปพร้อมกับพ่อบ้านด้วย”
ฉีเซี่ยนชิงสะบัดแขนเสื้อและตามพ่อบ้านชราไป
ซูฮ่วนหลี่จ้องมองท่านหมอฉีด้วยตาเบิกกว้าง เหตุที่เขาสั่งให้พ่อบ้านตามหาตัวเอ้อร์หยาก็คือเขาจะได้จับตาดูฉีเซี่ยนชิงด้วยตัวเอง ความอับอายของตระกูลเขาต้องไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่ตาเฒ่าคนนี้กลับจากเขาไปยังเรือนตะวันตกเสียนี้!
นี่มันน่าขันนัก!
ซูฮ่วนหลี่รู้สึกโมโหและวิ่งตามเขาไป
จากเรือนหลักตระกูลซูมาที่เรือนตะวันตก ทุกคนจะต้องผ่านสนามใหญ่สองสนามและทางเดินยาวสายหนึ่ง ปกติมันใช้เวลานานประมาณหนึ่ง แต่ครั้งนี้พ่อบ้านชรากับฉีเซี่ยนชิงกำลังรีบ พวกเขามาถึงประตูใหญ่ของเรือนตะวันตกภายในสามเค่อเท่านั้น
เพี๊ยะ!!
พวกเขาเพิ่งเข้าไปในเรือนตะวันตก แล้วก็ได้ยินเสียงฟาดแส้ดังมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวน ชายชราทั้งสองรู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาทั่วกาย
“ไม่นะ ผู้สืบทอด(คุณหนูสอง) ของข้าตกอยู่ในอันตราย!”
ชายทั้งสองมองหน้ากันและใช้วิชาตัวเบาเหาะไปยังทางตะวันตกเฉียงใตอย่างไม่รู้ตัว
หลังผ่านซุ้มประตูโค้งมาได้ กองเสื้อผ้าสกปรกก็ปรากฏในสายตา แม่บ้านชราร่างท้วมผู้มีหลังและไหล่หนาทรงพลังกำลังเงื้อแส้ในมือขึ้น และแส้กำลังจะฟาดลงมา!
“หยุด!”
ฉีเซี่ยนชิงถลึงมองแส้ จากนั้นเขาก็กำปลายแส้ไว้อย่างเร่งด่วนทันที ขณะเดียวกันพลังดำมืดก็เคลื่อนผ่านแส้เข้าไปในมือของแม่บ้านเจิ้ง พลังงานซัดนางกระเด็นจนกระแทกเข้ากับกองเสื้อผ้าสกปรกกลิ่นเหม็น
พ่อบ้านหลี่รู้สึกทึ่ง หากฉีเซี่ยนชิงไม่เผยตัวตอนนี้ พ่อบ้านหลี่ก็คงไม่พบว่าฉีเซี่ยนชิงฝึกวรยุทธ์ “ท่านเป็นใคร?”
ฉีเซี่ยนชิงย่อตัวลงสำรวจอาการบาดเจ็บของซูเอ้อร์หยา และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความร้าวราน แต่ดูเหมือนซูเอ้อร์หยาจะไม่เห็นเขา เนื่องเพราะนางกำลังจ้องมองที่ขนมปังข้าวโพดแตกหักและจมอยู่ในน้ำโคลน
“ตอบข้ามา!” น้ำเสียงของพ่อบ้านหลี่กระด้างขึ้น
ฉีเซี่ยนชิงตอบอย่างหมดความอดทน “หลี่หยิน ท่านเคยเป็นจอมยุทธ์ผู้มีชื่อเสียง แต่ตอนนี้กลับซ่อนตัวในตระกูลเล็ก ๆ และเป็นแค่พ่อบ้าน”
ดวงตาของหลี่หยินหดเกร็ง และเขาก็ก้าวถอยไปสองสามก้าว เขาไม่คิดเลยว่าชายตรงหน้าจะจำเขาได้เพียงแค่การกระทำไม่กี่อย่างของเขา คนกลุ่มนั้นไม่อาจปล่อยเขาไปได้เลยหรือ?
“อย่ากังวลไปเลยเจ้าหนุ่ม สำนักหยินโม่ถูกทำลายไปนานแล้ว ไม่มีใครมากังวลหรอกว่าหน่อเล็ก ๆ จะมีชีวิตอยู่หรือไม่” ฉีเซี่ยนชิงดูเหมือนสงบนิ่งแต่จริง ๆ แล้วโกรธเกรี้ยวราวกับภูเขาไฟกำลังจะระเบิด “ตอนนี้ข้าอยากรู้ว่า เป็นฮูหยินหนึ่งตระกูลซูใช่ไหมที่ทำร้ายผู้สืบทอดของข้า?”
เมื่อเขาพูดจบ เสียงฝีเท้าไม่เป็นจังหวะก็ดังมาจากด้านนอกซุ้มประตูโค้ง แม้หลี่หยินจะมีคำถามที่อยากถามอยู่มากมาย เขาก็ต้องหุบปากในตอนนี้
ผู้คนเดินตรงมายังประตูเรือน โดยมีซูฮ่วนหลี่อยู่ด้านหน้า ตามมาด้วยฮูหยินหนึ่ง ฮูหยินสอง ซูจื่อเผย และซูชิงฮ่าว เกือบทุกคนในตระกูลซูต่างเดินเข้ามา
“นายท่าน ฮูหยินทั้งสอง” พ่อบ้านหลี่ทำความเคารพและถอยไปข้าง ๆ
“เกิด…เกิดอะไรขึ้นที่นี่? เอ้อร์หยา…”
ซูฮ่วนหลี่เดินไปหาซูเอ้อร์หยาพร้อมมืออันสั่นเทา เขาเห็นเลือดสาดกระจายบนใบหน้าขาวราวเครื่องกระเบื้องเคลือบและเห็นรอยเลือดบนผิวขาวบนแผ่นหลัง เขาจำรอยยิ้มของนางในเรือนที่สดใสยิ่งกว่าดวงตะวันได้ ปกติเขามักมีท่าทางเยือกเย็นสุขุม แต่คราวนี้เขาถึงกับหลั่งน้ำตา
เขากำลังอยู่ในความทุกข์ตรม!
“นายท่าน…”
จูเหยียนปิดปากด้วยความอัศจรรย์ใจ แววตื่นตระหนกฉายในดวงตาอย่างยากจะปิดบัง สถานะของเอ้อร์หยาในใจของนายท่านเหมือนจะสำคัญยิ่ง เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
ฮูหยินสองอึ้งไปเช่นกัน นางหวาดกลัวมากขึ้นเมื่อเห็นจูเหยียน แม้นางจะได้ยินข่าวลือมาก่อนหน้านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นร่างบอบช้ำโชกเลือดของซูเอ้อร์หยา
“ผู้สืบทอดของข้า!” ฉีเซี่ยนชิงร้องอย่างน่าเวทนาราวกับรู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น มือชราสั่นเทาปาดคราบเลือดและน้ำตาบนใบหน้าของซูเอ้อร์หยา “ใคร…ใครทำเรื่องนี้? ช่างชั่วช้ายิ่งนัก มันคนนั้นต้องเป็นคนบาปอย่างไม่น่าให้อภัย นางทำร้ายสาวน้อยอายุสิบสี่แบบนี้ได้อย่างไร? ข้าจะไปร้องเรียนกับทางการ!”
หลี่หยินมองพวกเขาด้วยความสับสน ถ้าเขาไม่เห็นแม่บ้านเจิ้งถูกฉีเซี่ยนชิงตบอย่างแรง เขาก็คงเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งพูด
เขาช่างแสดงเก่งเสียจริง
หลี่หยินหลุบตาลงราวกับเขาไม่เห็นมัน ฉีเซี่ยนชิงไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเขา เขาเองก็เช่นกัน ไม่อย่างนั้นตลอดหลายปีที่เขาซ่อนตัวก็จะกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า
“ท่านจะร้องเรียนทางการไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงตระกูลซูเราจะต้องพังป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแน่!”
ซูฮ่วนหลี่สะอึกสะอื้นอย่างหนักหลังฉีเซี่ยนชิงตวาด ฮูหยินหนึ่งได้ยินเขาแล้วก็มีสีหน้าไม่ดีนัก ดูเหมือนนายท่านจะยังเห็นแก่ความรักที่มีมาหลายปีอยู่
ฉีเซี่ยนชิงโกรธจัดจนใบหน้ากลายเป็นสีเทา เขาเอ่ยกระแทกกระทั้น “ดี ๆๆ! ซูฮ่วนหลี่ ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลซูจะเป็นแหล่งซ่อนตัวของคนชั่วช้า ท่านถึงกับปกป้องหญิงชั่วผู้ทำร้ายเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ข้าเคยใจกว้างและเป็นคนตรงไปตรงมาตลอดชีวิตข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้ในตอนนี้หรอก!”
คอมเม้นต์