การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 22
ตอนที่ ๒๒
เมื่อฉีเซี่ยนชิงเอ่ยเช่นนั้นเเล้ว ใบหน้าของจูเหยียนก็พลันซีดเผือดอีกครั้ง นางตัวสั่นเทิ้มและกรีดร้อง “ตาเฒ่าต๊อกต๋อย! เรื่องในตระกูลซูเราไม่ใช่ธุระกงการอะไรของท่าน เอ้อร์หยาเป็นบุตรสาวของข้า ถ้าข้าโบยนางจนตายนั่นก็เป็นธุระของข้า! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้คนไล่ท่านออกจากบ้านตระกูลซู!”
บัณฑิตทุกคนล้วนอ่อนแอ จูเหยียนคิดว่าชายชราคนนี้จะเป็นเหมือนกับบัณฑิตคนอื่น ๆ และเขาก็ต้องกลัวคำพูดของนางแล้วจากไปพร้อมกับเงิน แต่ฉีเซี่ยนชิงช่างสุขุมนัก นางรู้สึกร้อนใจเล็กน้อยและสัมผัสได้ถึงหายนะที่ใกล้เข้ามา
ฉีเซี่ยนชิงถอนหายใจและเหลือบมองซูฮ่วนหลี่กับจูเหยียนด้วยดวงตาคมกล้า จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“ถ้าจะมีอาจารย์ผู้สอนเด็ก ๆ ของท่านในภายหน้าจริง ๆ ละก็ ข้าคงไม่สมกับที่เป็นชายชาตรี! สำหรับตำแหน่งราชการของซูชิงถาน ต่อให้ข้าต้องสละชีวิตตัวเอง ข้าก็จะหยุดยั้งไม่ให้เขาได้ก้าวหน้า! ถ้าหากมีชายจากตระกูลชั่วร้ายเช่นนี้ได้ถืออำนาจสักอย่างในมือ มันคงเป็นกาลกิณีของดินแดนต้าฮั่น! ข้าไปล่ะ!”
“ได้โปรดอย่าไปเลยท่านหมอฉี!”
ซูฮ่วนหลี่คว้าตัวฉีเซี่ยนชิงไว้ แต่ก็พบว่ามือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ แม้แต่หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว หากฉีเซี่ยนชิงกระจายเรื่องนี้ออกสู่ภายนอก ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศแน่!!
“อะไร? มีเรื่องอะไรที่ท่านต้องการคุยอีกหรือนายท่าน?”
ฉีเซี่ยนชิงสะบัดมือของซูฮ่วนหลี่ออก ไม่อาจซ่อนความรังเกียจในน้ำเสียงของเขาได้
ซูฮ่วนหลี่สูดหายใจลึกและไม่ได้เอ่ยอะไรอีกครู่ใหญ่ จากนั้นเขาจึงหันกลับมาและเอ่ยขึ้น “ฮูหยินหนึ่ง เจ้าเคยบอกว่าตระกูลแม่ของเจ้ามีเรื่องเร่งด่วนบางอย่าง พรุ่งนี้เจ้ากลับไปที่บ้านของเจ้าพร้อมซูจื่อเผยเถอะ”
“ท่านพี่!” เสียงของจูเหยียนสั่นเครือและนางก็ร่ำ ๆ จะร้องไห้ นายท่านถึงกับกล้าขับไล่นางออกไปเพื่อเอ้อร์หยางั้นหรือ?
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากจากไป! ข้าไม่อยากให้ท่านแม่จากไป!” ซูจื่อเผยกอดเอวซู่ฮ่วนหลี่ไว้ นางเบะปากพร้อมกับดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ดูน่าสมเพชและน่าสงสาร
หัวใจของซูฮ่วนหลี่สั่นคลอน แต่เมื่อเขาเห็นฉีเซี่ยนชิงที่มองมาอย่างเย็นชา เขาก็ทำได้เพียงสลัดซูจื่อเผยออกและเอ่ยเสียงเย็น “เป็นเช่นนั้นแหละ! ส่วนแม่บ้านเจิ้ง ข้าจะให้ใครสักคนส่งนางไปหาทางการ!”
แม่บ้านเจิ้งเพิ่งคลานออกมาจากกองเสื้อผ้าได้ เมื่อนางได้ยินดังนี้นางก็พลันกรีดร้อง “ไว้ชีวิตข้าด้วยเจ้าค่ะนายท่าน! ฮูหยินหนึ่งกับคุณหนูสามสั่งให้ข้าทำเช่นนั้น ข้าทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งของพวกนาง คุณหนูสอง ท่านเป็นเด็กดีมากเจ้าค่ะ! ท่านหมอฉี…”
คำพูดรุนแรงดังชัดในโสตประสาทของทุกคน และซูฮ่วนหลี่ก็โกรธจัดเสียจนแทบจะระเบิด
ฉีเซี่ยนชิงรู้ว่าพอแล้วสำหรับเรื่องนี้ ตระกูลจูเป็นตระกูลทรงพลัง หากเขาบีบบังคับมากเกินไป ซูฮ่วนหลี่ก็คงหาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงมีท่าทีอ่อนโยนขึ้นและเอ่ยออกมา “นายท่าน มันไม่จำเป็นที่ข้าจะต้องกระตุ้นหรอก ตระกูลที่มีทั้งคุณธรรมและพฤติกรรมที่ดีควรทำสิ่งนี้ หากเรื่องนี้ถือเป็นการท้าทายมากเกินไปก็โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
ซูฮ่วนหลี่เม้มปากอย่างขัด ๆ และรอยยิ้มก็ดูน่าเกลียดมากกว่าตอนที่เขาร้องไห้ ตอนนี้เขาเรียนรู้เกี่ยวกับความดื้อด้านของบัณฑิตอวดรู้แล้ว
แต่เขารู้สึกดีที่จูเหยียนผู้มีพฤติกรรมเหลือทนมาตลอดได้รับบทเรียนสั่งสอนในที่สุด
“นายท่าน แล้วคุณหนูสองล่ะขอรับ?” พ่อบ้านหลี่เอ่ยเตือนเขา
ซูฮ่วนหลี่ถลึงมองพ่อบ้านหลี่และเกือบจะเอ็ดเขา มันไม่เหมาะสมที่จะเอ่ยเรื่องนี้ในเวลาเช่นนี้!
เขาคิดว่าเมื่อจูเหยียนกลับมา เขาก็จะสั่งให้เอ้อร์หยาขอขมานาง เพื่อจะได้มีสายสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทว่าตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
ฉีเซี่ยนชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “หลี่หยินเหมือนจะเป็นห่วงเอ้อร์หยาโดยจิตใต้สำนึกนะ ดี ๆ…”
แต่ต่อให้หลี่หยินไม่ได้เสนอมัน เขาก็คงต้องกล่าวถึงมัน เขาแสดงละครมานานมากแล้วเพียงเพื่อซูเอ้อร์หยา
เมื่อซูฮ่วนหลี่เห็นดวงตาของฉีเซี่ยนชิง เขาก็หวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ได้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เอาล่ะ ๆ ได้น้อยเสียยาก ได้มากเสียง่าย!
“เอ้อร์หยา เจ้าทรมานอย่างมากในครั้งนี้ ท่านแม่ของเจ้าโง่งมไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น นางจะไม่ทำมันอีกแล้ว!”
เสียงของซูฮ่วนหลี่เข้มงวดอย่างยิ่ง จูเหยียนโกรธจัดเสียจนไม่อาจพูดออก นับตั้งแต่ที่นางแต่งงานกับซูฮ่วนหลี่ นางก็ไม่เคยทรมานกับความขมขื่นเช่นนี้มาก่อน
“มีเรือนแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของเรือนตะวันตก มันมีชื่อว่าเรือนจินหยวน นับแต่บัดนี้ไป เอ้อร์หยา เจ้าจะได้อาศัยอยู่ในเรือนจินหยวน”
จูเหยียนกรีดร้องเหมือนแมวถูกเหยียบหาง “ไม่นะ! ท่านพี่ ท่านบอกไว้ว่าจะเก็บไว้ให้ลูกชายเราอย่างไรเล่า ท่านจะให้มันกับเอ้อร์หยาได้อย่างไร?
ซูฮ่วนหลี่แปลกใจนักว่าทำไม่จูเหยียนจึงไม่เข้าใจสถานการณ์เลย แต่เขาก็ไม่อาจพูดอย่างชัดเจนได้ เขาทำเพียงเอ่ยแบบจนใจ “เมื่อเด็กคนที่ห้าเกิด เราจะสร้างเรือนหลังใหม่ให้เขา เป็นตามนี้ล่ะ ไม่ต้องเอ่ยอะไรอีกแล้ว!”
เขาหันกลับไปและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ เขาเอ่ยว่า “ท่านหมอฉี รบกวนดูแผลของเอ้อร์หยาเถอะ”
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะปกป้องศิษย์ของข้าเสมอ ในเมื่อเอ้อร์หยาเป็นนักเรียนของข้า ข้าจะดูแลนางเอง” เขาหันหน้าไปเอ่ยกับพ่อบ้านหลี่ “พ่อบ้านหลี่ โปรดเตรียมรถม้าเพื่อไปที่ไป๋เฉ่าถัง มันมียาหลายชนิดอยู่ที่นั่น และมันจะง่ายขึ้นที่ข้าจะรักษาบาดเเผลของเอ้อร์หยา”
พ่อบ้านหลี่พยักหน้าและจากไปเงียบ ๆ ฉีเซี่ยนชิงอุ้มซูเอ้อร์หยาที่ตัวเบาราวกับอากาศธาตุและตามหลังพ่อบ้านไป
เมื่อเรื่องนี้มาถึงจุดจบ ซูฮ๋วนหลี่ก็รู้สึกโล่งอกขึ้น เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อผุดพราย เขามองกลับไปและเมื่อเห็นฮูหยินหนึ่งกับซูจื่อเผย เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอีกครั้ง
คอมเม้นต์