การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 23
LS ตอนที่ ๒๓
“ทั้งหมดนี้ก็เพื่อชื่อเสียงของตระกูลซูเรา ข้าทำได้แค่ปล่อยให้เจ้าได้มีเวลาข้องใจระยะหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง เจ้าส่งตัวแม่บ้านเจิ้งให้กับทางการได้ไหม?”
เห็นซูฮ่วนหลี่แสดงทัศนคติด้านดีออกมา จูเหยียนก็ลอบถอนหายใจโล่งอก แต่สีหน้าของนางยังคงเฉยเมย
เป็นเพราะหยก ทำให้นางต้องขอเงินจากครอบครัวของนางบ่อยครั้งจนบิดามารดาของนางไม่พอใจ หากซูฮ่วนหลี่ยังดูแคลนนางอีก ชีวิตของนางต้องล่มจมแน่
เมื่อแม่บ้านเจิ้งได้ยินว่านางจะถูกฮูหยินหนึ่งเป็นคนจัดการ นางก็รู้สึกดีใจกับเรื่องนั้น แต่เมื่อคิดถึงพฤติกรรมก่อนหน้าของตนเองก็ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กและคิดว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้อย่างไรดี
“น้องสาว ข้าจะกลับไปที่เรือนของข้าก่อน” จูเหยียนเอ่ยกับฮูหยินสอง แต่เมื่อนางหันกลับมา นางก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น แม่บ้านเจิ้งหดกายราวกับเต่า หลังกลุ่มคนจากไปแล้วก็เหลือเพียงหลี่เยว่เหลียนกับสาวใช้ของนางอยู่ในเรือน
“นี่มันสงครามชัดๆ” หลี่เยว่เหลียนถอนหายใจและรำพึง “แต่หลังจากสงครามแล้วใครเป็นผู้ชนะกันนะ? นายท่านไม่อาจทำให้ทุกคนพอใจได้ จูเหยียนจะต้องเป็นเป้าของการถูกนินทาเกี่ยวกับการกระทำชั่วร้ายของนาง ผู้คนก็จะหวาดกลัวท่านหมอฉีเพราะเขาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของตระกูลซู ไม่นะ!”
สีหน้านิ่งสงบของหลี่เยว่เหลียนพลันดูจริงจัง นางลืมไปว่ายังมีคนอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้ชนะตัวจริง แต่นางตัวเล็กเหลือเกินจนหลี่เยว่เหลียนมองข้ามนางไปเมื่อก่อนหน้านี้
ทว่านับจากเริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด เอ้อร์หยาดูเหมือนจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นเลย หากมันเป็นกับดักที่สาวน้อยเป็นผู้วาง มันก็ถูกวางไว้อย่างแนบเนียน หรืออาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ
หลี่เยว่เหลียนส่ายหน้าและหัวเราะ จากนั้นนางก็หันหลังเดินจากไป
แม่บ้านเจิ้งตามฮูหยินหนึ่งเข้าไปในปีกอาคารด้วยความหวาดกลัว หลังจากฮูหยินหนึ่งสั่งให้แม่บ้านคนอื่นๆ ออกไปแล้ว นางก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น ฮูหยินหนึ่งมักจะดีต่อพวกนาง แต่สิ่งที่นางทำในวันนี้ถือเป็นการทรยศอย่างแท้จริง
“แม่บ้านเจิ้ง เจ้าอยู่กับข้ามานานกี่ปีแล้ว?”
ภายใต้น้ำเสียงสงบเย็นของจูเหยียนเหมือนมีไฟโทสะที่กำลังปะทุ หลังจากที่นางพูดจบ บรรยากาศก็เงียบกริบ
ฟุบบ!
แม่บ้านเจิ้งคุกเข่าโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น กายท้วมของนางทำให้ไม้กระดานสะเทือน “ฮูหยินหนึ่ง เป็นความผิดข้าเองเจ้าค่ะ! ข้ามันโง่เง่า มันเป็นอุบัติเหตุ เห็นแก่ที่ข้ารับใช้ท่านมาหลายปี ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”
จูเหยียนไม่พูดอะไร จนแม่บ้านเจิ้งร้อนใจมากขึ้น นางจึงคลานมากอดขาฮูหยินหนึ่งแล้วอ้อนวอนต่อไป นางรู้ถึงเบื้องหลังของตระกูลจู และนางก็รู้ว่าไม่มีทางไหนที่นางสามารถไปได้แล้วนอกจากการอ้อนวอนร้องขอ
เพี๊ยะ!
จูเหยียนตบนางอย่างรวดเร็วฉับไว! เสี้ยวหน้าครึ่งหนึ่งของแม่บ้านเจิ้งเริ่มบวมอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าบอกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าให้ใช้หวายเฆี่ยนในตอนเช้าและเย็นเท่านั้น ทำไมเจ้ายังเฆี่ยนมันในช่วงยามเฉินถึงยามอู่อีก?”
แม้แม่บ้านเจิ้งจะถูกตบ แต่นางกลับโล่งใจ นางกุมใบหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ข้าทำตามคำสั่งของท่านเสมอเจ้าค่ะ แต่วันนี้เอ้อร์หยาช่างดื้อด้านนัก นางขว้างขนมปังข้าวโพดทิ้งแล้วมันก็แหลกจมอยู่ในน้ำโคลนตรงหน้า ข้าก็เลย…”
“เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน?”จูเหยียนประหลาดใจเล็กน้อย ยัยนั่นไม่เคยขบถมาก่อน นางเกิดฉลาดขึ้นมาในหลายเดือนนี้หลังจากซูชิงถานสอนนางงั้นหรือ?
…
“เด็กโง่เอ๊ย เจ้าปล่อยให้พวกนางทุบตีเจ้างั้นเหรอ ทำไมไม่ขัดขืนล่ะ?”
ภายในไป๋เฉ่าถัง ฉีเซี่ยนชิงใส่ยาไปพร้อมๆ กับตำหนิซูเอ้อร์หยา “เสวียนกงที่ข้าสอนเจ้าทรงพลังอย่างยิ่ง ไม่ต้องไปกลัวแม่บ้านแก่ๆ คนหนึ่งหรอก”
“เรื่องนั้นข้าทราบเจ้าค่ะ”
ซูเอ้อร์หยาพลันยกมือขึ้น ดวงตาดำของนางดูบริสุทธิ์ไร้ที่ติ ฉายเป็นประกายเศร้าใจและหวาดกลัว “แต่ท่านแม่ข้าส่งนางมา ข้าทำอะไรผิดหรือเจ้าคะ? ทำไมนางถึงไม่ชอบข้า…”
“หญิงร้ายกาจคนนั้นทำกับเจ้าเลวร้ายขนาดนี้ เจ้ายังจะเรียกนางว่าท่านแม่อีกเรอะ!”
ฉีเซี่ยนชิงคลั่งเสียจนหายใจแทบไม่ออก แต่เขาไม่รู้ว่าจะปลอบนางอย่างไร เขาทำได้เพียงปาดน้ำตาให้นางอย่างระมัดระวัง เขาไม่อาจผละตัวไปพักผ่อนได้จนกระทั่งกล่อมซูเอ้อร์หยาให้นอนหลับราวกับกล่อมหลานสาวของเขาเอง
…
“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ถือว่าแล้วกัน”
หลังได้ยินสิ่งที่ฮูหยินหนึ่งพูด แม่บ้านเจิ้งก็โล่งใจ ฮูหยินหนึ่งจึงพูดต่อ “ข้าจะกลับไปที่บ้านตระกูลจูวันพรุ่งนี้ แต่ข้าอยากให้เจ้าชดใช้สิ่งที่เจ้าทำพลาดไป”
“ตามความประสงค์ของท่านเจ้าค่ะ ข้าจะทำมันอย่างดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ!”
เมื่อได้รับโอกาสเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจอีกครั้ง ดวงตาของแม่บ้านเจิ้งก็มีประกายความหวังขึ้นมา
“เจ้าแค่เอาสิ่งนี้ใส่ปากของเอ้อร์หยาในคืนนี้ แล้วคำสั่งของข้าจะถือว่าสมบูรณ์”
จูเหยียนหยิบขวดหยกออกมาเเละวางมันในมือของแม่บ้านเจิ้ง แม่บ้านเจิ้งตกใจเล็กน้อย ฮูหยินหนึ่งกำลังสั่งให้นางสังหารสาวน้อยคนนั้น
“เจ้าวางใจเถอะ เพราะยานี้ไร้สีไร้รส ท่านหมอฉีหาหลักฐานมันไม่พบหรอก ข้าจ่ายไปมากกว่าจะได้มันมา ในเมืองนี้ทุกคนล้วนรู้แผนผังของไป๋เฉ่าถัง ข้าจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก”
จูเหยียนเผยรอยยิ้มออกมาและเอ่ยกระซิบเสียงนุ่มกับเเม่บ้านเจิ้ง “เจ้าวางใจเถอะ เมื่อเรื่องนี้สำเร็จ เจ้าจะกลายเป็นคนที่ข้าเชื่อใจที่สุด และเจ้าจะได้รับโชคลาภอย่างไม่สิ้นสุดในภายภาคหน้า”
เมื่อแม่บ้านเจิ้งได้ยินดังนี้นางก็ตื่นเต้น นางจำได้ว่าโครงสร้างของไป๋เฉ่าถังช่างง่ายดายและไม่มีคนเฝ้ายาม หลังลังเลอยู่ครู่หนึ่งนางก็พยักหน้าในที่สุด
เมื่อนั่งในรถม้าที่ฮูหยินหนึ่งเตรียมให้นางเป็นพิเศษแล้ว หัวใจของแม่บ้านเจิ้งก็เต้นแรง นางกำลังฝันหวานถึงชีวิตที่ดีในอนาคตและสั่งให้ตัวเองจดจำทุกซอกทุกมุมของไป๋เฉ่าถัง
“มีห้องอยู่ห้องเดียวเท่านั้นในไป๋เฉ่าถัง ซูเอ้อร์หยาต้องอยู่ในห้องนั้นแน่ เมื่อใดที่ข้าปีนผ่านกำแพงด้านตะวันออกได้ ข้าก็ทำมันสำเร็จอย่างง่ายดาย”
นางตื่นเต้นเสียจนรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วนัก รถม้าหยุดอยู่ตรงหน้าภัตตาคารไป๋เว่ย มันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และไม่มีใครอยู่บนถนน
คอมเม้นต์