การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 49
LS ตอนที่ ๔๙
เมื่อซูหลี่เห็นภัตตาคารเต็มไปด้วยคนมานั่งทานข้าว นางก็ถามขึ้น “ท่านลุงเหอ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหมเจ้าคะ?”
เหอชี่ยิ้มกว้าง “ต้องขอบคุณเจ้า กิจการร้านอาหารดีไม่น้อย ข้าได้รับเงินมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก…”
“ดีแล้วเจ้าค่ะ ข้ามาที่นี่ด้วยเรื่องบางอย่าง ข้าได้ยินว่าฟ่างหยวนมีน้องสาวคนหนึ่ง สถานที่ที่พวกเขาอยู่กันช่างไม่ปลอดภัย ข้าเห็นว่ามีห้องผู้ช่วยว่างอยู่หลายห้อง ข้าเลยอยากจัดห้องสักห้องให้พวกเขาอยู่น่ะจ้ะ”
หลังจากเหอชี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ตกใจและดีใจ “อย่างนี้นี่เอง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฟ่างหยวนถึงอยากกลับบ้านทุกวัน ข้าคิดว่าเขาขี้เกียจ หากท่านห่วงใยผู้ช่วยของร้านอาหาร และร้านอาหารก็จะรุ่งเรืองมากขึ้นในภายภาคหน้า…หากไม่มีอะไรทำแล้วข้าจะเรียกเขามาที่นี่นะ”
“ต้องขอโทษที่รบกวนท่านด้วย” ซูหลี่พยักหน้าขอบคุณเขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เหอชี่ก็ยิ้มและเดินมาหานางพร้อมกับฟ่างหยวนที่กำลังงุนงง
“คุณหนู ข้าต้องกลับไปทำงานแล้ว ในครัวยุ่งมากเลย” เหอชี่จากไปหลังเอ่ยทักทายแล้ว
ตอนนี้มีเพียงซูหลี่กับฟ่างหยวนยืนอยู่ข้างประตูเรือน ฟ่างหยวนยืนเงียบแต่ในใจกลับเต้นแรง เหอชี่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา เขาเลยไม่รู้ว่าซูหลี่ต้องการให้เขาทำอะไร
เห็นฟ่างหยวนตื่นเต้นแต่แสร้งทำเป็นสุขุม ซูหลี่ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฟ่างหยวน ข้าจะให้เจ้าลาพักครึ่งวันนี้ นำทางข้าไปเถอะ”
“ลาพัก? เราจะไปไหนกันหรือขอรับ?” ฟ่างหยวนดูงุนงง
“สถานที่ที่เจ้าอยู่อาศัยน่ะ”
ฟ่างหยวนงงหนักกว่าเดิม ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใกล้ชิดถึงเพียงนั้น พูดตรง ๆ ก็คือเขามีความรู้สึกซับซ้อน แต่เขาไม่คิดเลยว่าในวันหนึ่งซูหลี่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นมาเจอเขา
หลังจากนั้นอีกสองนาทีกว่า ฟ่างหยวนก็พาซูหลี่เดินไปตามถนนทิศใต้ ใบหน้าของเขายังแดงซ่านไม่จางหายไป
“บ้าเอ๊ย..ข้ามีความคิดแบบนั้นได้อย่างไรกัน?”
ซูหลี่จ่ายค่าแรงเขาแล้ว ซึ่งก็เพียงพอต่อความขัดสนของเขา น้องสาวของเขาไม่ต้องทนหิวอีกแล้ว เขาทำงานหนักเพื่อเก็บเงินมากขึ้นและจะหาที่พักที่อื่นอยู่
“ฟ่างหยวน ข้าเคยให้เงินเจ้าไปห้าร้อยชั่งแล้วนะ” ซูหลี่ถามอย่างประหลาดใจ “ทำไมเจ้ายังอยู่ที่ถนนทิศใต้อยู่ล่ะ?”
ฟ่างหยวนรู้สึกอับอายและตอบตามตรง “ในฐานะผู้น้อย ข้าต้องขอโทษที่ต้องบอกท่านว่าเงินทั้งหมดถูกขโมยไป น้องสาวกับข้าเลยต้องอยู่ที่นี่ มันช่างน่าอายจริง ๆ ขอรับ…ในการพาท่านมายังสถานที่เช่นนี้”
“เจ้าไม่ต้องใช้คำแทนตัวเองว่าผู้น้อยเวลาอยู่ต่อหน้าข้าหรอก” ซูหลี่เอ่ยอ่อนโยน “ข้าเห็นแล้วว่าเจ้าแสร้งทำตัวเป็นก้อนกรวด ในฐานะคนที่มีศักดิ์ศรีอยู่ในใจแล้วเจ้ากลับทนมันเป็นเวลาชั่วคราวเพื่อที่จะอยู่รอด ข้าไม่ชอบเป็นผู้ที่สูงส่งกว่าเลย เราเป็นสหายกันได้ไหม?”
ฟ่างหยวนตกใจเล็กน้อย เห็นดวงตาใสซื่อของซูหลี่แล้วเขาก็อึ้งไป
นางอยากจะเป็นสหายกับข้าหรือ? ได้หรือ…
“อ้า!!!”
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังก้องภายในเเสงยามอัสดง
มันเป็นเสียงที่มีตามปกติของถนนทิศใต้แต่กลับทำให้ฟ่างหยวนมีสีหน้าเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเองเขาก็วิ่งตรงไปยังทิศทางของเสียง
“น้องสาว!”
ซูหลี่หยีตาและรีบตามเขาไปทันที
ฟ่างหยวนรีบระเบิดพลังถึงขีดสุดวิ่งผ่านถนนและเลี้ยวเข้าตรอกราวกับวิญญาณ เขาวิ่งตรงไปที่บ้านหลังใหญ่ตรงท้ายตรอก
“ตู้มม!”
ประตูไม้หนาหนักสองบานถูกฟ่างหยวนเตะจนเปิดออก พวกเขาเห็นอันธพาลกลุ่มใหญ่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ท่ามกลางกลุ่มอันธพาลคือฟ่างหลิงที่ถูกเปลื้องผ้าจนเหลือแต่ชุดชั้นใน
“พี่ชาย!”
ฟ่างหลิงกรีดร้องด้วยเสียงแหบพร่า นางอับอายเสียจนอยากตาย ขาของนางหุบเข้าหากันและไม่อาจทำได้แม้แต่ปิดตา
ดวงตาของฟ่างหยวนแทบถลนและแดงก่ำ เขามองกลุ่มชายตาโตนับสิบในเรือนและเอ่ยลอดไรฟัน “ไอ้พวกสารเลว!”
“ฮ่า ๆๆๆ…”
ผู้เป็นหัวหน้าที่เปลือยท่อนบนพลันชี้หน้าฟ่างหยวนและหัวเราะเสียงดังลั่น “พี่น้อง ได้ยินที่มันพูดไหม? ไอ้หนุ่มนี่เรียกพวกเราว่าสารเลวงั้นหรือ?”
อันธพาลคนอื่น ๆ รีบวางฟ่างหลิงลงทันทีและย่างสามขุมมาหาฟ่างหยวนและล้อมเขาไว้
เห็นว่าฟ่างหยวนสูงเพียงหัวไหล่ของพวกเขา ผู้เป็นหัวหน้าก็ยิ้มและก้มลง เขาตบหน้าฟ่างหยวนและเอ่ยก้าวร้าว “ข้าอยู่นี่แล้ว ไอ้หนุ่ม ฆ่าข้าเลย แกกล้าฆ่าหรือเปล่าล่ะ? แกเคยฆ่าคนมาก่อนไหม? น่าขันที่มีเด็กน้อยกล้าท้าทายข้าด้วย…”
ฉึก!
“อึก…”
หัวหน้าจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและมองลงมายังมีดสั้นที่ปักกลางหัวใจ ความรู้สึกหนาวเยือกและเจ็บปวดเเล่นไปทั้งร่างในชั่วพริบตาเดียว ไอ้หนุ่มนี่…มันกล้าฆ่าข้าเรอะ?
“ไอ้พวกสารเลว!”
ฟ่างหยวนชักมีดสั้นออกมาอย่างรวดเร็วจนเลือดสาดกระจายเต็มหน้า เมื่ออันธพาลคนอื่น ๆ ยังตกอยู่ในอาการตะลึงงัน เขาก็แทงมีดสั้นตรงหัวใจของอีกคนหนึ่งอย่างง่ายดาย
ในตอนนี้อันธพาลที่เหลืออยู่ต่างหวาดกลัวขึ้นมา พวกเขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มเหี้ยมโหดเช่นนี้มาก่อน แต่พวกเขาเองก็เป็นอันธพาลที่คุ้นเคยกับเลือดดีจึงไม่หนีไป ต่างดึงดาบเล่มใหญ่ออกมาทีละคนและพุ่งเข้ามา
“พี่ใหญ่และพี่สี่ตายแล้ว พวกเราจะแก้แค้นให้พวกเขาเอง!”
“หนึ่งต่อสิบหก อย่าไปกลัว!”
“ฆ่ามัน!”
ฟ่างหยวนดูเย็นชาราวกับอาวุธที่ไร้ความร้อน เขาเคลื่อนกายเข้าไปในฝูงชนและมีดสั้นของเขาก็ดูเหมือนอสรพิษปาดเข้าที่ลำคอของอันธพาลเหล่านั้น ทุกครั้งที่เขาสังหารคนหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดก็จะลอยคลุ้งไปทั่วทั้งเรือน
เคร้งง!
ดาบเล่มใหญ่ปะทะกับมีดสั้นจนเกิดเสียงกังวาน มือของอันธพาลมีเลือดไหลเพราะเเรงสั่นสะเทือนแต่เขาก็แค่นเสียง
“พี่ชายระวัง!” ฟ่างหลิงเห็นเงาหนึ่งเบื้องหลังฟ่างหยวนและกรีดร้องด้วยความหวาดผวาในทันที
ฟ่างหยวนรู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแต่ก็สายเกินไปที่จะหลบหลีก เขาถูกอันธพาลข้างหลังยึดไว้จนไม่อาจขยับตัวได้ อันธพาลตรงหน้าเขารีบแทงเขาในทันที!
คอมเม้นต์