การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 60

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 60 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ ๖๐

 

ใบสีแดงของใบเฟิงร่วงหล่นจากต้นเร็วยิ่ง ในชั่วพริบตาเดียวมันก็ถึงวันไหว้พระจันทร์

 

โคมไฟที่ทำจากเเตงปรากฎอยู่ทุกที่ในเมืองต้าซู พิธีศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นหนึ่งในเทศกาลใหญ่ของดินแดนต้าฮั่น ผู้คนจะสวมเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในวันนี้ พวกเขาจะทำพิธีบูชายัญที่บ้านเพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่ประทานประโยชน์ให้

 

ตรงกลางจตุรัสด้านหน้าตึกไป๋เว่ยในเมืองต้าซู เจดีย์สูงราวศอกหนึ่งยืนตระหง่านอยู่เพื่อให้ผู้คนมาสักการะขอความปลอดภัยให้กับชีวิต หลังจากที่พวกเขาก่อกองไฟและจุดไฟในใน เมื่อพวกเขาจุดไฟ เจดีย์ก็ดูราวกับต้นไม้เพลิงที่มีไฟลุกทุกด้าน

 

ซูหลี่สวมชุดตัดใหม่สีเหลืองอ่อน เปลวไฟสะท้อนเสี้ยวหน้าขาวครึ่งหนึ่งของนาง นางยืนตรงหน้าเจดีย์ด้วยสายตาที่ล่องลอยไปไกล ไม่มีใครบอกได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

 

แม่บ้านหลี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ตั้งแต่ที่คุณหนูกลับมาในวันนั้นนางก็เงียบขรึมไป แม่บ้านหลี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางมั่นใจว่ามันไม่ใช่สายตาคิดถึงใครบางคน นางผ่านประสบการณ์ตกหลุมรักมาแล้วในตอนยังสาว และนางก็เห็นความแตกต่างนี้

 

หลังสักการะเจดีย์แล้ว ซูหลี่่ก็หยัดกายตรงและเห็นชายหนุ่มสองคนเดินอยู่ในฝูงชนไม่ไกลนัก นางกระพริบตาและหันหลังกลับเข้าไปในตึกไป๋เว่ย แม่บ้านหลี่รีบตามไปและเอ่ยขึ้น “คุณหนู พิธีสักการะยังไม่จบนะเจ้าคะ จะออกไปแล้วหรือ?”

 

ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาหันหน้ามาและเห็นเงานั้นหายไปในทันที

 

“นางกำลังหลบหน้าข้าหรือ?”

 

ชายหนุ่มรู้สึกฉงนและเขาไม่เข้าใจเลยว่าอะไรอยู่ในใจของซูหลี่

 

ในตอนนี้หลิงโม่ก็เข้ามากระซิบ “คุณชาย ข้ารู้แล้วขอรับว่าคนทรยศคือใคร!”

 

ชายหนุ่มพลันได้สติและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยพลัง จากนั้นเขาก็หันหลังจากไปโดยไม่เอ่ยอะไร

 

หลิงโม่เดินตามไปพลางถอนหายใจโล่งอก หากคนทรยศถูกจัดการและพวกเขาได้กลับอวิ๋นจิง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง คุณชายก็จะลืมหญิงผู้นั้นไป และเขาก็ไม่ต้องเศร้าโศกนัก

 

“แม่บ้านหลี่ ข้ารู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยและจะกลับเรือนจินหยวนไปพักผ่อน ท่านอยู่ช่วยงานที่ตึกไป๋เว่ยเถอะจ้ะ”

 

ซูหลี่ออกคำสั่ง และก่อนที่แม่บ้านหลี่จะตอบรับนางก็สวมผ้าคลุมและเดินออกไปในความมืด

 

“คุณหนู!”

 

แม่บ้านหลี่รีบเรียกนาง นางกำลังสับสน คุณหนูเห็นอะไรบางอย่างหรือ? ทำไมนางถึงไม่เห็นมันล่ะ?

 

พิธีบุชายัญและเทศกาลโคมไฟในเมืองต้าซูจัดขึ้นที่กลางเมือง ซูหลี่หันเดินไปในถนนสองเลนและไม่ได้ยินเสียงแม่บ้านหลี่

 

ดวงตาของซูหลี่มีแววสดใสกลับคืนมาหลังจากที่นางสูดหายใจลึก นางแค่ต้องการก้าวไปข้างหน้าเพื่อเดินต่อ ทันใดนั้นเองเสียงเบาอย่างยิ่งราวกับอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวผ่านอากาศก็เข้ามาในหู

 

ดวงตาของซูหลี่หดเกร็งรุนแรงและนางก็เร้าพลังชีพออกมาปกป้องจุดสำคัญไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

 

ชั่วขณะต่อมา…

 

ฟิ้ววว!

 

มีดเย็นสามเล่มพร้อมกับแสงวูบวาบเฉียดแขนของซูหลี่และปักที่แผ่นหินสีน้ำเงินด้วยเสียงกังวาน เสียงเลือดพุ่งกระฉูด

 

ซูหลี่พลันรู้สึกว่าแขนขวาชาดิก จากนั้นร่างกายครึ่งหนึ่งของนางก็ชาไร้ความรู้สึก

 

“พวกมันมีพิษ!”

 

ซูหลี่เห็นแสงสีน้ำเงินบนคมมีดบิน นางจึงหยิบยาถอนพิษที่ทำเองใส่ปาก ในตอนนี้นางก็ได้ยินเสียงมีดบินอีกสามเล่มพุ่งมาที่หัวใจจากทางด้านหลัง

 

ในช่วงเวลาวิกฤต ซูหลี่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก นางนอนลงบนร่างกายซีกที่เป็นอัมพาตและหลบมีดบินทั้งหมดในทันที

 

ชายหนุ่มในที่มืดอดไม่ได้ที่จะกระซิบ เขาสามารถหาข้อแก้ตัวได้ในความผิดพลาดครั้งแรก แต่จะอธิบายเกี่ยวกับความผิดพลาดครั้งที่สองได้อย่างไร คุณหนูตระกูลซูฝึกวรยุทธ์งั้นหรือ?

 

คนจ้างไม่ได้บอกหรือว่าเป็นแค่หญิงสาวตัวน้อยที่ดูอ่อนแออย่างยิ่ง?

 

ขณะที่นักฆ่ากำลังร้อนใจและสงสัย ซูหลี่ก็แค่นเสียงเย็นชาและกระทืบเท้า แผ่นหินสีน้ำเงินแตกออกเป็นผุยผงในตอนนั้น ขณะที่ซูหลี่หายไปราวกับเงา

 

นักฆ่ายืนอยู่บนคานบ้านและเห็นภาพนี้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหนาวเยือกในใจ ความรู้สึกหนาวสะท้านแล่นตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปยังกระโหลก

 

บ้าเอ๊ย!

 

นางมีร่างกายอ่อนแองั้นหรือ?

 

เห็นชัดว่าหญิงสาวเป็นผู้อาวุโสในวงการวรยุทธ์! ถ้าเขาไม่ลอบทำร้ายนาง เขาก็ไม่มีโอกาสใดๆ กับซูหลี่

 

ใครมันมอบงานนี้ให้ข้า? ข้าจะไปฆ่ามัน!

 

นักฆ่าคำรามอยู่ในใจ ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกเบาหวิวบนหลังคอ จากนั้นก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้ แต่เขาไม่เห็นว่ามีใครมาประชิดตัวเขาเลย

 

“ช่างเลวร้ายอะไรเช่นนี้!”

 

นักฆ่าหวาดกลัวสุดขีด “ต้องเป็นผู้อาวุโสที่ฝึกจนบรรลุขุมพลังกำเนิดใหม่ขุมที่สี่ขึ้นไปแน่ ข้าถึงไม่สามารถหนีได้ด้วยขุมพลังขั้นแรกที่ข้าสำเร็จ! หญิงสาวคนนี้อายุสิบเจ็ดปีจริงหรือเปล่า? เป็นไปไม่ได้ นางจะต้องเป็นปีศาจเฒ่าที่ฟื้นความเยาว์วัยของตัวเองได้แน่ ๆ!”

 

ภาพที่เขาเห็นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ มันห่างไกลออกไปทุกขณะจากเมืองต้าซู นักฆ่ารู้สึกหวาดผวาในใจและอยากร้องขอความเมตตา แต่เขาก็อยู่ใต้การควบคุมของซูหลี่และไม่สามารถเปล่งคำพูดออกมาได้เเม้แต่คำเดียว

 

ซูหลี่ไม่หยุดจนเดินถึงป่ารกร้าง และสีหน้าของนางก็ซีดลงเล็กน้อย

 

ซูหลี่ไม่อยากเชื่อว่านางเกือบถูกฆ่าด้วยบุคคลนี้เพียงเพราะนางประมาทเพียงชั่ววูบ ซูหลี่หยีตาและดึงหน้ากากนักฆ่าออก มันเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย

 

นักฆ่าพบว่าจุดไร้เสียงของเขาถูกปลดแล้ว จึงรีบขอความช่วยเหลือ “ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยผู้อาวุโส! ข้าไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายท่าน มันเป็นความผิดพลาด โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้ายินดีทำทุกอย่างตามที่ท่านสั่ง”

 

นักฆ่าพูดลื่นไหลเสียจนดูเหมือนเขาพูดคำเหล่านี้มาหลายหน

 

ซูหลี่หัวเราะในลำคอครู่หนึ่งและน้ำเสียงของนางก็เย็นเยือกราวกับหิมะที่ถูกแช่เเข็งมาหลายพันปี “ข้าถามเจ้าสามคำถาม และถ้าเจ้าตอบดี บางทีข้าอาจพิจารณาปล่อยตัวเจ้าไป”

 

เมื่อนักฆ่าได้ยินดังนั้น เขาก็ลิงโลดและเอ่ยขึ้น “ท่านถามคำถามมาได้เลย ข้าจะตอบทุกอย่างที่ข้ารู้”

 

“ใครส่งเจ้ามาที่นี่?”

 

คำถามแรกของซูหลี่ทำให้นักฆ่ายิ้มขื่น “ข้าไม่รู้ ทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นโดยองค์กรหนึ่ง ข้าเป็นนักฆ่าระดับล่างของหอชำระเลือดและไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้มากนัก”

 

“งั้นเจ้าก็ไม่มีค่าอะไร” ซูหลี่เอ่ยกับตัวเองด้วยท่าทีปกติ นักฆ่าหวาดผวาขึ้นมา และก่อนที่เขาจะร้องขอความเมตตา ซูหลี่ก็หักคอเขาทิ้ง

 

กร๊อบ!

 

ในดวงตาของนางดูนิ่งสงบ หลังจัดการกับศพของนักฆ่าแล้ว นางก็หายไปในป่าลึกด้วยการกระโจนไม่กี่ก้าวด้วยวรยุทธ์ เสียงถอนหายใจพึมพำดังขึ้น

 

“นิสัยร้ายกาจจากชีวิตชาติก่อนของข้ายังมีผลกับชีวิตนี้อยู่แฮะ…”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด