การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 77
ตอนที่ ๗๗
“วันนี้แม่นางซูดูแปลกไปนะ อยู่ ๆ นางก็เกิดบ้าขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล!”
“ในความเห็นข้านะ พี่สาวหลี่ต้องหึงอยู่แน่ๆ !”
“อะไรนะ? หึงใคร?!” บรรดาพวกหัวทึบทั้งหลายต่างมองเฮยตานที่เพิ่งเอ่ยขึ้นมา
เฮยตานยิ้มแหยพลางกระซิบ “จะเป็นใครไปได้เล่า? ต้องเป็นท่านหลิงแน่ พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าท่านหลิงเป็นทุกข์เป็นร้อนเกี่ยวกับเจ้าหนุ่มนั่น? พี่สาวซูหลี่ต้องหึงแน่ ๆ นางเลยมีท่าทางหงุดหงิดเช่นนั้น”
“โห เรื่องนั้นเข้าท่าอยู่นะ!”
ฉู่ชิงหนิงกับหลิงหลี่หูไวเสียจนสามารถตรวจจับเสียงกระซิบของพวกเขาที่อยู่ไกลออกไปได้ ใบหน้าของฉู่ชิงหนิงมืดครึ้มในทันที เขาหันหลังกลับไปตะคอก “เจ้าพวกบ้า พวกแกนินทาแบบนั้นได้อย่างไรกันหา? ออกมาที่นี่เดี๋ยวนี้แล้วแลบลิ้นออกมา!”
เฮยตานเบิกตากว้าง เขาไม่คิดว่าจะมีคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขาพากลุ่มเด็กซนทั้งหลายออกจากลานไปอย่างรีบร้อน
“ฮ่า ๆ พวกหัวทึบนั่นพูดจาไร้สาระน่ะ อย่าถือสาเลย” ฉู่ชิงหนิงหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเจื่อนบนใบหน้า แม้เขาคิดว่าหลิงหลี่มีท่าทางสุขุม แต่เขาก็หวังว่าซูหลี่จะไม่มีทางชอบเขา!
หลิงหลี่พยักหน้าอย่างสงบ แต่ความสงบในใจของเขาก็ถูกรบกวน ในใจของเขากำลังคิดถึงการทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ภาพที่ซูหลี่มีน้ำตาเอ่อคลอชัดอยู่ในใจมากขึ้น
สาวน้อยคนนั้นมีอารมณ์ผิดปกติอย่างยิ่งต่อเขาตั้งแต่ที่พวกเขาได้เจอกัน นางรู้จักข้าจริง ๆ หรือเปล่า และจริง ๆ แล้วนางคือ…เสวี่ย?
แอ๊ด!
ในตอนนี้เสียงประตูแง้มเปิดก็ขัดความคิดของหลิงหลี่ ซูหลี่เดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย นางเหลือบมองหลิงหลี่ที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดอะไร แล้วนางก็ไม่พูดอะไรและหันหน้าหนี
ช่างน่าอายจริง ๆ…
ฟ่างหยวนส่ายหน้าและถอนหายใจ เขาเอ่ยในสิ่งที่ซูหลี่ไม่ได้พูดออกไป “ซูหลี่ขจัดพิษในร่างของหลิงโม่เสร็จแล้ว เส้นเลือดบนไหล่ของเขาก็ถูกเชื่อมประสานกัน แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสนักจนต้องพักการฝึกวรยุทธ์ไปก่อนและพักผ่อนเป็นเวลาสามหรือสี่วันถึงจะหายขาด”
หลิงหลี่โล่งใจและกลับเข้าไปในตึกไม้ไผ่เงียบ ๆ เพียงเพื่อเห็นว่าซูหลี่ผู้ดูเหนื่อยอ่อนกำลังทดสอบพิษของเขาอีกครั้ง
หลิงหลี่รู้สึกประทับใจอยู่ลึก ๆ และยืนเบื้องหลังซูหลี่ หลังจากนั้นครู่ใหญ่เขาก็เอ่ยเบา ๆ “ข้าต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งกับการกระทำของข้า เขาเป็นน้องชายที่มีความหมายกับข้ามาก…แล้วก็ขอบคุณนะ”
ซูหลี่หยุดการเคลื่อนไหว โทสะในใจของนางหายไปในทันทีหลังได้ยินสองคำหลังที่ชายหนุ่มก้าวร้าวเอ่ย นางแสร้งแค่นเสียงเย็นชา แต่มุมปากของนางอดไม่ได้ที่จะโค้งขึ้น
หลิงหลี่ยืนเบื้องหลังจึงไม่เห็นสีหน้าของนาง เขาเกาศีรษะหลังได้ยินเสียงแค่นหึเย็นชา เขาไม่เคยอยู่สองต่อสองกับสตรีในชีวิตทั้งชาติก่อนและชาตินี้เลย เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าซูหลี่กำลังอารมณ์ดีในขณะนั้น?
เป็นเวลาดึกดื่นแล้ว หลิงหลี่ไม่อาจนอนหลับได้ เขาตื่นขึ้นมาและเห็นซูหลี่จึงอดไม่ได้ที่จะเสนอขึ้น “วันนี้ดึกเกินกว่าที่เจ้าจะกลับไปแล้ว เจ้านอนพักที่นี่จะดีกว่านะ”
ซูหลี่ไม่ขยับในทันที จากนั้นนางก็หันกลับมา เปิดประตูไม้ไผ่ออกและเดินจากไปโดยไม่เหลือบมองหลิงหลี่แม้ขณะเดียว
หลิงหลี่รู้สึกสับสนมากขึ้น จากนั้นเขาก็พลันตระหนักได้ว่าซูหลี่เข้าใจผิดในอะไรบางเรื่อง เขาเพียงอยากให้นางอยู่ในเรือนเท่านั้น…
***
ความมืดมิดไร้ขอบเขตคงอยู่เป็นเวลาไม่สิ้นสุด หลิงโม่ลืมตาขึ้นด้วยความลำบากยากเย็น แต่ภาพที่เขาเห็นก็เลือนราง
นี่มันนรกงั้นหรือ?
เขาจำได้ถึงภาพที่ตัวเองหมดสติไปต่อหน้าซูหลี่
สายตาของเขาพร่าเลือนครู่หนึ่ง แต่มันก็พลันแจ่มชัดขึ้นมา ในที่สุดหลิงโม่ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันเป็น…หลังคา
ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือ?
หลิงโม่อึ้งไป เขาไม่มีพลังที่จะสู้กลับ และซูหลี่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่
ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาตะคุ่มหลายร่างเดินมาหาเขา เขาพยายามมองไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็เห็นกลุ่มเด็กชายกำลังกระพริบตา ดูเหมือนว่าพวกเขามีอายุไม่มากกว่าแปดหรือเก้าขวบ เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมอยู่ดูสะอาดเรียบร้อยยิ่ง
“เขาตื่นแล้วหรือ?”
เฮยตานชี้หน้าหลิงโม่และเอ่ยถาม เหล่าคนทึ่มเบื้องหลังเขาพลันพยักหน้าพร้อมกัน จากนั้นเฮยตานก็เขกศีรษะของเด็กหนุ่ม
“พวกเจ้ารออะไรอยู่? ไปพาพวกพี่ใหญ่มาสิ!”
กลุ่มเด็กชายรีบจากไปด้วยเสียงดังลั่น
พี่ใหญ่
หลิงโม่มีแต่ความสงสัย เขาถูกหัวหน้าองค์กรนี้ช่วยชีวิตไว้หรือ?
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง บุคคลหนึ่งก็ตรงเข้ามาในบ้านราวกับวิญญาณ หลิงโม่พลันเบิกตากว้างหลังเห็นบุคคลนั้น เขาไม่อยากเชื่อและตะโกนออกไป “นายท่าน?!”
หลิงหลี่ระบายลมหายใจโล่งอกเมื่อเห็นหลิงโม่พูดได้แล้ว เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใจเย็นไว้ ไอ้เด็กดวงเฮง ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
“แต่เมื่อว่านนี้…”
ก่อนที่หลิงโม่จะพูดจบ เฮยตานก็พูดขัดขึ้นมา “พี่สาวซูหลี่แบกท่านกลับมา ท่านเกือบตายแล้วพี่สาวซูหลี่ก็ช่วยชีวิตท่านไว้ ท่านหลิงก็เกือบตายแล้วเหมือนกันถ้าพี่สาวซูหลี่ไม่ช่วยเขาไว้”
“ไอ้หนู แกนี่ช่างพูดดีจริง ๆ เลยนะ!” ฉู่ชิงหนิงได้ยินเสียงอุทานของเฮยตานในทันทีที่เขาเข้ามา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มและเขาก็เดินเข้าไปข้างหลังเฮยตานเพื่อตีเขา
หลิงโม่รู้สึกสับสนกับเสียงกรีดร้องของเฮยตานทันที
มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย…
หลังเรื่องชวนหัวจบลง คนอื่น ๆ ก็ออกไป และเจ้านายกับบ่าวก็ได้สนทนากัน หลิงโม่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟัง
หลิงหลี่ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหลังได้ยินดังนั้นและเอ่ยขึ้นอีกชั่วขณะต่อมา “จ้าวหมิงมาจากหอชำระเลือด”
สายตาของหลิงโม่เปลี่ยนไป และเขาก็พบเหตุผลที่ซูหลี่ช่วยชีวิตเขาในทันที
คอมเม้นต์