การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 90
ตอนที่ ๙๐
“อาจารย์ฉุยเจ้าคะ!”
ซูหลี่ขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยและเอ่ยว่า “อย่าคิดว่าทุกคนจะงมงายเหมือนกับท่านสิเจ้าคะ แต่เมื่ออาจารย์ฉุยพอใจและหัวโบราณเช่นนี้ เราก็รู้ได้เลยเจ้าค่ะว่าท่านเป็นคนตื้นเขิน”
“เจ้าพูดอะไรอยู่น่ะ? เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนงมงายงั้นหรือ?! ”
ฮูหยินหยางกรีดร้อง นางอยากจะฉีกหน้าซูหลี่นัก!
“ข้าเป็นช่างปักเย็บในร้านปักเย็บแห่งเมืองมู่หยางนะ!”
“แม้แต่เจ้าของร้านปักเย็บยังชื่นชมข้ามากเสียจนข้าถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดวิชาเย็บปักถักร้อยในชาตินี้และเป็นเจ้าของร้านปักเย็บคนต่อไป”
“ระดับฝีมือการปักเย็บของข้าเป็นรองเพียงเจ้าของร้านเท่านั้น!”
“เจ้าอายุแค่สิบห้าปี เกลือที่ข้าบริโภคยังมากกว่าอาหารที่เจ้าทาน เจ้ากล้าดีอย่างไรมาหาว่าข้างมงาย?!”
ฮูหยินหยางเอ่ยทั้งหมดนี้ในชั่วลมหายใจเดียว จากนั้นสีหน้าของเหล่าคุณหนูในห้องก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำงานในร้านปักเย็บได้ เพราะมีร้านปักเย็บเพียงร้านเดียวเท่านั้นที่เปิดเป็นทางการในแต่ละเมือง ดังนั้นช่างปักเย็บในร้านปักเย็บจึงมีทักษะการเย็บปักถักร้อยทรงพลังมากที่สุดจากทั่วทั้งเมือง
ฮูหยินหยางแท้จริงแล้วเป็นคนจากร้านปักเย็บ ทำให้บรรดาคุณหนูทั้งหลายต่างมองนางในแง่มุมใหม่ บางทีนางอาจแต่งงานเข้าตระกูลหยางได้ด้วยฐานะช่างปักเย็บของนาง
แต่มีบุคคลหนึ่งที่มองด้วยสายตาประหลาดมากขึ้น
เม่ยรั่วหานมองซูหลี่ ดวงตาของนางเปี่ยมด้วยความใคร่รู้ ประหลาดใจ และชื่นชมอย่างแรงกล้ามากยิ่งขึ้น นางเป็นเพียงคนเดียวที่เห็นกระบวนการปักเย็บทั้งหมดของซูหลี่
ซูหลี่ไม่เพียงศึกษาตำราได้ดีเลิศ แต่ยังเป็นนักปักเย็บชั้นยอดอีกด้วย!
ได้ยินการกระทำอันล้ำเลิศเป็นชุดของฮูหยินหยาง ซูหลี่ก็ยิ้มบางและเอ่ยเสียงเรียบ “ในเมื่ออาจารย์ฉุยไม่เชื่อข้า ถ้าอย่างนั้นท่านลองแข่งขันกับข้าว่าใครจะเป็นผู้ที่ปักเย็บลายผ้าได้เร็วที่สุดไหมล่ะเจ้าคะ?”
ฮูหยินหยางเกือบจะตกลงในทันที ทันใดนั้นเองนางก็คืนสติและใจเย็นลงในที่สุด
นังแพศยาน้อยนี่สงบเยือกเย็นนัก นางต้องมีความลับอะไรบางอย่างแน่ หากฮูหยินหยางแพ้ซูหลี่ต่อหน้าศิษย์ทุกคน นางจะไม่รู้สึกอับอายจนต้องลาออกจากโรงเรียนสตรีมู่หยางเลยหรือ?
ซูหลี่มองฮูหยินหยางที่มีใบหน้าซีดเผือดไปพลางลอบย่นคิ้ว แล้วนางก็เอ่ยต่อ “ฮูหยินหยางผู้เป็นถึงช่างปักเย็บหยางแห่งเมืองมู่หยางกลัวที่จะแข่งขันกับศิษย์ตัวเองหรือเจ้าคะ?”
นังแพศยาน้อยนี่ช่างปากดีนัก!
ฮูหยินหยางโกรธเกรี้ยวเสียจนอวัยวะภายในของนางแทบจะพันกัน
นางใคร่ครวญอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองคิ้วของนางก็คลายลง นางเอ่ยอย่างดูถูกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าหรือจะแข่งกับเจ้าเรื่องเย็บปักถักร้อย? เจ้าไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก! แต่ว่า…เพื่อที่จะให้เจ้ายอมรับในความผิด ข้าจะแข่งขันกับเจ้าในเรื่องความรู้งานเย็บปักถักร้อยแล้วกัน หากข้าแพ้ ข้าจะยอมรับว่าเจ้ามีทักษะฝีมือเย็บปักถักร้อยดี หากเจ้าแพ้…ก็จงออกจากโรงเรียนสตรีมู่หยางเสีย! โรงเรียนสตรีมู่หยางไม่สอนหญิงสาวไร้มารยาทอย่างเจ้า!”
ทันใดนั้นเสียงอุทานดังเฮือกเป็นชุดก็ดังทั่วห้อง
ไร้ยางอาย!
ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
เม่ยรั่วหานโมโหขึ้นมาจนหน้าแดงก่ำ นางลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมา “อาจารย์ฉุย! ไม่ใช่ว่าท่านกำลังรังแกนางอยู่หรือเจ้าคะ? ซูหลี่อายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ขณะที่ท่านอายุมากกว่านางเกินสองเท่า แน่ล่ะว่าท่านต้องรู้เรื่องนี้ ไม่ยุติธรรมเลยเจ้าค่ะ!”
“ใช่เจ้าค่ะ ฮูหยินหยาง เลือกการแข่งขันในด้านอื่นเถอะเจ้าค่ะ!”
คำพูดของเม่ยรั่วหานก่อให้เกิดเสียงสะท้อนรัวเป็นชุดในทันที แม้เหล่าสาวน้อยจะมีความคิดของตัวเอง แต่พวกนางก็ยังเชื่อคนง่ายและเต็มใจที่จะเชื่อว่ายังมีความยุติธรรมอยู่ในหัวใจของคนทั้งโลก
“หุบปาก!”
ฮูหยินหยางหันกลับไปตวาดขู่พวกนาง ทุกคนต่างหน้าซีดและเงียบกริบ
เม่ยรั่วหานหน้าซีด แต่ยังแข็งใจโพล่งออกมา “ฮูหยินหยาง ท่านไร้ยางอายเกินไปแล้ว! ถ้าซูหลี่แพ้ ข้าจะออกจากโรงเรียนพร้อมกับนาง มันไม่เจ็บปวดนักหรอกเจ้าค่ะที่จะออกจากโรงเรียนเช่นนี้”
ซูหลี่อึ้งไป สายตาของนางเบนจากฮูหยินหยางไปหยุดบนร่างน้อยที่ยังสั่นเทิ้มอยู่บ้างแต่ปฏิเสธที่จะยอมจำนน
ไม่คาดคิดเลยว่าหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานในความเป็นจริงแล้วคือคนหัวร้อนคนหนึ่ง
ฮูหยินหยางได้ยินคำพูดของเม่ยรั่วหานแล้วก็โกรธจนคลุ้มคลั่ง นางพุ่งเป้าไปที่ซูหลี่ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาปกป้องนาง
ตระกูลเม่ยเป็นตระกูลใหญ่อีกตระกูลหนึ่ง และเม่ยรั่วหานก็เป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลนาง ฮูหยินหยางไม่อยากจะท้าทายนาง นางจึงเลือกที่จะหว่านล้อมหญิงสาวแทน
“คุณหนูเม่ย อย่าถูกการกระทำเสแสร้งของซูหลี่หลอกเอาเลย ในเมื่อนางโกงการเย็บปักถักร้อยได้ นางก็สามารถเล่นละครตบตาได้เหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นซูหลี่ยังบอกว่ามักจะมีคนที่ดีกว่าเราอยู่เสมอ ในเมื่อนางเชื่อว่าตัวนางดีกว่า ทำไมข้าจึงจะแข่งกับนางในเรื่องความรู้ไม่ได้ล่ะ?”
คำพูดฟังดูพิกลแต่มันก็ไม่มีคำตอบ
เม่ยรั่วหานรู้สึกเดือดจัดและหดหู่อยู่นาน ในที่สุดนางก็สบถออกมาอย่างไม่พอใจ “ท่านมันเป็นสตรีซับซ้อนและจิตใจชั่วร้ายนัก!”
ฮูหยินหยางมีสีหน้าบึ้งตึงและกำลังจะเถียงอีก แต่ก็มีเสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ต้องขอบคุณสำหรับการชี้แนะจากอาจารย์ฉุยนะเจ้าคะ ข้าขอรับการแข่งขันนี้ แต่ข้าก็หวังที่จะเปลี่ยนแปลงกฎอยู่ ข้าจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนหากข้าแพ้ แต่ถ้าอาจารย์ฉุยแพ้ นางก็แค่ต้องเอ่ยชมข้า อาจารย์ฉุยคิดว่ากฎพวกนี้ไร้ยางอายเกินไปหรือไม่เจ้าคะ?”
ตอนนี้นางท้าทายฮูหยินหยางอย่างเปิดเผย ซูหลี่จึงพูดอย่างไม่ลดละด้วยอาการก้าวร้าว
ฮูหยินหยางได้ยินแล้วก็รู้สึกดีใจอยู่ในใจ เด็กหญิงเจ้าเล่ห์คนนี้กล้าท้าประลองกับนาง ทักษะการเย็บปักถักร้อยของนางไม่ได้อยู่ในระดับชั้นยอดก็จริง แต่ความรู้ในด้านการเย็บปักถักร้อยของนางอยู่ในระดับสูงสุดและยังดีกว่าเจ้าของร้านปักเย็บในเมืองมู่หยางเสียอีก ซูหลี่กล้าแข่งกับนางแล้ว นางจะต้องเป็นฝ่ายแพ้อย่างแน่นอน!
“ตกลง!”
ด้วยเกรงว่าซูหลี่จะตลบหลัง ฮูหยินหยางก็รีบเปลี่ยนกฎในทันที
คอมเม้นต์