พันธสัญญามังกร1000ปี – มังกร1000ปี : ตอนที่7 ทดลองใช้หลิงเว่ยด้วยตัวเอง

อ่านนิยายจีนเรื่อง พันธสัญญามังกร1000ปี ตอนที่ 7 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่7 ทดลองใช้หลิงเว่ยด้วยตัวเอง

หลังจากการวิจัยหลายทศวรรษ ในที่สุดมนุษย์ก็ค้นพบว่า มังกรมีพลังที่มนุษย์ไม่มีนั่นคือความเกรงขามของมังกร

 

พลังนี้สามารถลดพลังการต่อสู้ของศัตรูได้ แต่ในทางกลับกันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของตนเอง ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ชัยชนะเป็นเรื่องง่ายดาย!

 

และมนุษย์ก็ค่อยๆพัฒนาความเกรงขามขึ้น ที่รู้จักกันในชื่อ ‘หลิงเว่ย’ หลิงฉวนนึกถึงสิ่งที่อาจารย์พูด แต่ไม่นานเขาก็ตกอยู่ในภวังค์แห่วความทุกข์อีกครั้ง ‘ผมรู้เคยสัมผัสถึงหลิงเว่ยได้แล้ว แต่สิ่งนี้จะใช้มันได้ยังไงกันนะ?’

 

หลิงฉวนหยุดอยู่ข้างทาง เขาวิ่งนานมากจนเกินจะทน ขาสองข้างของเขาหมดแรงเกลี้ยง ตอนนี้เขาไม่สามารถยกขาตนเองขึ้นได้เลย!

 

‘หรือจะต้องถ่ายโอนหลิงเว่ยที่สำผัสส่งไปถึงขา ไม่สนใจแล้ว ลองดูเถอะ?’ หลิงฉวนคิด

 

หลิงชวนหลับตาลง คิดแบบเดียวกับเมื่อวาน เพื่อพยายามสัมผัสถึงพลังหลิงเว่ย

 

เมื่อวานนี้เขาแทบจะรู้สึกได้ทักทีที่เขาหลับตาลง ‘แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น? โธ่เอ้ย เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงไม่รู้สึกแม้แต่เสี้ยวเดียวเลย?’

 

‘พระเจ้าให้ผมเป็นอัจฉริยะแค่วันเดียวเท่านั้นหรอ? นี่มันช่างน่าสมเพศจริงๆ!’

 

หลิงฉวนหลับตาลงอีกครั้ง พยายามสัมผัสและค้นหาภายในร่างกายของเขา!

 

ไม่นานหลังจากนั้น ความตื่นเต้นของหลิงฉวนก็เพิ่มพูนขึ้น

 

ทันใดนั้นแสงวาบก็แวบเข้ามา ‘ฮ่าฮ่า ในที่สุดผมก็พบคุณอีกครั้ง เชื่อฟังผมส้ะดีๆไปทางนู้นซะดีๆ!’ แสงสว่างจ้านั้นดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของหลิงฉวน

 

แสงสว่างจ้านี้ค่อยๆไหลไปหาขาของหลิงฉวน และแยกออกเป็นสองส่วนที่ฐานของต้นขาและผสานเข้ากับกล้ามเนื้อ!

 

หลิงฉวนลืมตาขึ้น ‘ฮ่าฮ่า รู้สึกดีมากเลย’ หลิงฉวนตะโกนด้วยความดีอย่างมาก แล้วก็รีบวิ่งไปที่โรงเรียนอีกครั้ง!

 

เท้าทั้งสองที่หมดเรี่ยวแรงไปก่อนหน้านี้ ในตอนนี้มันเหมือนมีกำลังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

‘ทำไมหลิงฉวนแห่งโรงเรียนมัธยมไห่เทียนยังไม่มากันนะ? คลาสกำลังจะเริ่มเร็วๆนี้แล้วด้วย!’ หยางเจิ้นเหลือบมองไปที่นั่งว่างของหลิงฉวน และพึมพำในปาก

 

“เขาเป็นอัจฉริยะเขามีความหยิ่งในตัวเองงั้นสินะ .. ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ไม่ต้องสนใจการเรียนได้แล้วใช่ไหม?” หยางเจิ้งบ่นอยู่คนเดียว

 

ในเวลานี้จู่ๆเสียงนึงที่ดูออกแนวหาเรื่องก็ดังขึ้นมา “ใช่ อัจฉริยะมันก็ต้องมีความหยิ่งทะนงมากกว่าเรา นี่แหล่ะคือระยะห่างของความต่างชั้น!”

 

หยางเจิ้นหันมองย้อนกลับไปและพบว่านั่นคือเสียงของเจียงเหอ ทั้งสอนนั้นไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน แต่แค่เจียงเหอรู้สึกอิจฉา ที่เมื่อวานที่หลิงฉวนสัมผัสหลิงเว่ยได้ในวันแรก

 

นี่แหล่ะนะเป็นผลจากการกระทำอันโดดเด่นของหลิงฉวน ตอนนี้ที่หลิงฉวนทำผิดพลาด ก็มีคนรอเหยียบย่ำทันที

 

หยางเจิ้นเตะเก้าอี้ไปด้านหลังและยืนขึ้น พร้อมกับพูดเสียงดังขึ้นว่า “แกมันหมายความว่ายังไง? ต้องการที่จะหาเรื่องกันงั้นหรอ?”

 

หยางเจิ้นและหลิงฉวนเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันมาตั้งแต่ที่พวกเขาอยู่มัธยมต้น หากมีคนพูดเรื่องร้ายๆ เกี่ยวกับพี่น้องของเขาแบบนี้ ไม่แปลกที่หยางเจิ้นจะไม่ยอมทน!

 

“ทำไม! อยากจะชวนตีงั้นหรอ! แกแค่คนเดียว จะมาทำซ่าอะไรตรงนี้! แกคิดว่าแกก็เป็นอัจฉริยะงั้นเหรอ? คิดว่าตัวเองสามารถต่อสู้กับพวกเราได้ด้วยตัวคนเดียวงั้นหรอ?  ถึงจะเป็นอัจฉริยะหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่เราก็สามารถต่อยให้ฟันล่วงได้ ฮ่า ๆ”

 

“พวกแกรอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวหลิงฉวนจะมาสั่งสอนพวกแกเอง” แม้ว่าหยางเจิ้นจะมีเพียงคนเดียว แต่เขาก็ไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะยอมจำนนต่อจำนวนคนที่ไม่เท่ากัน

 

เจียงเหอฟังคำพูดของหยางเจิ้นแล้วก็รีบสวนกลับทันที “แหม๋ พูดออกมาส้ะน่ากลัวเชียว อืมแล้วไงต่อ..? หลิงฉวน? มันอยู่ไหนล่ะ? แกเรียกมันมาสิ? อยากจะเจอเหมือนกัน!”

 

“โอ้ว งั้นหรอ? อยากให้ผมคุยด้วยงั้นหรอ?” ในเวลานี้มีเสียงส่งมาจากประตู ราวกับว่าเป็นแม่เหล็กที่ทุกคนในชั้นเรียนได้ยินแล้วต้องหันไปมอง

“หลิงฉวนเองหรอ มาได้สักทีนะ เยี่ยมมาก! ว่าแล้วที่นายไม่ใช่คนหยิ่งในพลังหรอก!” หยางเจิ้นรีบพูดทันที

 

“โทษทีผมนอนเลยเวลาไปหน่อย จนทำให้ตื่นสาย แล้วก็ต้องวิ่งมาตลอดทาง” หลิงฉวนพูดพร้อมกับเอายกมือขึ้นไปเกาหัวด้วยความเขิลอาย

 

หลังจากนั้นหลิงฉวนก็หันไปมองเจียงเหอ “แล้วมีไรกันเหรอ? อยากให้ผมคุยด้วยทำไม? คุณมีข้อสงสัยอะไรรึเปล่าหน่ะ?”

 

เจียงเหอมองหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็เงียบไปสักพักนึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี … สักพักก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ “แกบอกว่าแกวิ่งมาที่นี่? เป็นไปได้ยังไง?” ดูเหมือนว่าเจียงเหอจะพยายามจับผิดหลิงฉวน

 

“คุณพูดเองไม่ใช่หรอว่าผมเป็นอิจฉริยะ? อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับตัวคุณเองสิ เราเทียบกันไม่ได้!” หลิงฉวนตอบกลับทันทีตามสไตล์กวนๆของเขา

 

เจียงเหอที่ได้ยินแบบนั้นก็แทบคลั่ง อยากจะมีเรื่องไปส้ะตอนนี้ แต่บังเอิญเสียงกริ่งเริ่มเรียนดังขึ้น “หลิงฉวน แกรอก่อนเถอะ จะไม่ปล่อยให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแน่นอน!”

 

หลังจากพูดเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับไปนั่งที่ เมื่อวานนี้ที่นั่งได้รับการจัดสรรค์เรียบร้อยแล้ว

 

หลิงฉวนก็กลับไปนั่งรอการมาถึงของอาจารย์แบบเงียบๆ

 

และในเวลาเดียวกันเขาก็สอดส่องสายตาไปทั่วทั้งห้องเรียน ดูๆแล้วน่าจะมีสัก 60คนในชั้นเรียน ทุกคนก็ต่างนั่งนิ่งเงียบ ไม่ค่อยมีใครพูดคุยกัน เพราะนี่เป็นวันแรกๆของการเปิดเรียนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะนิ่งเงียบไม่รู้จักกัน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด