พันธสัญญามังกร1000ปี – มังกร1000ปี : ตอนที่16 การเลื่อนระดับชั้น

อ่านนิยายจีนเรื่อง พันธสัญญามังกร1000ปี ตอนที่ 16 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่16 การเลื่อนระดับชั้น

ผ่านไปไม่นาน พวกเขาทั้งสามคนก็เดินมาจนเห็นโรงเรียน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในโรงเรียนปรมาจารย์หลิงซือไม่กี่แห่งในโลก โรงเรียนมัธยมไห่เทียนจึงมีพื้นที่ที่กว้างขวางมาก ภายในโรงเรียนมัธยมไห่เทียนแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ ได้แก่ อาคารการเรียนการสอน หอพักนักเรียน สนามรบและอาคารเทคโนโลยีสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 5 6

 

สนามรบส่วนใหญ่มีไว้เพื่อให้นักเรียนใช้ในการรบ ซึ่งช่วยให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งส่วนตัวด้วยวิธีการต่อสู้ และบางครั้งก็อนุญาตให้นักเรียนใช้เป็นสถานที่สอบเลื่อนชั้นได้

 

อาคารเทคโนโลยียังเป็นสถานที่สำหรับวิจัยปรมาจารย์หลิงซือในโรงเรียน

 

อาชีพของปรมาจารย์หลิงซือมีมาเกือบพันปีแล้วและเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน อย่างไรก็ตามผู้คนยังมีหลายสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ ไม่เข้าใจเกี่ยวกับปรมาจารย์หลิงซือ ซึ่งต้องพึ่งพวกเขามาไขปริศนา และห้ามนักเรียนธรรมดาเข้าไปในอาคารเทคโนโลยี

 

ตลอดทางอันหนิงเดินอยู่ด้านหน้า ในใจของเธอคิดหลิงฉวนมาโรงเรียนกับเธอเพียงเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับเธอ เธอไม่เคยพูดกับหลิงฉวนเพื่อไม่ให้โอกาสเขา แต่ลึกๆแล้วในใจเธอก็แอบหวังให้หลิงฉวนทักหรือชวนคุย ‘ทำไมผู้ชายคนนี้ไม่มาคุยกับฉัน! ฮึ ถ้าไม่ชวนคุยก็ก็ช่างเถอะ ฉันก็ขี้เกียจไปเข้าใกล้’

 

หลิงฉวนและหยางเจิ้นเดินตามข้างหลัง มองไปที่ด้านหน้าก็เห็นท่าทาง หน้าตาปูดๆ นอยๆ ของอันหนิง พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดในตอนแรก

 

แต่สุดท้ายหยางเจิ้นทนไม่ไหวจึงเปิดบทสนทนาขึ้นมา “อาฉวน นายถูกรถชนแต่ไม่เป็นไรเลยหรอ แม้ว่าผมจะชะลอความเร็วลงแล้วก็ตาม แต่ในเวลานั้นความเร็วมันก็ยังมากอยู่ดี หากเป็นคนธรรมดาอย่างน้อยพวกเขาก็ต้องพิการ ไม่ก็ต้องเจ็บกล้ามเนื้อและกระดูก แต่นายกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเนี่ยนะ?”

 

ทุกคนยังคงนิ่งเงียบ หยางเจิ้นเลยพูดต่อ

 

“อาฉวน นายเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” หยางเจิ้นรู้สึกถึงบรรยากาศในตอนนี้และไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็อดไม่ได้อีกแล้วจึงต้องถามหลิงฉวนด้วยเสียงต่ำ

 

“อืม? นายรู้ว่าผมสัมผัสถึงหลิงเว่ยได้แล้วใช่ไหม นี่แหล่ะคือพลังของหลิงเว่ย!” หลิงฉวนไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิดหยางเจิ้น

 

ตอนนี้ทั้งโรงเรียนรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่สัมผัสได้ถึงหลิงเว่ยในวันแรก เขาถูกรถชนอีกครั้งในวันนี้และคนมีใจบางคนต้องคิดโยงกับเรื่องนั้นแน่ อยากปกปิดก็ปกปิดไม่ได้ นอกจากนี้หยางเจิ้นและตัวเขาเองก็เป็นเพื่อนซี้ ไม่มีอะไรต้องปกปิด

 

“โธ่ หลิงเว่ยมีพลังมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมเองก็จะตั้งตารอคอยเวลาที่ผมสัมผัสถึงหลิงเว่ยได้!”

 

“นายก็พยายามเข้าล่ะ.. การที่นายสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ได้หมายความว่าอย่างน้อยคุณก็สามารถสัมผัสกับหลิงเว่ยได้ ทุกคนต้องผ่านการตรวจร่างกายในโรงเรียนมัธยมต้นเพียงเพื่อคัดกรองคนประเภทนี้”

 

“อืม ผมรู้ ผมจะพยายามที่จะสัมผัสถึงหลิงเว่ยให้เร็วที่สุด ไม่ให้นายทิ้งห่างไปมากหรอก” หยางเจิ้นดูเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง “ถ้าแบบนี้แสดงว่าตอนนี้คุณสามารถควบคุมหลิงเว่ยได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วหรือ?”

 

“เอิ่ม! ยังไม่ถึงขั้นเชี่ยวชาญ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอะไรคือขั้นเชียวชาญ ตอนนี้ฉันทำได้แค่ถ่ายโอนหลิงเว่ยไปยังบางส่วนของร่างกายเช่นขา อย่างเช่นเมื่อกี้ผมก็ส่งหลิงเว่ยไปที่หลังขณะถูกรถชน แต่ผมยังไม่สามารถทำอย่างอื่นได้”

 

“ผมคิดว่านายควรไปหาอาจารย์เพื่อถามเรื่องนี้จะดีกว่า ผมไม่รู้เรื่องเหล่านี้มากนัก ดูเหมือนว่าชั้นของโรงเรียนมัธยมปลายไห่เทียนจะไม่แบ่งตามอายุ” หยางเจิ้นพูด

 

“อืม” หลิงฉวนพยักหน้า

 

“อ่าวแล้วแบ่งกันอย่างไร?” อันหนิงหันหน้ากลับมาถามหยางเจิ้น อันที่จริงความสนใจของเธออยู่กับหลิงฉวนและหยางเจิ้น แต่ทั้งสองคนไม่ได้คุยกับเธอ พวกเขาคุยกันเอง ที่แรกวางแผนที่จะเพิกเฉยพวกเขา แต่เธอรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เธอจึงหันมาพูดด้วยทันที

 

“โรงเรียนมัธยมไม่ใช่เรียนมัธยมปลายปีที่1ได้หนึ่งปีแล้วเลื่อนไปมัธยมปลายปีที่2เหรอ? มีความแตกต่างอะไรเหรอ?” อันหนิงในตอนนี้ก็ไม่สนใจอะไรมากแล้ว หันไปถามตรงๆ

 

“เอิ่ม!” เมื่อหยางเจิ้นเห็นอันหนิงหันกลับมา ทันใดนั้นหยางเจิ้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว

 

“ทำไมไม่พูดไม่ตอบหล่ะ? เมื่อกี้ยังได้ยินพวกนายคุยกันอยู่เลย ทำไมถึงเงียบหล่ะ?” อันหนิงเริ่มโกรธมากขึ้น โกรธมานานแล้วด้วย

 

“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆก่อน … พูดต่อก็ได้ … ผมได้ยินมาว่าในโรงเรียนมัธยมไห่เทียน ตราบใดที่ชั้นมัธยมปลายปีที่1สามารถสัมผัสถึงหลิงเว่ยและใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ คุณก็สามารถไปเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่2ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องรอเป็นปี แต่ถ้าคุณทำตามเงื่อนไขไม่ได้ในหนึ่งปี ก็ต้องเรียนชั้นมัธยมปลายปีที่1ในโรงเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง ผู้ที่ไม่สามารถเลื่อนชั้นในสามปีจะต้องถูกสั่งให้ออกจากโรงเรียน”

 

“อ่า! แบบนี้เองเหรอ! อันที่จริงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ปีแรกของโรงเรียนมัธยมปลายเป็นเรื่องของความรู้ทางทฤษฎี  ปรมาจารย์หลิงซือดูเหมือนจะต้องต่อสู้ในอนาคต มันเป็นการเสียเวลาทั้งนั้น! แล้วชั้นมัธยมปลายปีที่2ถึง3ล่ะ? มันเหมือนกันไหม?” อันหนิงถูกสนใจเรื่องนี้ออย่างมาก เหมือนกับทารกที่อยากรู้อยากเห็น

 

หลิงฉวนเห็นอันหนิงมีอารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา เด็กสาวนี่น่ารักและน่าสนใจจริงๆ!

 

หยางเจิ้นไม่สังเกตเห็นท่าทางของหลิงฉวน เขาจึงพูดต่อเพราะเขาไม่กล้าที่จะรุกรานแม่สาวน้อยคนนี้! “หลังจากเข้าสู่ปีที่สองของโรงเรียนมัธยมปลายทุกคนต้องเลือกทักษะที่ตรงกับตัวเอง บางคนเก่งในการต่อสู้ บางคนเก่งในการป้องกันและบางคนเก่งในการสืบสวน ทุกคนสามารถเลือกได้ตามลักษณะของตัวเอง และแต่ละหมวดมีครูประจำการสอนทักษะหลิงจี้ เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้พลังของหลิงเว่ยได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากที่พวกเขาผ่านเกณฑ์ทดสอบแล้วพวกเขาก็สามารถเข้าสู่ปีที่สามของโรงเรียนมัธยมปลาย ปีที่สามของโรงเรียนมัธยมปลายเป็นทักษะการต่อสู้ของจริง”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด