ยัยน่ารักนักสะสมของแถม – ตอนที่ 37 อาหารฟรี
อ่านนิยายจีนเรื่อง ยัยน่ารักนักสะสมของแถม ตอนที่ 37 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
ตอนที่ 37 อาหารฟรี
เกาย่าเหวินไม่คาดคิดว่าหลังเธอคิดว่าอวี่หนานเฉิงออกคำสั่งให้เซิ่งอั้นหรานกลับไปกับเธอ ชายชราจะขัดคำสั่ง
“ฉันคิดว่าจิงซีน่าจะไม่ต้องการแกมากกว่า”
ชายชราเปิดปากขึ้น มองอวี่หนานเฉิงอย่างไม่พอใจ และตำหนิเขาต่อหน้าเซิ่งอั้นหรานอย่างเย็นชา
“ฉันคิดว่าคุณเซิ่งพูดถูก แกลองดูตัวแกเองซะ แกดูเหมือนคนเป็นพ่อคนหรือยัง? แกไปอยู่ไหนตอนจิงซีกลิ้งตกบันได นอนหลับในห้องเพราะดื่มหนักไป?”
เดิมอวี่หนานเฉิงตำหนิตัวเองในใจ แต่ยิ่งชายชราพูด เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาไม่พูดถึงเรื่องให้เซิ่งอั้นหรานกลับไปอีก แต่ยืนขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“ถ้าเธออยากอยู่ ก็อยู่ได้ แต่ปู่ก็ควรอยู่ด้วย”
“แล้วฉันจะอยู่ไปเพื่ออะไร?” ชายชราแค่นเสียง” ฉันแก่แล้ว และก็ไม่มีเวลามาเก็บกวาดให้แกหรอก ฉันอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปี”
หลังพูด เขาก็เรียกพ่อบ้านและกลับไป
ก่อนกลับ เขาทำท่าโอเคให้เซิ่งเสี่ยวซิง และเซิ่งเสี่ยวซิงก็กะพริบตาให้เขากลับ
นี่มันเป็นเวลาที่ว่าที่สามีภรรยาในอนาคตจะได้อยู่ด้วยกัน!
หลังชายชรากลับไป เซิ่งอั้นหรานก็ดึงเก้าอี้และนั่งลงข้างเตียง วัดไข้บนหน้าผากอวี่จิงซี
อวี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว
“เขาไม่มีไข้ เธอจะแตะหน้าผากเขาไปทำไม?”
เซิ่งอั้นหรานเหลือบมองเขา ด้วยสีหน้าเหยียดหยามแบบไม่ปกปิด” เด็กมักมีไข้สูงตอนเจ็บป่วย โดยเฉพาะติดเชื้อหลังผ่าตัด ถ้าไข้สูง มันจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น โรคปอดอักเสบ คุณรู้อะไรบ้าง?”
พอได้ยิน สีหน้าของวี่หนานเฉิงก็อ่อนลงเล็กน้อย เขานั่งลงบนโซฟา
“เธอไม่ใช่หมอแน่เหรอ?”
“แม่ของหนูเคยเป็นหมอ” เซิ่งเสี่ยวซิงพลันวิ่งเข้าไปเกาะอวี่หนานเฉิง ปีนขึ้นบนตักเขา และนั่งลง
อวี่หนานเฉิงไม่รู้สึกไม่ชอบเด็กสาวคนนี้เลย แต่กลับชอบเธอเอามาก ๆ เขาไม่ว่าอะไรเธอ ราวกับมันเป็นแค่คำพูดไร้สาระของเด็กและพูดกับเซิ่งอั้นหราน” แล้วทำไมเธอไม่เป็นหมอ?”
“เพราะฉันไม่มีเวลาดูแลเด็กคนอื่น ฉันจึงไม่ได้เป็นหมออีก”
เซิ่งเสี่ยวซิงไร้เดียงสาและน่ารัก แต่คำอธิบายนี้กลับทำให้อวี่หนานเฉิงรู้สึกว่าเซิ่งอั้นหรานกำลังแถและพูดไร้สาระต่อหน้าเด็ก เขาพลันฟื้นคืนความเย็นชาขึ้นมา
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้หมอต้องเรียกให้จบมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ถึงเจ็ดปี มันไม่ใช่ว่าใครจะเป็นหมอได้”
วุฒิการศึกษาปลอมของเซิ่งอั้นหรานถูกเปิดเผยตั้งแต่การสัมภาษณ์สามเดือนก่อน เธอเป็นคนที่ไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่ยังพูดถึงการเป็นหมอ อย่างมาก เธอก็คงเป็นได้แค่พยาบาล
ดวงตาของเซิ่งอั้นหรานหม่นลง แต่เธอไม่ปฏิเสธมัน ใบหน้าของเธอดูหดหู่
พอเห็น หัวใจของอวี่หนานเฉิงก็รัดแน่น เขารู้สึกเบื่อตัวเองมาก เขารีบระงับคำพูดเยาะเย้ยที่เตรียมไว้
เซิ่งอั้นหรานดูแลอวี่จิงซี คลุมตัวเขาด้วยผ้าห่ม ผ่านไปสักพัก โดยไม่รู้ตัว เปลือกตาเธอเริ่มหนักและเธอก็ผลอยหลับไปข้างเตียง
ตอนเช้า แสงแดดด้านนอกหน้าต่างลอดเข้ามา เธอตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย แต่ฉากตรงหน้าเธอทำให้เธอรู้สึกซับซ้อนอย่างมาก
เซิ่งเสี่ยวซิงนั่งบนตักของอวี่หนานเฉิง เล่นเกมคอนโซลด้วยสองมือ มันดูเหมือนเธอจะพบกับความยากลำบาก เธอจึงขอความช่วยเหลือและแหงนมองอวี่หนานเฉิง
“ลุงอวี่ หนูจะผ่านด่านนี้ได้ยังไง?”
อวี่หนานเฉิงดึงเครื่องเล่นเกมไป กอดเธอไว้ในอ้อมแขน และสอนเธออย่างใจเย็น
“แบบนี้ ทางนี้จะเร็วกว่า..”
หลังเล่นอยู่อย่างนี้เป็นเวลานาน อวี่หนานเฉิงก็พบว่าเซิ่งอั้นหรานกำลังจ้องเขา และรอยยิ้มอ่อนโยนบนหน้าของเขาก็ลดลง” ตื่นแล้วเหรอ?”
เซิ่งอั้นหรานเองก็ได้สติ เธอยืนเท้าเอวและบ่น” ที่ฉันง่วงมากก็เพราะฉันทำงานล่วงหน้าเพื่อคิดแผนงานเลี้ยงครบรอบ”
“ถ้าเธอเหนื่อย ฉันสามารถให้วันหยุดกับเธอได้”
เซิ่งเสี่ยวซิงเล่นเกมกับเขาทั้งเช้า หลังลบหมอกควันเมื่อคืนไป อวี่หนานเฉิงก็อารมณ์ดีมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ” เซิ่งอั้นหรานเม้มปาก
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย และก็มีบางคนสงสัยว่าฉันมีแรงจูงใจซ่อนเร้น ถ้าฉันไม่ทำงานอีก ฉันกลัวว่าผู้คนจะนินทาฉันกันมากขึ้น พอพูดถึงเรื่องนี้ ประธานอวี่ ฉันต้องขอย้ำอีกครั้ง ฉันมาที่นี่เพราะเสี่ยวซิงซิงมีความสัมพันธ์กับจิงซี อย่าคิดว่าคุณน่าหลงใหลจนทุกคนอยากจะจับคุณกันหมด”
อารมณ์ดีของอวี่หนานเฉิงพลันหายไป เขาเลิกคิ้ว จ้องเซิ่งอั้นหราน
พอเห็นว่าสงครามกำลังจะเริ่ม เซิ่งเสี่ยวซิงก็รีบพูด” แม่ ถ้าแม่ยุ่ง แม่ก็กลับก่อนเลย หนูจะอยู่นี่กับพี่ชายจิงซี”
เซิ่งอั้นหรานขมวดคิ้ว” ลูกจะไม่กลับ?”
“กลับไปทำอะไร?” เซิ่งเสี่ยวซิงทำเหมือนอวี่หนานเฉิงเป็นม้านั่งมนุษย์โดยไม่ยกหัวขึ้น
“แม่จะทำซุบปลามาให้พี่ชายจิงซีตอนบ่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? หนูขี้เกียจวิ่งไปมา แถม วันนี้เป็นวันอาทิตย์”
นี่ลูกยังจำซุบปลาดำได้ด้วย? เซิ่งอั้นหรานรู้สึกปวดหัวมาก และกลัวว่าอวี่หนานเฉิงจะสงสัยว่าเธอมีเจตนาอื่นเพราะการผิดคำพูด
อวี่หนานเฉิงเปิดปากขึ้น’ วันนี้ฉันจะไม่เข้าบริษัท ฉันจะดูเสี่ยวซิงที่โรงพยาบาลเอง เธอไปเถอะ ไม่ต้องห่วง”
“หือ?” เซิ่งอั้นหรานมึนงง นี่คือจังหวะช่วยเธอเลี้ยงลูก?
“อย่าลืมนำอาหารกลางวันมา สำหรับสามคนนะ”
คำพูดต่อมาของอวี่หนานเฉิงทำให้หัวใจของเซิ่งอั้นหรานดิ่งลงเหว มันคืออวี่หนานเฉิงที่ไม่อยากเสียเปรียบอะไร มันไม่ขาดทุนอะไรที่จะเก็บเสี่ยวซิงไว้ที่นี่เพื่อแลกกับอาหารฟรี
เพื่อทำแผนงานเลี้ยงให้เสร็จ ถานซูจิงได้ขอเพื่อนเธอในแวดวงที่เชี่ยวชาญการจัดงานเลี้ยงให้มาเป็นที่ปรึกษา เธอรีบมาก เธอจึงไม่เสียเวลาพูดเถียงและทิ้งเซิ่งเสี่ยวซิงไว้ เธอหาวใส่ที่ปรึกษาหลายครั้งและดื่มกาแฟไปหลายแก้วติดต่อกัน
จากนั้นเธอก็วิ่งไปตลาดตอนบ่าย ซื้อปลาดำกลับมาทำซุบ และทำของทอดอีกสองจอด เก็บพวกมันใส่กล่องอาหารสี่ชั้น และนำไปโรงพยาบาล
อวี่จิงซีตื่นแล้ว แขนข้างหนึ่งเข้าเฝือก มือข้างที่พลิกถูกดึงกลับแล้ว เขาดูเหมือนจะขยับตัวไม่ได้มาก ได้แต่มองอาหารตรงหน้าอย่างน่าสงสาร
“พ่อจะป้อนให้” อวี่หนานเฉิงตักซุบไปจ่อปากเขา
แต่เจ้าตัวน้อยกลับไม่ยอมไว้หน้าเขาเลย เขาเบือนหน้าหนี ไม่แม้แต่จะชายตาแลมองเขา แต่กลับจ้องเซิ่งอั้นหรานอย่างกระตือรือร้น มันเป็นไปตามที่ชายชราพูดจริง อวี่จิงซีตื่นและเมินเขา
“เอามานี่” เซิ่งอั้นหรานแย่งชามกับช้อนมาป้อนให้อวี่จิงซีเอง
หลังเปลี่ยนให้เซิ่งอั้นหรานเป็นคนป้อน เจ้าตัวน้อยก็ยอมเปิดปากและซดซุบปลาชามโต
อวี่หนานเฉิงดูขมขื่น
“จิงซี พ่อเป็นพ่อของลูกนะ”
อวี่จิงซีจ้องเขา และยื่นเท้าออกจากผ้าห่ม เตะต้นขาอวี่หนานเฉิงสุดแรงจนใบหน้าของอวี่หนานเฉิงบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“ลูกทำอะไร?” แม้มันจะไม่เจ็บ อวี่หนานเฉิงก็ยังหงุดหงิด
คอมเม้นต์