บทที่ 2 เพื่อที่จะแข็งแกร่ง

 

 

ในเดือนต่อมาเซียร์ย่านอนอยู่เฉยๆในห้องฝึกของทารกและเติบโตขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อยภายใต้การดูแลของพยาบาลในห้องฝึก

 

แม้นิสัยตามธรรมชาติของชาวไซย่าจะไม่แยแส แต่การดูแลเด็กแรกเกิดของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมมาก

 

ห้องฝึกเหล่านี้ล้วนใช้เทคโนโลยีล่าสุดของดาวดาด้าซึ่งไม่เพียงแต่ที่นอนจะนุ่มเหมือนไหม มีแม้แต่สภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและสะดวกสบาย พวกเขายังจัดให้เด็กเล็กได้รับการเลี้ยงด้วยสารอาหารปริมาณมากเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและแข็งแรง

 

และอีกหนึ่งเดือนต่อมา เซียร์ย่าจ้องไปที่หน้าจอแสดงผลแบบโปร่งใสข้อมูลที่แสดงด้านบนบอกให้เห็นว่าพลังการต่อสู้ของเขาถึง 95 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วพลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นมา 6 แม้ว่าข้อมูลเล็กน้อยนี้จะไม่มาก แต่ก็ค่อนข้างดี สำหรับทารกแรกเกิดของชาวไซย่า

 

เซียร์ย่ารู้ดีว่าพรสวรรค์​แฝงของเขานั้นยอดเยี่ยมในหมู่นักรบระดับกลางและแม้ว่าจะไม่เก่งเท่านักรบระดับสูงที่มีเกิน 100 ตั้งแต่แรกเกิด อย่างไรก็ตามมันค่อนข้างดีสำหรับทารกแรกเกิดทุกคน

 

มีเด็กชาวไซย่าเกือบ 10,000 คนที่เกิดบนดาวเบจิต้าทุกปี มีนักรบระดับสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เป็นส่วนหนึ่งของเด็กเหล่านี้มีไม่ถึงหนึ่งร้อยคนส่วนที่เหลือเป็นนักรบระดับต่ำจำนวนมากและนักรบระดับกลางอีกเล็กน้อย

 

นักรบระดับต่ำเหล่านี้จะถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ระดับต่ำบางดวงเพื่อปฏิบัติภารกิจเมื่อโตในระดับนึงในขณะที่นักรบระดับกลางจะอยู่ในดาวเบจิต้าเป็นเวลาสามปีและได้รับการฝึกฝนก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ

 

สำหรับนักรบระดับสูงพวกเขาเป็นคนที่โดดเด่นและมีค่าของดาวเบจิต้าดังนั้นพวกเขาจึงได้รับการฝึกฝนและการดูแลที่ดีที่สุดของดาวเบจิต้า จนกว่าพวกเขาจะกลายเป็นนักรบชั้นนำของชาวไซย่า

 

มันจะโหดร้ายเมื่อพูดแบบนี้ ชาวไซย่าปฏิบัติต่อคนรุ่นต่อไปเช่นนี้เสมอ หลังจากที่เกิดมาระดับชั้นจะถูกกำหนดอย่างชัดเจน นักรบระดับสูงได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดนักรบระดับต่ำจะถูกส่งออกไปเพื่อต่อสู้กับชีวิตและความตายจนกว่าจะมีพละกำลังเพียงพอที่จะกลับมาที่ดาวเบจิต้า

 

ชาวไซย่าเป็นพวกที่โหดร้ายอย่างมากสำหรับคนธรรมดา พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ต่อสู้โดยกำเนิดพวกเขาไม่ต้องการผู้ที่อ่อนแอมีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถอยู่ในดาวเบจิต้าได้

 

ในช่วงเดือนนี้ เซียร์ย่า ยังได้พบกับพ่อแม่ของเขาซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาชาวไซย่า กฎแห่งป่าแทรกลึกเข้าไปในไขกระดูกของพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงรีบออกไปปฏิบัติภารกิจหลังจากที่ได้เห็นเซียร์ย่า

 

เซียร์ย่าเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ และหลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากที่พ่อแม่จากไป

 

อย่างไรก็ตามเซียร์ย่าบังเอิญเห็น บาร็อค ในเวลานั้น

 

ตอนนี้บาร์ดอคยังเด็กมากอาจจะอายุไม่ถึงยี่สิบปีเขามาพร้อมกับเพื่อน ๆ เพื่อเยี่ยมเด็กที่พึ่งคลอดของสหาย

 

บาร์ด็อคยังเด็กมากซึ่งหมายความว่ายังมีเวลาอีกนานพอสมควรก่อนที่ฟรีสเซอร์จะทำลายดาวเบจิต้า ประมาณสิบปีหรือมากกว่านั้นมันเพียงพอแล้วที่เขาจะเติบโตอย่างช้าๆแล้วออกจากดาวเบจิต้า

 

การค้นพบนี้ทำให้ เซียร์ย่า​ ปลาบปลื้มใจมาก

 

“ เฮ้เฮ้ อย่างน้อยก็อีกสิบปีก่อนที่ดาวเบจิต้าจะถูกทำลาย มีเวลามากพอที่ฉันจะเติบโตเป็นนักรบที่ทรงพลัง” ใบหน้าเล็ก ๆ ของเซียร์ย่าแสดงรอยยิ้มที่มีความสุขดวงตาของเขากระพริบด้วยความมั่นใจ

 

“ ต่อไปนี้ฉันจะต้องฝึกที่ดาวเบจิต้าเป็นเวลาสามปีจากนั้นฉันจะถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ที่ห่างไกลเพื่อปฏิบัติภารกิจ ฉันอาจจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการบินไปยังโลกอย่างลับๆ” เซียร์ย่าแอบคิดในใจอย่างไรก็ตาม เซียร์ย่ารีบส่ายหัวทันทีและปฏิเสธแผนการเดินทางไปยังโลก

 

เพราะยังเร็วเกินไปที่จะไปยังโลกในตอนนี้เขาจะต้องเตรียมตัวอีกสองสามปีและรอให้ร่างกายของเขาเติบโตขึ้นอีกสักหน่อย

 

ที่สำคัญกว่านั้นยานอวกาศของไซย่าแต่ละลำมีระบบกำหนดตำแหน่งและเขากลัวว่าการเดินทางไปยังโลกในตอนนี้จะทำให้ความสนใจของฟรีสเซอร์เปลี่ยนไปก่อนเวลาและจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับโลก

 

ตั้งแต่เขามาที่โลกของดราก้อนบอลและโชคดีมากที่ได้กลายเป็นชาวไซย่า เซียร์ย่าจึงไม่ได้วางแผนที่จะตั้งรกรากอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งโดยใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาจากนั้นก็เหมือนกับชาวไซย่าทั่วไปที่ตายไปพร้อมกับดาวเบจิต้า

 

เขาต้องการเป็นคนที่แข็งแกร่งและแข็งแกร่งพอกุมชะตาชีวิตไว้ในมือของเขา

 

ฟรีสเซอร์, Androids, จอมมารบู พวกเขาทั้งหมดจะเป็นหินรองเท้าให้เขาไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ เขาจะต้องก้าวข้ามต้นฉบับและมีพลังมากกว่าซุน โกคูและเบจิต้า

 

ในขณะนี้เซียร์ย่าต้องการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้การเติบโตของเขาดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงและราบรื่นยิ่งขึ้น

 

ในบรรดาชาวไซย่าผู้ที่เกิดมาพร้อมพลังการต่อสู้ต่ำกว่า 30 นั้นเป็นของนักรบระดับต่ำผู้ที่มีระดับระหว่าง 30 ถึง 100 เป็นนักรบระดับกลางและมากกว่า 100 หน่วยเป็นนักรบระดับสูง

 

ส่วนใหญ่ชาวไซย่าที่เกิดมานั้นถูกจำกัดด้วยระดับซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถบรรลุได้ในอนาคต หลังจากที่นักรบระดับต่ำเติบโตขึ้นพลังการต่อสู้ของพวกเขาโดยทั่วไปจะต่ำกว่า 2,000 ในขณะที่นักรบระดับกลางอยู่ระหว่าง 2,000 ถึง 5,000 และมีเพียงนักรบระดับสูงเท่านั้นที่สามารถบรรลุหรือเกินพลังการต่อสู้ที่ 5,000 ได้

 

ดังนั้นนักรบระดับสูงจึงได้รับการยกย่องเป็นพิเศษในหมู่ชาวไซย่า ว่าพวกเขาเป็นคนสำคัญของเผ่าพันธุ์ไซย่าทั้งหมดและเป็นนักสู้ระดับสูงที่สุดของชาวไซย่า

 

ปัจจุบันมีนักรบไม่เกิน 20 คนที่มีพลังต่อสู้เกิน 10,000 ในดาวเบจิต้าและไม่มีใครโดดเด่นเป็นพิเศษในหมู่ชาวไซย่า

 

เซียร์ย่าไม่ปฏิเสธความสำคัญของพรสวรรค์แฝงที่ยอดเยี่ยมสามารถทำให้การฝึกมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจะได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และเช่นเดียวกันคนที่มีพรสวรรค์แฝงที่ดีจะได้รับประสบการณ์หลายเท่าเมื่อเทียบกับคนที่มีพรสวรรค์แฝงที่ด้อยกว่า มันคือพรสวรรค์! และหากเขาไม่มีเส้นทางที่ถูกต้องและพยายามใช้เพียงแค่สัญชาตญาณคลำหา มันจะกลายเป็นกุญแจมือที่ใหญ่ที่สุดบนเส้นทางที่จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง คน​ที่มี​พรสวรรค์แฝงดีจะต้องดีกว่าคนที่มีพรสวรรค์แฝงที่ไม่ดีอย่างแน่นอน

 

แต่ในทำนองเดียวกันเขาก็เข้าใจเช่นกันว่าพรสวรรค์แฝงนั้นไม่ได้เป็นเพียงเกณฑ์เดียวในการประสบความสำเร็จในอนาคต

 

มีตัวอย่างมากมายในเรื่องนี้

 

บาร็อคพ่อของซุน โกคู เป็นนักรบระดับต่ำ แต่พลังต่อสู้ที่แสดงให้เห็นในช่วงเวลาที่ดาวเบจิต้าถูกทำลาย นั้นมีมากกว่านักรบระดับสูงคนอื่น ๆ อีกซึ่งเป็นความสำเร็จที่บาร็อคได้รับจากการทำลายขีดจำกัดของร่างกายอย่างต่อเนื่องผ่านการต่อสู้มาหลายปี

 

นอกจากนี้ยังมีซุนโกคูนักรบตัวเล็กระดับต่ำ แต่ก็ยังสามารถเกินขีดจำกัดครั้งแล้วครั้งเล่าและยังกลายเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลทั้งหมด

 

นี่เป็นเพียงเรื่องของพรสวรรค์แฝงอยู่หรือไม่?

ไม่แน่นอน! พรสวรรค์แฝงอาจวัดความสำเร็จของคนทั่วไปได้ แต่มันไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด บทบาทสำคัญคือสภาพแวดล้อมในการเติบโตก็สำคัญเช่นกัน!

 

ทำไม ซุน โกคู ถึงสามารถทำลายขีดจำกัดของเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่าเลือดชาวไซย่ามีบทบาทมากในเรื่องนี้ แต่ในจักรวาลเลือดไซย่าไม่ได้เหนือกว่าทุกสิ่งก่อนหน้าซุน โกคู ชาวไซย่าถูกเรียกว่าเผ่าพันธุ์​นักรบ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักรบชั้นยอด แต่เขากลัวว่าถึงฟรีสเซอร์จะไม่ลงมือ เพราถแค่กัปตันทีม กีนิว เพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายเผ่าพันธุ์ไซย่าทั้งหมดได้แล้ว

 

ไม่อาจกล่าวได้ว่าการมีอยู่ของสายเลือดไซย่าสามารถครองจักรวาลได้ เซียร์ย่า คิดว่าวิธีการฝึกฝนของมนุษย์บนโลกนั้นก้าวหน้ามากกว่าและเมื่อเทียบกับการโจมตีด้วยพลังงานที่หยาบและบ้าคลั่งของเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ในจักรวาลวิธีการฝึกฝนของโลกนั้นอ่อนโยนมากกว่าและเหมาะสำหรับการฝึกเพื่อที่จะแข็งแกร่ง

 

เลือดไซย่าบวกกับวิธีการฝึกฝนของโลกอาจเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่าและเหมาะสมมากที่จะฝึกฝนต่อไปจนทำลายขีดจำกัด

 

“ หลังจากร่างกายเติบโตเต็มที่แล้วฉันต้องหาโอกาสไปที่โลกเพื่อเรียนรู้วิธีการฝึก”

 

เมื่อนึกถึงตอนนั้นเซียร์ย่าก็ค่อยๆเข้านอน