TSLDB ราชันแห่งยุคดราก้อนบอล – บทที่ 41 ความแข็งแกร่งของฟรีสเซอร์
บทที่ 41 ความแข็งแกร่งของฟรีสเซอร์
“ ไม่ผิดแน่นอนพลังต่อสู้ของกัปตันกีนิวคือ 120000 !”
เซียร์ย่ากล่าวด้วยความมั่นใจในน้ำเสียงของเขาในดาวนาเม็กสมาชิกของกีนิว จีสึได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าพลังต่อสู้สูงสุดของกัปตันกีนิวคือ 120000! แม้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในอีก 20 ปีต่อมาและพลังต่อสู้ในปัจจุบันอาจไม่สูงเท่านั้นแต่ก็ไม่คลาดเคลื่อนเกินไป
เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของเซียร์ย่าทุกคนก็เงียบ ทันใดนั้นใบหน้าของอาดริก็มืดมน ถ้ากัปตันกีนิวทรงพลังขนาดนั้นแล้วฟรีสเซอร์ผู้นำของมันจะแข็งแกร่งขนาดไหน? ผู้อ่อนแอเชื่อฟังผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ที่แข็งแกร่งครอบงำผู้อ่อนแอนี่คือกฎที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ไปตลอดกาลในจักรวาล
ถ้าอย่างนั้นความแข็งแกร่งของฟรีสเซอร์ต้องมากกว่ากัปตันกีนิวในปัจจุบันมาก ความคิดนี้เข้ามาในใจพวกเขาอย่างรวดเร็วดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นรู้สึกหนาวที่หลังในขณะที่เหงื่อเย็นก็ไหลออกมา
ในเวลานี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะถามเซียร์ย่าว่าได้ข้อมูลนี้มาจากไหน ในทันทีความเงียบแปลก ๆ ก็เข้ามาในห้องนั่งเล่น ความเงียบดำเนินไปชั่วขณะก่อนที่อาดริ จะถอนหายใจและพูดว่า:“ เซียร์ย่าเธอรู้มากแค่ไหนพูดมาให้หมด……”
เซียร์ย่าพยักหน้ามองไปที่ทุกคนและพูดอย่างใจเย็น
“ ฟรีสเซอร์มาจากเผ่าพันธุ์ที่หายากมากในจักรวาล – ปีศาจน้ำแข็ง(Frost Demon)! พวกเขามีสมาชิกน้อยมากในเผ่าพันธุ์นี้ หลังจากที่พวกเขาเกิดมาพวกเขาจะขดตัวอยู่ในน้ำแข็งทันทีจนกว่าจะครบกำหนดเวลาและหลังจากนั้นน้ำแข็งก็จะละลาย เท่าที่ผมรู้มีปีศาจน้ำแข็งเพียง 3 ตัวในพื้นที่ทางเหนือนั่นคือครอบครัวฟรีสเซอร์และสมาชิกแต่ละคนนั้นน่ากลัวพอที่จะปกครองจักรวาลได้”
“ เนื่องจากปีศาจน้ำแข็งมีความแข็งแกร่งในร่างกายที่มากเกินไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ง่าย พวกเขาจึงต้องลดพลังต่อสู้ของพวกเขาลงด้วยการแปลงร่างคล้ายกับการแปลงร่างเป็นลิงยักษ์ของชาวไซย่า”
“ ยังไงก็ตามชาวไซย่าใช้การแปลงร่างเป็นลิงยักษ์เพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ในขณะที่ปีศาจน้ำแข็งใช้การแปลงร่างเพื่อยับยั้งพลังต่อสู้ของพวกเขา”
เซียร์ย่าส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ การแปลงร่างช่างง่ายอะไรแบบนี้! อาดริและคนอื่น ๆ เผยสีหน้างงงวย ในจักรวาลสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ใช้ทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ของพวกเขาและต้องการความสามารถในการแปลงร่างเพื่อใช้ในยามคับขัน แต่ ปีศาจน้ำแข็งกลับต้องการลดพลังต่อสู้ของพวกเขาเพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไปเนี่ยนะ… นี่มันน่าทึ่งมาก…
เมื่อมองไปรอบ ๆ และเห็นการแสดงออกของทุกคนเซียร์ย่าก็พูดต่อเขารู้ว่าคำพูดต่อไปของเขาอาจจะทำให้พวกเขาตกใจอย่างหนักแต่ถ้าเขาไม่บอกความจริงกับพวกเขา ด้วยความหยิ่งผยองของชาวไซย่าอาดริและทุกคนก็ไม่เห็นด้วยกับแผนต่อไปของเขาอย่างแน่นอน
“ โดยรวมแล้วฟรีสเซอร์ได้แปลงร่าง 3 ครั้ง! หลังจากแปลงร่างทุกครั้งความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มเป็นหลายเท่าของก่อนหน้านี้และภายใต้สภาวะปกติพลังต่อสู้ของเขาคือ 530000!”
“ เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้เธอบอกว่าพลังต่อสู้ของฟรีสเซอร์คือเท่าไหร่นะ?” ลิเซ่ถามด้วยความตกใจ
“ผมบอกว่า… พลังต่อสู้ของฟรีสเซอร์ในสถานะปกติคือ 530000!”
“ เฮือก! ….”
ไม่ว่าจะเป็นลุงอาดริหรือบรู๊คทุกคนต่างก็หวาดกลัวกับพลังที่เซียร์ย่าพูด ถ้าหลังจากได้ยินถึงพลังต่อสู้ของกัปตันกีนิวทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะปฏิวัติแล้ว ตอนนี้พลังต่อสู้ของฟรีสเซอร์ทำให้พวกเขาสิ้นหวังอย่างแน่นอน
“ พลังต่อสู้คือ 530000 ในสถานะปกติและการแปลงร่างจะเพิ่มพลังพลังต่อสู้หลายเท่าจากก่อนหน้านี้ อีกทั้งเขายังสามารถแปลงร่างได้ถึง 3 ครั้ง ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้จะมีพลังเยอะกว่านี้อีกมั้ย? แล้วจักรวาลทั้งหมดจะไม่กลายเป็นของฟรีสเซอร์เลยหรอ? ” ลิเซ่ถอนหายใจ
“ เธอกำลังบอกว่าชาวไซย่าจะไม่มีความหวังเลยงั้นเหรอ?” นิสัยของเขาค่อนข้างรุนแรง พัลลาดีไม่มีที่ไหนให้ระบายความโกรธเขาจึงทำได้เพียงจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างซึ่งกลมเหมือนลูกบอลในขณะที่เส้นเลือดสีฟ้าปรากฏบนร่างกายของเขากระดูกของเขาทำให้เสียงดัง”กึกคลืด”ใบหน้าของบรู๊คยังคงแข็งกระด้างและเย็นชานิ่งเฉยไม่พูดอะไรสักคำ สันนิษฐานว่าเขาคงรู้สึกไม่ดีในใจเช่นกัน
“ นี่ยังไม่เลวร้ายที่สุดในตระกูลฟรีสเซอร์ ฟรีสเซอร์ไม่ได้น่ากลัวที่สุดนะ! คิงโคลด์พ่อของเขาและคูลเลอร์พี่ชายของเขาที่ครองพื้นที่ทางตะวันออกและทางเหนือของกาแล็คซี่นั้นน่ากลัวที่สุด เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วฟรีสเซอร์เป็นเพียงเด็กที่ยังไม่โตแม้ว่าจะมีศักยภาพแต่ยังไม่โตเต็มวัย “
“ เขายังมีพ่อและพี่ชายอีกเหรอ?” อลิซร้องอย่างตื่นตระหนก
” ใช่ฉันเคยได้ยินมาว่าเขามีพ่อชื่อคิงโคลด์และพี่ชายชื่อคูลเลอร์”
อาดริมีประสบการณ์และความรู้เขาเคยได้ยินข่าวลือเช่นนี้เมื่อเขาดำรงตำแหน่งเป็นกัปตัน
เซียร์ย่าพยักหน้าและพูดว่า:“ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับพ่อของเขาเพราะแม้แต่คูลเลอร์พี่ชายของเขาก็มีความสามารถในการแปลงร่างได้ถึง 4 ครั้ง!” (อันนี้ผมงง เคยดูในอนิเมะเห็นมีแค่ 2 ร่างเอง??)
“ ผมเลยคิดว่าการปฏิวัติของราชาเบจีต้าถึงคราวที่จะต้องล้มเหลวแน่นอน! และอนาคตของดาวเบจีต้าทั้งหมดก็จะหายไปสำหรับเหตุผลที่ฟรีสเซอร์ยังไม่โจมตีอาจเป็นเพราะเขาคิดว่ายังไม่ถึงเวลาและเมื่อเขาคิดว่าถึงเวลาแล้วชาวไซย่าจะไม่สามารถรอดพ้นจากการทำลายล้างได้อย่างแน่นอน!”
“ จะทำอะไรได้อีก?” ใครจะไปคิดว่าชาวไซย่าที่กำลังมองไปยังอนาคตอันสดใสก่อนหน้านี้จะถูกทำลายลงอย่างกะทันหัน? เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับสำหรับสมาชิกอดีตทีมอาดริ
“ ผมเลยคิดว่า…เราต้องเตรียมการอพยพชายไซย่าส่วนหนึ่ง”
หลังจากการคาดเดาเซียร์ย่าก็นำเสนอแผนของเขา ชาวไซย่าเผ่าพันธุ์นี้มีมนต์ขลังมากสายเลือดของพวกเขาจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นหลังจากต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งเกินขีดจำกัดของร่างกายอย่างต่อเนื่องแม้ว่าความสามารถของชาวไซย่าทุกคนจะไม่มีความสามารถประเภทนี้ แต่มันก็ค่อนข้างหายากและมีค่าอยู่แล้ว
หากสายเลือดชนิดนี้ถูกทำลายไปจากจักรวาลด้วยการทำลายล้างของดาวเบจีต้าก็คงจะน่าเสียดายไม่น้อย เซียร์ย่าไม่กล้าที่จะพูดถึงความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของเขา แต่เขารู้ว่าเพื่อความอยู่รอดที่ดีขึ้นในจักรวาลเขาไม่สามารถทำได้โดยไม่สร้างกองกำลังที่เป็นของตัวเอง ชาวไซย่านี่แหละจะเป็นรากฐานของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน!
“ แต่คำถามคือ…ถ้าฟรีสเซอร์มีพลังมากขนาดนี้ทำไมเขาถึงกลัวชาวไซย่าล่ะ?” อลิซถามด้วยความสงสัย
“ตระกูลฟรีสเซอร์กลัวซูเปอร์ไซย่าสีทองจะปรากฏตัวท่ามกลางชาวไซย่านี่แสดงให้เห็นว่าซูเปอร์ไซย่าสามารถต่อสู้กับปีศาจน้ำแข็งได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการกำจัด!”
“ เราต้องรักษาสายเลือดชาวไซย่าไม่ควรปล่อยให้ชาวไซย่าหายไปจากจักรวาล”
เซียร์ย่านำเสนอความคิดของเขาทันทีหลังจากรู้สถานการณ์ของดาวเบจีต้าเขาก็มีแผนนี้แล้วเขาได้อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับฟรีสเซอร์แล้วเมื่อศัตรูกดดันอยู่ข้างหน้าเซียร์ย่ารู้สึกว่าอาดริและคนอื่นๆน่าจะเข้าใจคำพูดของเขาได้
แม้ว่าชาวไซย่าจะหยิ่งผยองแม้กระทั่งถึงจุดที่คิดได้หลังจากที่รู้ว่าพวกเขาไม่มีโอกาสชนะ แต่พวกเขาน่าจะไม่รีบวิ่งเข้าใส่ความตายอย่างโง่เขลา…. ใช่มั้ย?
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถแยกแยะความเป็นไปได้ที่บุคคลเช่นนั้นจะมีอยู่จริง แต่เห็นได้ชัดว่าคนตรงหน้าเหล่านี้จะไม่ทำเช่นนั้นและเซียร์ย่าก็ไม่ต้องการให้คนที่ดื้อรั้นเช่นนี้เข้าร่วมกลุ่มของเขาด้วย
คอมเม้นต์