ดาวเบจีต้า พระราชวังหลวง

 

ห้องโถงที่สวยงามและสว่างไสวกำแพงหินสีขาวงาช้างไม่มีการตกแต่งใด ๆ ภายใต้แสงไฟจะเห็นเส้นกากบาทที่ก่อตัวเป็นลายเส้นรูปแบบที่ขึ้นลงสลับกันให้ความรู้สึกสง่างามตา

 

เนื่องจากชาวไซย่าเป็นเผ่าพันธุ์นักสู้พวกเขาจึงต้องการความกล้าหาญ ในห้องโถงของพระราชวังพรมสีแดงจากทางเข้าพระราชวังไปจนถึงด้านหน้าบัลลังก์

 

บนบัลลังก์ซึ่งยกสูงขึ้นหลายขั้นเหนือห้องโถงของพระราชวังราชาเบจีต้านั่งอยู่ในชุดเกราะรบสีแดงเข้มและมือข้างหนึ่งของเขาหนุนศีรษะของเขาพิงที่เท้าแขนของบัลลังก์หลับตาและครุ่นคิด

 

ชุดเกราะบนหน้าอกของเขาสว่างและสวยงามเหมือนหยกสีขาวและมันก็กระพริบเล็กน้อยพร้อมกับแสงที่วิบวับดูหรูหรามาก

 

ทันใดนั้นราชาเบจีต้าก็ลืมตาขึ้นจากนั้นก็เหลือบไปมองผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างและถามว่า:“ ปีเตอร์การเตรียมกองกำลังของเราเป็นยังไงบ้าง? “

 

เขาเป็นชาวไซย่าหัวโล้นที่แข็งแกร่งและเป็นนักรบระดับสูงที่รับผิดชอบทุกอย่างทั้งในและนอกวัง

 

“ ฝ่าบาท ณ ตอนนี้เราได้รวบรวมชาวไซย่าไปแล้ว 200,000 คน พวกเขาทุกคนตอบรับหมายเรียกของพระองค์และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตและความตายกับฟรีสเซอร์!”

 

ดวงตาของปีเตอร์กำลังเปล่งประกายและเขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นจากคำพูดของเขาได้

 

“ ชาวไซย่าเพียง 200,000 คน? ทำไมน้อยแบบนี้พวกเขาลืมความภาคภูมิใจของชาวไซย่าไปแล้วหรือไง? ฉันยอมให้ชาวไซย่าพังพินาศในเงื้อมมือของฟรีสเซอร์ไม่ได้! “

 

ทันใดนั้นราชาเบจีต้าก็ลุกขึ้นยืนเขาโกรธและไม่พอใจออร่าอันทรงพลังไร้ขอบเขตกระจายไปทั่วทั้งวัง ราชาเบจีต้าแม้ว่าจะมีความทะเยอทะยานอย่างมาก แต่เพื่อเผ่าพันธุ์ชาวไซย่าทั้งหมดเขาไม่เต็มใจที่จะเห็นความหายนะของชาวไซย่า

 

หลังจากทำสงครามกับทรัฟเฟิลส์เมื่อพวกเขาแย่งดาวเบจีต้าได้ชาวไซย่าต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในระหว่างกระบวนการพัฒนาดาวใหม่และในเวลาที่ฟรีสเซอร์ซึ่งเป็นตัวแทนของหน่วยรบพิเศษปรากฏตัวขึ้นโดยพยายามจ้างพวกเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการยอมรับฟรีสเซอร์ในสมัยนั้นจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่!

 

ราชาเบจีต้าเคยรู้สึกมานานแล้วว่าการเฝ้าติดตามเผ่าพันธุ์ชาวไซย่าของฟรีสเซอร์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยนี่ถือเป็นการสร้างความอับอายให้กับราชาเบจีต้าอย่างมาก ชาวไซย่าในฐานะเผ่าพันธุ์นักสู้สามารถตายในสนามรบได้ แต่ไม่สามารถยอมรับได้ที่ต้องมีชีวิตเหมือนปศุสัตว์ให้คนอื่นเฝ้ามอง

 

ดังนั้นราชาเบจีต้าจึงเริ่มสะสมกองกำลังมานานแล้วเพื่อรอที่จะปะทะกับฟรีสเซอร์ ยังไงก็ตามหลายคนในเผ่าพันธุ์ชาวไซย่าไม่เข้าใจเรื่องนี้เนื่องจากคนจำนวนมากบูชาฟรีสเซอร์

 

นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทนได้ถึงเขาจะอนุญาตให้พวกเขาไม่ต้องเข้าร่วมการปฏิวัติ แต่เขาไม่สามารถทนเห็นพวกเขายืนอยู่ในฝั่งของศัตรูได้ หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการปฏิวัติแล้วเขาต้องกำจัดคนเหล่านี้

 

“ มีอะไรอีกไหม?”

 

” ฝ่าบาทเมื่อไม่นานมานี้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ค้นพบว่ามีบางคนแอบคิดกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูเหมือนกำลังวางแผนบางอย่าง!”

 

ปีเตอร์พลิกเอกสารในมือ อย่ามองว่าผู้ชายคนนี้มีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างเดียวความคิดของเขายังเฉียบแหลมมากอีดด้วยอาดริและแผนเล็ก ๆอื่น ๆ ถูกเขาจับได้อย่างรวดเร็ว

 

ราชาเบจีต้ามองไปหาปีเตอร์“ ปีเตอร์เจ้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ข้าหน่อย!”

 

“รับทราบ!” ปีเตอร์ยืดอกและตอบเสียงดังก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปนอกวัง

 

ในห้องโถงของพระราชวังอันงดงามเหลือเพียงราชาเบจีต้าที่นั่งอยู่บนบัลลังก์โดยหลับตาซึ่งไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

ไม่กี่วันต่อมาปีเตอร์มาที่วังอีกครั้งโดยถือบัญชีรายชื่อผู้สูญหายอย่างลึกลับ

 

“ ฝ่าบาท ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ทำการตรวจสอบแล้ว นี่คือรายชื่อของชาวไซย่าที่หายตัวไปอย่างลึกลับจากดาวเบจีต้าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาดูเหมือนพวกเขาจะออกจากดาวเบจีต้าไปแล้ว?”

 

“ โอ้? พวกเขาสามารถหายตัวไปอย่างลับ ๆ จากดาวเบจีต้าได้แล้วพวกเจโตเนี่ยนไม่ค้นพบข้อมูลอะไรเลยเหรอ?”

 

ทันใดนั้นดวงตาของราชาเบจีต้าก็ส่องประกายและถามจริงจัง

 

เจโตเนี่ยนอยู่ในการควบคุมการขนส่งภายนอกของดาวเบจีต้าและยานอวกาศทุกลำที่ออกจากดาวเบจีต้าจะมีข้อมูลที่เก็บไว้กับเจโตเนี่ยน ราชาเบจีต้าไม่พอใจกับเจโตเนี่ยนมานานแล้วถ้าเขาไม่ต้องการดึงดูดเจตนาไม่ดีของฟรีสเซอร์ เจโตเนี่ยนจะยังคงอยู่บนดาวเบจีต้าได้ยังไง?

 

“ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ออกไปด้วยยานอวกาศ” ปีเตอร์สงสัยถ้าพวกเขาไม่ขึ้นยานอวกาศคนเหล่านี้จะออกจากดาวเบจีต้าได้ยังไงใครเป็นคนนำคนเหล่านี้ออกจากดาวเบจีต้า?

 

พวกเขาส่วนใหญ่เป็นนักรบระดับต่ำและนักรบระดับกลาง 100 คนและมีนักรบระดับสูงเพียง 5-6 คนเท่านั้นที่เป็นกลุ่มแรกที่ออกไป!

 

“ทำแบบนั้นเพื่ออะไร”

 

ราชาเบจีต้าชำเลืองดูรายชื่อและทันใดนั้นเขาทำลายรายชื่อด้วยพลังงาน “ลืมไปเลยตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกำจัดพวกมันเพียงแค่ลบชื่อคนเหล่านี้ออกจากบันทึกเผ่าพันธุ์ของชาวไซย่าก็พอ”

 

” ฮึ่ม! คนเหล่านี้ไม่สมควรถูกเรียกว่าชาวไซย่า ตอนนี้เรามุ่งเน้นไปที่การสะสมกองกำลังเป็นหลักมันคงไม่เหมาะที่จะซับซ้อนอะไรมากมาย เราสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้หลังจากเสร็จการต่อสู้อย่างเด็ดขาดกับฟรีสเซอร์!”

 

เมื่อเห็นว่าราชาเบจีต้าทำลายรายชื่อปีเตอร์ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของราชาเบจีต้าเขาอยากจะถามหลายครั้งแต่ก็ลังเล

 

โดยปกติคนที่มีเจตนากบฏแบบนี้ควรได้รับการจัดการตั้งแต่แรกใช่ไหม! ยังไงก็ตามแทนที่จะทำเช่นนั้นราชาเบจีต้าได้ลบรายชื่อของพวกเขาออกจากบันทึกของชาวไซย่าแทน

 

หากเขาประสบความสำเร็จในการกบฏต่อฟรีสเซอร์ชาวไซย่าที่ออกจากดาวเบจีต้าแน่นอนจะไม่มีวันรอดพ้นจากความตาย แต่ถ้าพวกเขาล้มเหลวคนเหล่านั้นอาจเป็นเพียงความหวังสุดท้ายของชาวไซย่า มีเพียงความหวังนี้เท่านั้นที่ฝากไว้กับนักรบระดับต่ำและนักรบระดับกลางที่อ่อนแอเพียงไม่กี่คน

 

…

 

4 เดือนต่อมาบนถนนที่คึกคักในดาวเบจีต้า

 

ผู้คนต่างเข้ามาและหลั่งไหลไปทั่วทุกมุมบนถนน ชาวไซย่าทุกคนแต่งกายด้วยชุดเกราะรบแบบเรียบง่ายในขณะที่สะพายกระเป๋าที่ด้านหลังซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุดิบอาหารที่แตกต่างกันทั้ง 2 ฝ่ายมนุษย์ต่างดาวที่มีหน้าตาแปลกประหลาดได้เปิดร้านค้าและทำธุรกิจเพราะชาวไซย่านอกจากการต่อสู้แล้วไม่เหมาะกับการทำธุรกิจเท่าไหร่

 

ในวันนี้เซียร์ย่ามาคนเดียวเพื่อซื้อของบนถนน หลังจากเดินจากตะวันออกไปตะวันตกบนถนนเขาซื้อเสื้อผ้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพียงไม่กี่ชิ้น

 

เมื่อเขาเดินผ่านร้านขายเครื่องประดับเขานึกถึงว่าซีหลิงดูเหมือนว่าไม่เคยสวมใส่เครื่องประดับประเภทใดหรือเครื่องประดับขนาดเล็กแบบนี้มาก่อน

 

ดังนั้นเขาจะซื้อแบบไหนให้เธอดีเซียร์ย่ามองไปที่หน้าร้านสักครู่แล้วเดินเข้าไป สิ่งที่จัดแสดงในร้านส่วนใหญ่เป็นต่างหูจี้และเครื่องประดับต่างๆเข็มขัดเข็มกลัด ฯลฯ …

 

เซียร์ย่ามองผ่านสิ่งเหล่านี้ด้วยความเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าซีหลิงชอบอะไร? ดังนั้นเขาจึงซื้อริบบิ้นจี้และสร้อยข้อมือที่สวยงามหลายชนิด หลังจากที่เซียร์ย่าจ่ายเงินสำหรับการห่อเครื่องประดับหลายชิ้นแล้วเอเลี่ยนที่รับผิดชอบในการขายพวกเขาก็บรรจุอย่างกระตือรือร้นใส่ในกล่องเล็ก ๆ ที่สวยงามแล้วห่อด้วยริบบิ้น

 

“ ฉันหวังว่าซีหลิงจะชอบของพวกนี้!”

 

เซียร์ย่ายิ้มและหลังจากออกไปจากร้านได้ไม่นานเขาก็เห็นเงาของสาวน้อยที่เดินไปมาในขณะที่ถือของที่คล้ายกับผลไม้เคลือบน้ำตาลไว้ในมือและกำลังกินอย่างอร่อย