บทที่ 75 การฝึกจำลองภาพ

 

 

ดาวเคราะห์ที่รกร้าง

 

1 เดือนผ่านไปและดาวเบจีต้าก็ยังปลอดภัยดี ในที่สุดลุงอาดริและคนอื่น ๆ ก็สามารถละทิ้งความกังวลได้ แต่ในกรณีนี้เซียร์ย่าไม่ได้พาพวกเขากลับไปที่ดาวเบจีต้าและไม่ได้ส่งไปที่ดาวหงซานแต่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในเครื่องแรงโน้มถ่วงและทำการฝึกง่ายๆ

 

หลังจากเหตุการณ์นี้ลุงอาดริและคนอื่น ๆ ก็ตระหนักอย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญแท้จริงนั้นยังขาดอยู่มากดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนใจและทุ่มเทให้กับการฝึกฝน

 

ยังไงก็ตามในฐานะนักรบที่มีประสบการณ์และหลังจากมีความเข้าใจในแนวคิด“ Ki” เล็กน้อยพวกเขาก็ตระหนักดีว่าการฝึกฝนเป็นกระบวนการทีละขั้นตอนซึ่งเกี่ยวข้องกับการฝึกหนักและการผ่อนคลายควบคู่กันไป

 

การพักผ่อนที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่จำเป็นพวกเขาไม่เหมือนชาร์คและคนอื่น ๆ คนหนุ่มสาวเหล่านั้นอยู่ในช่วงเติบโตและมีเซลล์ที่สดใสอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเพิ่มความแข็งแกร่ง

 

โดยปกติแล้วแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในช่วงเวลาสำคัญพวกเขาควรทำในสิ่งที่ทำได้เท่านั้นและไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า สมาชิกหลายคนของทีมอาดรินั่งอยู่บนพื้นเป็นวงกลมในขณะที่รับประทานอาหารและพูดคุยกันข้างๆพวกเขาก็วางจานอาหารเรียกน้ำย่อยไว้หลายจาน

 

“ การใช้เครื่องแรงโน้มถ่วงเหล่านี้ดูเหมือนทำให้ความเร็วในการฝึกเพิ่มขึ้น!”

 

พัลลาดิวัยกลางคนที่นั่งขัดสมาธิบนพื้นกลืนอาหารอันโอชะลงไป กัปตันเป็นคนที่มีพลังรบสูงที่สุดในบรรดาพวกเขาเพียงไม่กี่คนและหลังจากได้ฝึกในเครื่องแรงโน้มถ่วงความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นมากพูดตามตรงเขาอิจฉาความก้าวหน้าในการฝึกของอาดริมาก!

 

“ ฮ่าฮ่าเป็นเพราะฉันฝึกหนักกว่านายมากถ้านายฝึกหนักอย่างฉันความแข็งแกร่งของนายจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “อาดริหัวเราะอย่างเต็มที่และยัดถั่วเข้าปาก พลังของเขาถึง 15200 BPแล้วมีไม่กี่คนในดาวเบจีต้าที่มีพลังรบสูงกว่าเขา สิ่งนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะฝันถึงในอดีต

 

แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่กลายเป็นความจริงแล้วเขายังมั่นใจด้วยว่าเขาจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคตเมื่อไม่นานมานี้ความเร็วในการเติบโตของเขาช้าลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาตื่นจากความตื่นเต้นนี้

 

“ เอาเถอะเป็นเพราะเซียร์ย่าไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อให้คำชี้แนะฉันถ้าฉันสามารถฝึกได้ตลอดทั้งวันฉันเหนือกว่านายแน่นอน!”

 

พัลลาดิเม้มริมฝีปากด้วยความดูถูก แต่เขาก็อิจฉาที่กัปตันสามารถมีเด็กน้อยสองคนนี้ได้ดูที่ความแข็งแกร่งของพวกเขามันเกินพวกเขาหลายพันคนแล้ว

 

จนถึงตอนนี้ทีมอาดริยกเว้นอาดริและรีเบคก้าพลังคนอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่ประมาณ 12,000 BP พลังของบรู๊คที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ใกล้ 13000 BP แต่เมื่อเทียบกับกัปตันแล้วยังมีความแตกต่างที่สำคัญซึ่งค่อยๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ !

 

แม้ว่าการเติบโตล่าสุดของอาดริจะลดลง แต่ก็ยังคงเป็นความเร็วที่น่าอิจฉาเมื่อเทียบกับพวกเขา อาดริหัวเราะออกมาดัง ๆ เขาสามารถยกระดับได้อย่างรวดเร็วเพราะมีเครื่องแรงโน้มถ่วงและคำแนะนำจากเซียร์ย่าก็มีผลอย่างมากต่อความก้าวหน้าของเขา

 

หลังจากที่เขาหัวเราะใบหน้าของอาดริก็กลายเป็นจริงจังในขณะที่เขาพูดกับทุกคน:“ ปัจจุบันชาวไซย่าบนดาวหงซานมีจำนวนถึง 3,000 คนแล้วเซียร์ย่าบอกฉันว่าจะมีการอพยพอีก 15,000 คนเมื่อดาวเบจีต้าถูกทำลาย”

 

“ และยกเว้นบางคนที่อาจถูกฆ่าตายในสนามรบในช่วงเวลาที่ดาวเบจีต้าถูกทำลายถ้าประเมินในแง่ดีก็คือชาวไซย่ามากกว่า 12,000 ตัวจะปรากฏตัวบนดางหงซาน!”

 

“ 12000 อา! มันไม่น้อยเลยนะ”

 

“ ใช่มันค่อนข้างเยอะ…” ทุกคนกระซิบด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็หยุดพูด ชาวไซย่ากว่า 10,000 คนสามารถอยู่รอดได้นั้นมีจำนวนมากอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับคนนับล้านแล้วจำนวนนี้ค่อนข้างน้อยมากจริงๆ

 

ในอนาคตชาวไซย่าคงจะเบาบางลงจริงๆพวกเขามีเพียงความคิดเดียวในใจ -​ ชาวไซย่าไม่สามารถปฏิเสธได้นับจากนี้!

 

” ใช่ฉันคิดว่าราชาเบจีต้าอาจจะรู้แล้วว่าเรากำลังทำอะไร” อยู่จู่ๆอาดริก็เปลี่ยนเรื่องและพูดขึ้นมา

 

“เป็นไปไม่ได้ถ้าราชาเบจีต้ารู้จริงๆว่าเราอพยพผู้คนอย่างลับๆทำไมไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย” พัลลาดิดูแปลกใจ

 

“ เหตุผลที่เขาไม่ตอบสนองฉันคิดว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่รู้อย่างเห็นได้ชัด!”บรู๊คยิ้มอย่างเย็นชา

 

“ มันดีสำหรับเขาเหรอ?”

 

ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือการเตรียมการของเขาอยู่ในช่วงวิกฤตดังนั้นจึงไม่มีที่ว่างมากพอ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเขา พลังของพวกเขามีมากกว่า 10,000 BP แล้วและหากเกิดสงครามกลางเมืองสำหรับนักรบระดับต่ำเพียง 3,000 BPความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ชาวไซย่าก็จะอ่อนแอลงอย่างแน่นอนซึ่งราชาเบจีต้าไม่เต็มใจที่จะเห็น

 

“ เขากำลังวางแผนที่จะชำระบัญชีหลังการก่อกบฏรึเปล่า”

 

อาดริเปิดปากของเขาและกล่าว​ว่า “ บางทีนั่นอาจเป็นแผน แต่มันจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าฟรีสเซอร์จะพ่ายแพ้และในกรณีที่ล้มเหลวพวกเขาจะไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลย อันที่จริงฉันคิดว่าราชาเบจีต้าอาจต้องการออกจากเผ่าพันธุ์ชาวไซย่าด้วยซ้ำ”

 

คำพูดของอาดริทำให้ทุกคนเงียบลงพวกเขาเป็นผู้ใหญ่และต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมดราชาเบจีต้าปล่อยให้พวกเขาพาผู้คนออกไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใดความจริงที่ว่า ‘อย่าใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าเดียว’ ทุกคนเข้าใจไม่มีเหตุผลที่ราชาเบจีต้าทำไม่ได้เช่นกัน บางทีราชาเบจีต้าก็เตรียมพร้อมสำหรับรับมือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้ว

 

ถ้าอย่างนั้นราชาเบจีต้าจะยอมแพ้การกบฏต่อฟรีสเซอร์มั้ย?

 

เมื่อนึกถึงคำถามที่ว่ายอมแพ้เพราะความภาคภูมิใจของชาวไซย่าความตายเป็นสิ่งที่ดีกว่าการเสียเกียรติพวกเขาจะกลัวการต่อสู้ได้ยังไง! อาจกล่าวได้ว่าเป็นความโง่เขลาไม่ว่าในกรณีใด ๆราชาเบจีต้าก็ไม่สามารถทนให้ชาวไซย่างอเข่าและรับใช้ต่อหน้าฟรีสเซอร์ได้ แน่นอนว่าเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นก็คือราชาเบจีต้าไม่ได้ตระหนักถึงความน่ากลัวของฟรีสเซอร์เท่าไหร่

 

เช่นเดียวกับที่เขาสามารถลดความเย่อหยิ่งของราชาต่อหน้าเทพแห่งการทำลายล้างบิลส์ได้ ความแข็งแกร่งแตกต่างกันในระดับหนึ่งการยอมก้มหัวให้กับเป็นคนที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายถึงการเสียศักดิ์ศรี

 

“ยังไงก็ตามมันสายเกินไปแล้วฟรีสเซอร์จะไม่ยอมปล่อยชาวไซย่าแน่นอนแม้ว่าราชาเบจีต้าจะไม่กบฏก็ตาม!” เสียงแหบแห้งของลิเซ่ดังขึ้น

 

พวกเขา 2-3 คนเงียบไปพักหนึ่งจากนั้นก็เริ่มพูดคุยและหัวเราะเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ

 

สำหรับเด็ก ๆ อย่างชาร์คเป็นช่วงเวลาที่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงฝึกฝนอย่างหนักในเครื่องฝแรงโน้มถ่วง เนื่องจากอาดริและคนอื่น ๆ มีประสบการณ์มากมายพวกเขาจะให้คำแนะนำเป็นครั้งคราว

 

…

 

เครื่องแรงโน้มถ่วงหมายเลข 1

 

ห้องฝึกที่กว้างขวางเป็นเรื่องธรรมดาตามปกติห้องแรงโน้มถ่วงและพารามิเตอร์อื่น ๆ ไม่ได้เปิดที่ตรงกลางเซียร์ย่าและซีหลิงนั่งขัดสมาธิในขณะที่หันหน้าเข้าหากันทั้งคู่มีลักษณะคล้ายกับพระสงฆ์นั่งสมาธิ เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 คนขมวดคิ้วทั้งตัวสั่นเล็กน้อยและมีเหงื่อออกที่หน้าผาก

 

ทั้งคู่กำลังฝึกจำลองภาพ

 

ในพื้นที่จินตนาการของจิตสำนึกทั้งหมดแตกต่างจากความเป็นจริงคน 2 คนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ร่างของพวกเขาอยู่ระหว่างการต่อสู้ ต่อสู้จากพื้นสู่ท้องฟ้าการต่อสู้ที่ดุเดือดของพวกเขาทำให้เกิดเสียงสั่นและดังก้องอยู่ทุกหนทุกแห่งไม่หยุดหย่อน

 

ดวงตาของซีหลิงกระพริบจากนั้นภาพลวงตานับไม่ถ้วนก็เริ่มโจมตีอย่างดุเดือดที่เซียร์ย่า กาก้า! เซียร์ย่าเจอกับหมัดของซีหลิงพุ่งเข้าใส่และจากนั้นร่างกายของเขาก็เหมือนลูกศรที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ร่างลวงตาแยกย้ายกันไปทีละคน พื้นที่ในจิตสำนึกแตกสลายทันที ร่างกายของเซียร์ย่า และซีหลิงสั่นสะท้านขณะที่พวกเขาหอบหนักและหลังจากปรับตัวได้สักพักการหายใจของพวกเขาก็กลับมาอยู่ในระดับที่ดีอีกครั้ง

 

การฝึกจำลองภาพลวงตาเป็นวิธีการฝึกที่ลึกซึ้งมากเป็นการฝึกเปลี่ยนแปลง Ki การฝึกจำลองภาพลวงตาใช้เพื่อปรับอารมณ์สติสัมปชัญญะและเสริมสร้างสัญชาตญาณในการต่อสู้ ในผลงานต้นฉบับซุนโกฮังและคริลลินได้ทำการฝึกแบบนี้เพื่อไปยังดาวนาเม็ก

 

การฝึกจำลองภาพลวงตาไม่ได้เป็นเพียงแค่การฝึกฝนพลังงานเท่านั้น มันคล้ายกับลัทธิเต๋าในชีวิตที่ผ่านมาของเซียร์ย่ามันเป็นความรู้แจ้งทางจิตวิญญาณแบบหนึ่งและมีข้อดีบางประการในการพัฒนาทักษะเฉพาะและก้าวข้ามพันธนาการของร่างกาย

 

เซียร์ย่าและซีหลิง ใช้การฝึกจำลองภาพลวงตาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขาและผลลัพธ์ก็น่าทึ่ง หลังจากฝึกฝนมาระยะหนึ่งพวกเขาพบว่าตัวเองเชี่ยวชาญในการควบคุมพลังงานของตนเองมากขึ้น