เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 931 กางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนกระบี่มาแล้ว ตอนที่ 931 กางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 931 กางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์

เมื่อกดเปิดการทำงานของแอปกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ หลินเป่ยเฉินก็พบกับหน้าต่างแนะนำการใช้งานระดับพื้นฐานโดยทันที

มันเป็นการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับแอปพลิเคชันกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์อย่างครบถ้วนกระบวนความ

หลินเป่ยเฉินใช้เวลาอ่านไม่นานก็เข้าใจทั้งหมด

ดวงตาของเขาเบิกโตด้วยความพิศวง

เด็กหนุ่มนิ่งอึ้งถึงกับทำอะไรไม่ถูก

แอปนี้ร้ายกาจเกินไป!

ความสามารถของแอปกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ก็คือ…

เมื่อเปิดการทำงาน ผู้ใช้จะสามารถลากศัตรูเข้ามาอยู่ในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์โดยกำเนิดของตนเอง โดยอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์นั้นจะมีรัศมี 100 วา และตลอดเวลาที่อยู่ในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ระดับพลังของศัตรูก็จะถูกลดทอนลงไป 20% ผู้ใช้จะสามารถขังศัตรูอยู่ในอาณาเขตได้เป็นเวลาหนึ่งก้านธูป เมื่อครบกำหนดเวลา ทั้งผู้ใช้งานและศัตรูก็จะถูกส่งกลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง

ให้ตายสิ

แอปนี้มันน่ากลัวจริง ๆ

แถมยังมีประโยชน์มากมาย

โดยเฉพาะกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัว

ประเด็นสำคัญคือยังสามารถลดทอนระดับพลังของศัตรูได้ถึง 20 จาก 100 ส่วน

นี่เท่ากับเป็นการดีบัฟคู่ต่อสู้ชัด ๆ

รัศมี 100 วาเทียบเท่าได้กับพื้นที่จำนวน 200 เมตร

พูดง่าย ๆ ก็คืออาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ เปรียบเสมือนห้องลับที่ตัดขาดจากโลกภายนอก

เหมาะสมสำหรับให้หลินเป่ยเฉินเอาไปใช้ต่อสู้ในระยะประชิดตัวเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมการต่อสู้ที่ไม่เป็นใจ

หรือเมื่อลากศัตรูเข้ามาอยู่ในอาณาเขตได้แล้ว ศัตรูก็ไม่มีทางหลบหนีออกไปได้เด็ดขาด

ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ต้องแบบนี้สิถึงเรียกว่ามีประโยชน์อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ การกางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ยังสามารถใช้หลบหนีได้อีกด้วย

สมมุติว่าหลินเป่ยเฉินถูกล้อมรอบด้วยศัตรูจำนวนมาก เขาก็แค่ดึงใครสักคนเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างที่ถูกขังอยู่ในนั้น เขาย่อมสามารถจัดการคนผู้นั้นได้อย่างไม่มีปัญหา

และเมื่อครบเวลาหนึ่งก้านธูป พอกลับออกมาสู่โลกภายนอก กำลังเสริมของเขาย่อมมาถึงแล้ว

“ไม่เสียทีที่ใช้ศิลาบูชาชาร์จแบตโทรศัพท์นะเนี่ย”

หลินเป่ยเฉินนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงด้วยความตื่นเต้น

เขารักแอปพลิเคชัน Keep จริง ๆ

นับตั้งแต่ที่ติดตั้งมันลงในโทรศัพท์มือถือ แอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายชนิดนี้ก็สร้างประโยชน์ให้กับเขามากมาย โดยเฉพาะฟังก์ชันการทำภารกิจแบบเร่งด่วน

ไม่มีแอปพลิเคชันไหนจะดีเลิศไปมากกว่านี้แล้ว

หลินเป่ยเฉินกดการ ‘ฝึกวิชา’ กางอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ลังเล

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นถูกที่ถูกเวลาดีมาก

คืนนี้เมื่อหลินเป่ยเฉินกดฝึกวิชาทิ้งไว้ ตื่นมาพรุ่งนี้เช้า เขาก็จะสามารถใช้พลังกางอาณาเขตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

และมันจะมีประโยชน์สำหรับ ‘การประลองเดิมพันชีวิต’ อย่างยิ่งยวด

สำหรับมือธนูอย่างอวี้ซือไป๋ นางย่อมไม่ถนัดต่อสู้ในพื้นที่แคบ ๆ เช่นเดียวกับการต่อสู้ในระยะประชิดตัว

หลินเป่ยเฉินกดปิดหน้าจอโทรศัพท์และนอนหลับตาบนเตียงอย่างมีความสุข

วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ

อันที่จริงนั้น ตอนที่กลับออกมาจากกรมมือปราบ เขารู้สึกจิตใจฮึกเหิม อยากจะพาผู้คนไปถล่มสถานทูตจักรวรรดิจี้กวงอีกสักครั้ง

แต่สุดท้าย หลินเป่ยเฉินก็เปลี่ยนใจ

เพราะว่าขณะนี้คณะตัวแทนจากกลุ่มพันธมิตรจักรวรรดิส่วนกลางพำนักอยู่ในนครหลวง และจากข้อมูลที่เขาทราบมาจากขันทีชราจางเชียนเชียน องค์ชายเจ็ดรวมไปถึงคนอื่น ๆ ก็คือ ก่อนการประเมินลำดับจักรวรรดิครั้งใหม่ สถานทูตของจักรวรรดิจี้กวงถือเป็นเขตแดนการคุ้มครองของกลุ่มพันธมิตรจักรวรรดิส่วนกลาง เมื่อหลินเป่ยเฉินลองคิดทบทวนดูดี ๆ แล้ว เขาก็รู้ว่าคงไม่เป็นการฉลาดสักเท่าไหร่ หากจะไปมีเรื่องกับกลุ่มพันธมิตรจักรวรรดิส่วนกลางในตอนนี้

อีกอย่าง หากหลินเป่ยเฉินไปอาละวาดที่สถานทูตจริง ๆ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอาจไม่ใช่ตัวเขาเอง แต่เป็นชาวเป่ยไห่ผู้บริสุทธิ์ต่างหาก

ถึงแม้ว่าในขณะนี้ชาวเมืองจะเกลียดชังเขาเข้ากระดูกดำแล้วก็ตาม แต่จิตใจของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ใช่หรือ?

อีกอย่าง ก่อนหน้านี้หลินเป่ยเฉินก็เคยเปลี่ยนผู้ที่เกลียดชังเขาให้กลายมาเป็นสาวกของเขาสำเร็จมาแล้ว ทำไมถึงจะทำอีกสักครั้งไม่ได้?

แต่เหตุผลสำคัญก็คือ หลินเป่ยเฉินเพิ่งจะไปบุกถล่มสถานทูตจักรวรรดิจี้กวงมาก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย อย่าเพิ่งไปซ้ำเติมให้เรื่องราวยุ่งยากมากกว่าเดิมเลยดีกว่า

“ฮื่อ เรานี่มันช่างฉลาดจริง ๆ เลยน้า”

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจให้กับความฉลาดสุด ๆ ของตนเอง ก่อนจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

วันต่อมา

ทุกอย่างยังคงเงียบสงบ

แต่ก็เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในกลุ่มผู้มีอำนาจของนครหลวงบ้างแล้ว

อย่างแรก ตระกูลเสี่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเสี่ยวเย่ หลานชายของหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบันจะก้าวขึ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนต่อไป

นี่คือข่าวที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากการมีสถานะเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ หมายถึงการเป็นผู้มีอำนาจในจักรวรรดิที่แท้จริง

ตระกูลเสี่ยวเป็นตระกูลทหารพื้นเพไม่ธรรมดา ได้รับการยกย่องให้ติดหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิมาโดยตลอด

การเปลี่ยนหัวหน้าตระกูลเช่นนี้ อาจส่งผลให้อำนาจในกองทัพของพวกเขาลดน้อยลง และอาจจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่อื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย

ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไปในครั้งนี้ กลับเป็นเพียงบุรุษหนุ่มรุ่นใหม่ แทบไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นหน้าตามาก่อน

ใครคือเสี่ยวเย่?

หากบุรุษหนุ่มคนนี้เป็นความหวังของตระกูล เหตุไฉนทุกคนจึงไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน?

สำนักสืบข่าวจำนวนมากเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเสี่ยวเย่คนนี้

ส่วนข่าวที่สองคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพระราชวัง

องค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเป่ยไห่ทรงตัดสินพระทัยเรียกองค์ชายเจ็ดเข้าพบเป็นการด่วน ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าพวกท่านปรึกษาหารือกันอย่างไร สุดท้าย องค์จักรพรรดิกลับประกาศให้องค์ชายเจ็ดมีตำแหน่งเป็นอ๋องผู้สืบทอดบัลลังก์อย่างเป็นทางการ

แม้ว่าองค์ชายเจ็ดจะมีสถานะเป็นองค์ชายตลอดมา

แต่องค์ชายธรรมดากับองค์ชายที่เป็นอ๋องผู้สืบทอดนั้นแตกต่างกันอย่างยิ่ง

องค์ชายเป็นเพียงตำแหน่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

แต่ไม่ใช่องค์ชายทุกคนจะได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท

กล่าวโดยสรุปก็คือ ตำแหน่งขององค์ชายเจ็ดในขณะนี้ มีลำดับชั้นต่ำกว่าองค์จักรพรรดิเพียงผู้เดียวเท่านั้น

และเป็นผู้อยู่เหนือมวลประชาทั้งปวง!

แม้แต่เหล่าองค์ชายที่อาวุโสมากกว่าก็ยังต้องก้มหัวคำนับให้แก่องค์ชายเจ็ดแล้ว

อีกอย่าง ที่ผ่านมาจักรวรรดิเป่ยไห่ยังไม่เคยมีตำแหน่งอ๋องผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการมาก่อน

ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากจึงไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดองค์จักรพรรดิถึงแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดผู้คอเอียงขึ้นรับตำแหน่งนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

หรือว่าองค์ชายเจ็ดกระทำความดีความชอบยิ่งใหญ่โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้?

แต่แน่นอนว่าย่อมมีคนส่วนหนึ่งรู้ถึงเบื้องหลังของเรื่องนี้

อย่างเช่น ในบรรดากลุ่มขุนนางระดับสูง

พวกเขารู้ดีว่าสาเหตุที่ตระกูลเสี่ยวแต่งตั้งเสี่ยวเย่ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป และการขึ้นรับตำแหน่งอ๋องผู้สืบทอดขององค์ชายเจ็ด ล้วนแต่เกิดขึ้นด้วยสาเหตุเดียวเท่านั้น

หลินเป่ยเฉิน!!

นั่นเป็นเพราะว่าเสี่ยวแย่และองค์ชายเจ็ดมีสัมพันธ์ที่ดีกับหลินเป่ยเฉิน

ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้แสดงเจตนาผูกมิตรต่อหลินเป่ยเฉิน

หากสามารถเป็นมิตรกับหลินเป่ยเฉินได้ พวกเขาก็จะได้เป็นมิตรกับผู้มีพลังระดับเซียนอีกสี่ชีวิต รวมไปถึงนักรบเกราะเงินขั้นยอดปรมาจารย์ตอนปลายอีก 20 นาย

แต่การเลือกเดินหมากเช่นนี้มีความเสี่ยงสูง

โดยเฉพาะเสี่ยวเหยียน หัวหน้าตระกูลเสี่ยวคนปัจจุบัน เขาคือผู้ที่แบกรับความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากการแต่งตั้งเสี่ยวเย่ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป ถือเป็นการแต่งตั้งข้ามหน้าข้ามตาผู้อาวุโสในตระกูลจำนวนมาก ย่อมมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเกิดความไม่พอใจ

แต่บัดนี้ ตระกูลเสี่ยวได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว

ในอีกห้าวันข้างหน้า ส่วนตระกูลเสี่ยวจะทำพิธีแต่งตั้งเสี่ยวเย่ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลคนใหม่ เทียบเชิญจำนวนมากจึงถูกส่งมาหาเหล่าขุนนางคนใหญ่คนโตในนครหลวง เพื่อให้ทุกท่านเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งตั้งหัวหน้าตระกูลครั้งนี้

ยังคงมีข่าวคราวหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย

ข่าวที่สามมาจากจวนตระกูลจั่ว

ปรากฏว่าเสนาบดีไต้อวี่เต๋อแห่งกรมมือปราบเป็นพวกฉ้อราษฎร์บังหลวง มีพฤติกรรมชั่วร้ายมาอย่างยาวนาน ท่านอัครเสนาบดีจึงได้ร่วมมือกับกรมมือปราบและกองทัพจัดการสืบสวนภายใน และออกประกาศอย่างเป็นทางการให้ปลดไต้อวี่เต๋อออกจากตำแหน่งเสนาบดี และลงโทษประหารชีวิตสมาชิกตระกูลไต้ยกตระกูล

ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับไต้อวี่เต๋อต่างถูกลงโทษขังคุก

ข่าวนี้ทำให้ชาวเป่ยไห่ในนครหลวงรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล และพวกเขาก็รู้สึกอย่างชัดเจนว่าต้องมีบางอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด