เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 1159 จัดการศัตรู

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนกระบี่มาแล้ว ตอนที่ 1159 จัดการศัตรู อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 1,159 จัดการศัตรู

“อ้า ความรู้สึกนี้มันช่างดีจริง ๆ แฮะ”

หลินเป่ยเฉินสัมผัสได้ว่าตนเองแข็งแกร่งมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า คล้ายกับว่าในใต้หล้านี้ เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผู้ใดอีกแล้ว

“สู้โว้ย”

หลินเป่ยเฉินควงกระบี่เงินของตนเองเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง

“อย่าทำอะไรโง่ ๆ”

สตรีผู้สวมใส่หน้ากากแปลกประหลาดนามแม่นางหลินคำรามด้วยความหงุดหงิดใจ “หากเจ้าไม่หนีไป เจ้าจะต้องตาย เจ้า…”

เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย

พลั่ก!

ร่างของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็ลอยกระเด็นออกไป

เนื่องจากทนรับอานุภาพกระบี่ของหลินเป่ยเฉินไม่ไหว

“เป็นไปได้อย่างไร?”

สตรีผู้สวมใส่หน้ากากแปลกประหลาดนามแม่นางหลินเห็นเช่นนั้นก็อดอุทานออกมาไม่ได้

เกิดอะไรขึ้น?

เหตุไฉนหลินเป่ยเฉินถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้?

ตุบ!

ร่างที่เหลือแค่ท่อนบนของฉู่อวิ๋นซุนตกลงมากระแทกพื้นสะพานหิน

ท่านเจ้าเมืองหนุ่มยังคงส่งเสียงคำรามในลำคอไม่ต่างจากสัตว์ป่ากระหายเลือด สองมือของเขาพยายามจะตะกายไขว่คว้าอะไรบางอย่าง เห็นได้ชัดว่าจิตใจไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอีกแล้ว…

“รีบพาเขาไปพื้นที่ปลอดภัยก่อน”

หลินเป่ยเฉินควงกระบี่ในมืออีกครั้ง

พลังปราณธาตุทองคำแผ่กระจายรอบร่างกายของเขา

เสื้อคลุมสีขาวราวหิมะแปดเปื้อนโลหิตเป็นด่างดวง มวลพลังลมปราณแผ่ออกจากร่างกายอย่างแข็งแกร่ง มีสง่าราศีไม่ต่างจากเซียนกระบี่ที่แท้จริง

หลังจากลังเลเล็กน้อย สตรีผู้สวมใส่หน้ากากแปลกประหลาดนามแม่นางหลินก็ถ่ายทอดพลังลมปราณและประคองฉู่อวิ๋นซุนมุ่งหน้าไปยังอีกฝั่งหนึ่งของสะพานหิน

“หึ่ยยย ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้”

ฉู่อวิ๋นซุนพยายามดิ้นรนและคำรามออกมา

ไม่ต่างจากสัตว์ร้ายผู้บ้าคลั่ง

“อวิ๋นซุน”

เสียงที่เย็นชาดังขึ้น เป็นลู่กวนไห่สะกดกลั้นอาการบาดเจ็บของตนเอง มือที่นุ่มนิ่มของนางวางลงบนหัวไหล่ของผู้เป็นสามี

ร่างกายของฉู่อวิ๋นซุนสั่นสะท้านเล็กน้อยราวกับว่าสติสัมปชัญญะหวนคืนกลับมา ทันใดนั้น ท่านเจ้าเมืองหนุ่มก็กัดฟันกรอดและร่ำร้องว่า “เจ็บเหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน…”

ร่างกายของเขาถูกรุกรานด้วยพลังปราณสีทองคำ โลหิตที่ไหลออกมาล้วนเป็นสีทองคำ ความเจ็บปวดในระดับนี้ ถึงจะเป็นขั้นเซียนก็ไม่สามารถทนทานไหวอีกแล้ว ฉู่อวิ๋นซุนจึงส่งเสียงครางออกมาอย่างน่าเวทนายิ่ง…

ลู่กวนไห่ไม่พูดคำใด ได้แต่จับมือของฉู่อวิ๋นซุนแนบแน่นพร้อมกับลูบแผ่นหลังของเขา…

“เจ็บเหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน…”

ฉู่อวิ๋นซุนส่งเสียงคำรามออกมาจากด้านในลำคอ

เสียงของเขาแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ

จนสุดท้ายก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

ในเวลาเดียวกันนี้

การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป

หลินเป่ยเฉินกระโจนเข้าไปต่อสู้กับ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ อีกครั้ง

“กระบวนท่ากระบี่ที่ 1 กระบวนท่ากระบี่ที่ 2 กระบวนท่ากระบี่ที่ 3…”

“1 2 3 4 1 2 3 4!”

กระบี่เงินในมือเด็กหนุ่มตวัดเป็นจังหวะจะโคน

รังสีกระบี่พุ่งแหวกอากาศออกไปข้างหน้า

กระบี่ทองคำในมือ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ต้องยกขึ้นปัดป้องเป็นพัลวัน

หลินเป่ยเฉินยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

‘ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งโดดเดี่ยวมากเท่านั้น…’

บทเพลงจากแอป NetEase Cloud Music บรรเลงขึ้นอีกครั้ง

นี่คือเพลงประกอบการต่อสู้ที่หลินเป่ยเฉินคัดเลือกมาด้วยตนเอง

เมื่อได้ฟังเพลงปลุกใจ พลังต่อสู้ของหลินเป่ยเฉินก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ

เดิมทีขั้นเซียนระดับ 4 ที่มีพลังปราณธาตุห้าชนิดก็ไม่ได้มีพลังต่ำต้อยอยู่แล้ว

แต่ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

วูบ!

รังสีกระบี่สีทองพุ่งทะยานออกไป

รังสีกระบี่ของหลินเป่ยเฉินฟันเข้าใส่แขนขวาของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’

โลหิตสีทองสาดกระจาย

‘เว่ยหมิงเฉิน’ ได้รับบาดเจ็บ

การโจมตีด้วยกระบี่ของหลินเป่ยเฉินในครั้งนี้สามารถสร้างความเจ็บปวดให้แก่ร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ได้มากกว่าการโจมตีของพวกเม่ยฮัวโส่วที่ผ่านมารวมกันทั้งหมด ดังนั้น สะดือที่กลายเป็นปากอันน่าเกลียดของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ จึงส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความทรมาน

ห่างออกไป

เม่ยฮัวโส่ว ฮั่วเฟยฮัวและคนอื่น ๆ ยืนเบิกตาโตจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นในความเงียบ

พวกเขาล้วนตกตะลึง

หลินเป่ยเฉินสามารถต่อสู้กับ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ได้จริง ๆ หรือ?

“ทำไมอยู่ดี ๆ หลินเป่ยเฉินถึงได้เก่งขึ้นมาเช่นนี้?”

ใครคนหนึ่งถามออกมา

“หรือก่อนหน้านี้เขาปิดบังฝีมือที่แท้จริงเอาไว้?”

ใครอีกคนหนึ่งเป็นคนตอบ

หากเป็นเช่นนั้น ก็นับว่าเด็กหนุ่มปิดบังฝีมือได้อย่างแนบเนียนยิ่ง

หลินเป่ยเฉินเฝ้ารอให้ทุกคนใกล้ตายก่อนจึงได้เปิดเผยฝีมือที่แท้จริงออกมา นี่ไม่ต่างจากการพยายามฆ่าพวกเขาทางอ้อมชัด ๆ

“ไม่ใช่”

เม่ยฮัวโส่วมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังคงพูดว่า “ก่อนหน้านี้ หลินเป่ยเฉินไม่ได้ปิดบังฝีมือที่แท้จริง แต่ระดับพลังที่สูงขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ เขาคงเลื่อนขั้นพลังได้มากกว่า… เด็กคนนี้นับว่าเป็นอัจฉริยะจริง ๆ”

ฮั่วเฟยฮัวพยักหน้าสนับสนุนกล่าวว่า “ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน… เด็กหนุ่มผู้นี้มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก ในอนาคต ใต้หล้านี้คงต้องตกเป็นของเขาแล้ว”

เมื่อเจ้าสำนักทั้งสองท่านกล่าวออกมาเช่นนั้น ความสงสัยในจิตใจของทุกคนก็สลายหายไปทันที

สตรีผู้สวมใส่หน้ากากแปลกประหลาดนามแม่นางหลินชำเลืองมองไปที่เจ้าสำนักทั้งสองคนและไม่พูดคำใด

แต่ในใจอดสบถออกมาไม่ได้ว่า

ช่างเจ้าเล่ห์กันเสียจริง

ไม่มีใครรู้ว่าหลินเป่ยเฉินแข็งแกร่งขึ้นเพราะเลื่อนขั้นพลังได้จริงหรือไม่ แต่ที่เม่ยฮัวโส่วกับฮั่วเฟยฮัวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ ก็เพราะพวกเขาไม่อยากให้มีผู้ใดสงสัยในความสามารถของหลินเป่ยเฉิน

อีกทั้งยังเป็นการย้ำเตือนว่าหากผู้ใดสงสัยในความแข็งแกร่งของหลินเป่ยเฉินอีก ก็จะต้องมีปัญหากับพวกเขาอย่างแน่นอน

ครืน!

เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

การต่อสู้ขณะนี้มีม่านพลังแผ่กระจายออกมาราวกับเป็นพายุหมุน…

เป็นพายุหมุนที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง

การต่อสู้ของผู้มีพลังขั้นเซียนทั้งสองคนหนักหน่วงมากเกินไป

หากสุสานใต้ดินแห่งนี้ไม่ได้มีค่ายอาคมครอบทับเอาไว้ตั้งแต่แรก เกรงว่ามันคงพังถล่มลงมานานแล้ว

“ความแข็งแกร่งของหลินเป่ยเฉินเทียบเท่ากับขั้นเซียนตอนปลาย”

“เขาเพิ่งอายุเท่าไหร่เองนะ…”

“ร่างแยกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ร่างนี้มีพลังอยู่ในขั้นเซียนตอนปลาย แต่สิ่งที่น่ากลัวของเขาก็คือไม่มีผู้ใดจะทำอันตรายเขาได้เลย ทว่าหลินเป่ยเฉินกลับสามารถทำได้สำเร็จ”

“แต่ผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ เรายังคงบอกไม่ได้…”

ความคิดมากมายก้องกังวานอยู่ในหัวของทุกคน

ดวงตาหลายสิบคู่จ้องมองไปที่การต่อสู้

หัวใจหลายดวงเต้นด้วยความลุ้นระทึก

บรรยากาศตื่นเต้นตึงเครียด

‘เว่ยหมิงเฉิน’ นับว่ามีความน่ากลัวจริงๆ แม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณที่ทิ้งไว้ในร่างแยกของเขาร่างนี้ ก็มีความแข็งแกร่งจนพวกเขาสู้ไม่ได้

แล้วหลินเป่ยเฉินจะสามารถต้านทานได้นานสักแค่ไหน?

ครืน!

เกิดการสั่นสะเทือนจากแรงระเบิดอีกครั้ง

แล้วร่างของใครคนหนึ่งก็ลอยกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับผนังหินของสุสานใต้ดิน

ทุกคนรีบจ้องมองด้วยความตื่นตระหนก

“เป็นเว่ยหมิงเฉิน”

เม่ยหลินตะโกนออกมา

ร่างสัตว์ประหลาดของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ถูกซัดกระเด็นออกไปแล้ว

ผู้คนส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ

เสียงโห่ร้องของพวกเขาดังมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพราะว่าหลินเป่ยเฉินแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบทุกประตู

สวบ!

กระบี่เงินของเขาแทงทะลุหน้าอกของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ และปักตรึงอีกฝ่ายติดอยู่กับผนังหิน

“อ๊ากกก…”

ร่างสัตว์ประหลาดของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด

แต่มือยังสามารถตวัดกระบี่ตรงไปที่หลินเป่ยเฉิน

หลินเป่ยเฉินรีบดึงกระบี่ของตนเองออกและถอยตัวกลับมาโดยเร็ว

เขาเคยดูภาพยนตร์และซีรีส์กำลังภายในมาหลายเรื่อง ปรากฏว่ามีตัวละครฝ่ายพระเอกมากมายที่ต้องมาตายโง่ ๆ เพราะถูกตัวร้ายเล่นงานทีเผลอ เพราะฉะนั้น หลินเป่ยเฉินจะไม่ปล่อยให้ตนเองเป็นพวกฝ่ายพระเอกโง่ ๆ เหล่านั้นเด็ดขาด

การต่อสู้อุบัติขึ้นอีกครั้ง

หลินเป่ยเฉินยังคงคุมสถานการณ์ได้เหนือกว่า

ฉัวะ!

แขนของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ขาดกระเด็น

“เจ้ามนุษย์ผู้ต่ำต้อย เจ้า…”

เสียงคำรามดังออกมาจากหน้าท้องของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’

แต่คำพูดก็หยุดลงเพียงเท่านั้น

เพราะหลินเป่ยเฉินใช้กระบี่กรีดไปที่หน้าท้องของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’

ตัดก้อนเนื้อขาดสะบั้น

วูบ!

กระบี่เงินในมือของหลินเป่ยเฉินแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของมันอีกครั้ง ต่อให้ร่างสัตว์ประหลาดสุดแข็งแกร่งของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ก็ไม่สามารถต้านทานกระบี่นี้ได้ คมกระบี่ของหลินเป่ยเฉินสามารถตัดชิ้นเนื้อในร่างกายกระจัดกระจายเต็มอากาศ ไม่ต่างไปจากสายฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นเนื้อมนุษย์

หลินเป่ยเฉินลงมือโดยไม่ลังเล

กระบี่ยังคงฟาดฟันต่อไป

เงากระบี่ครอบคลุมอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตาเดียว กระบวนท่านับร้อยก็ผ่านพ้น

ร่างของ ‘เว่ยหมิงเฉิน’ ถูกสับละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

โลหิตสีทองคำสาดกระจาย เนื้อมนุษย์แหลกสลายกลายเป็นก้อนเลือดโปรยปรายลงมาจากกลางอากาศร่วงลงสู่บ่อลาวาและเปลี่ยนเป็นหมอกควันสีขาวตลบฟุ้งขึ้นมา

ในอากาศเหลือมวลพลังสีทองคำลอยอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้น

เป็นมวลพลังสีทองคำบริสุทธิ์

ลอยแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว

เพราะมันเป็นมวลพลังจากกระบี่ในมือหลินเป่ยเฉินนั่นเอง

ห่างออกไป เม่ยฮัวโส่ว ฮั่วเฟยฮัวและคนอื่น ๆ ก็สามารถถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกได้เสียที

หัวใจของทุกคนกลับมาเต้นในระดับปกติ ความรู้สึกหวาดผวาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

“ชนะแล้วหรือ?”

ฉู่อวิ๋นซุนซึ่งกำลังจะหมดสติจ้องมองไปยังทิศทางของการต่อสู้ ถึงแม้ดวงตาของเขาจะพร่ามัว แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังลมปราณจากศัตรูได้สลายหายวับไปแล้ว

ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองหนุ่มจะกลับมามีความหวัง ลมหายใจของเขาเริ่มกลับมาคงที่มากขึ้น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด