เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 1027 ไม่ต้องแก้แค้นให้ข้า

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนกระบี่มาแล้ว ตอนที่ 1027 ไม่ต้องแก้แค้นให้ข้า อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 1,027 ไม่ต้องแก้แค้นให้ข้า

“อย่าทำเช่นนั้นเลย”

หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปเสียงดัง

เทพีกระบี่ไม่พูดคำใดออกมา

พลังศักดิ์สิทธิ์ยังคงแผ่รัศมีออกมาเจิดจ้า

รัศมีพลังนั้นตอนแรกอ่อนโยนราวกับแสงจันทร์บัดนี้กลับร้อนแรงไม่ต่างจากแสงตะวัน และแม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของพลังทำลายล้าง

อย่าบอกนะว่า…

เทพีกระบี่คิดที่จะระเบิดตนเอง?

นางจะยอมพลีชีพตนเองเพื่อสังหารเทพแห่งวิหารเฉียนเกาและเปิดโอกาสให้เขาหลบหนีอย่างนั้นหรือ?

“อย่าเพิ่งคิดแย่งชิงความดีความชอบไปเพียงผู้เดียว พวกเรายังคงมีโอกาส”

หลินเป่ยเฉินจับแขนของเทพีกระบี่และพูดเน้นย้ำว่า “มาคิดหาทางอื่นกันดูดีกว่า”

“ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว”

เส้นผมสีดำของเทพีกระบี่ปลิวไสวราวกับเปลวไฟ แววตาของนางทั้งเย็นชาและเจือไว้ด้วยความบ้าคลั่ง

นางกล่าวว่า “มันผู้นี้คือมารกาฝากที่อาศัยอยู่ในร่างของสมาชิกเผ่าเทพพงไพรมาช้านาน ทำให้มันสามารถใช้พลังของเทพพงไพรได้เกินกว่าที่ข้าคิด แม้แต่ข้า… ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของมันได้อีกแล้ว”

หลินเป่ยเฉินพยายามฝืนหัวเราะตอบกลับไป “บางทีพลังของมันอาจไม่ได้น่ากลัวถึงเพียงนั้น ท่าน…”

“หุบปาก”

เทพีกระบี่ส่งเสียงกรีดร้อง

รัศมีสีเงินเปล่งประกายออกจากร่างของนางสว่างไสวไปรอบทิศทาง ทำให้ท้องฟ้ายามราตรีมีแสงสว่างไม่ต่างจากตอนกลางวัน

แม้แต่หนวดปลาหมึกสีเหลืองสลับดำเหล่านั้นก็เข้ามาใกล้ไม่ได้อีกแล้ว

“นี่คือโอกาสเดียว…”

นางหันมามองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยความลึกซึ้ง ก่อนคลี่ยิ้ม ราวกับเป็นรูปปั้นน้ำแข็งที่มีชีวิตขึ้นมาในพริบตา

หลินเป่ยเฉินตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ช่างเป็นรอยยิ้มที่งดงามนัก

ความประหลาดใจกลืนกิน

เทพีกระบี่ไม่เคยยิ้มอย่างสวยงามเช่นนี้ให้เขามาก่อน

หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าราตรีนี้ช่างสวยงามเป็นพิเศษ และรอยยิ้มของบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ก็แทบจะทำให้เขาสามารถเมามายได้โดยไม่ต้องร่ำสุรา

“เดี๋ยวข้าจะระเบิดพลังเปิดช่องทางให้เจ้าหลบหนี…”

เทพีกระบี่กำลังจะพูด

หลินเป่ยเฉินกลับจับแขนนางเหวี่ยงไปทางหนึ่ง

แล้วเด็กหนุ่มก็ลงมือโจมตี

บัดนี้ ปืนยิงจรวด Type 69 ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่บนไหล่ของเขา และหลินเป่ยเฉินก็ยิงโดยไม่ลังเล

ตู้ม!

ลูกระเบิดถูกยิงออกไปเป็นดวงไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาเทพแห่งวิหารเฉียนเกา

“เจ้า…”

เทพีกระบี่กัดฟันพูดด้วยความเดือดดาล

แต่นางกลับรู้สึกประทับใจอีกครั้ง

นางรู้ดีว่าหลินเป่ยเฉินคงต้องไม่เห็นด้วยกับวิธีการของนาง และต่อให้นางเสียสละชีวิตของตนเอง เขาก็จะไม่หลบหนีไปไหน

เจ้าเด็กคนนี้…

ช่างโง่เขลาเกินไปแล้ว

บึ้ม!

เกิดการระเบิดขนาดใหญ่บนท้องฟ้า

ร่างของมนุษย์ควันระเบิดกระจายกลายเป็นก้อนเมฆรูปเห็ดกลางอากาศ

“เจอขนาดนี้ไม่ตายให้รู้ไปสิวะ…”

หลินเป่ยเฉินจ้องมองไปยังจุดศูนย์กลางของแรงระเบิด

ในมือของเขาถูกแทนที่ด้วยหอกเงินจากเผ่ากิ้งก่าวายุ

หากอาวุธในภพมนุษย์ไม่สามารถฆ่าเทพเจ้าได้ อาวุธศักดิ์สิทธิ์จากภพอื่นก็น่าจะฆ่าได้ไม่มีปัญหา

เพราะมันไม่ใช่วัตถุที่มาจากโลกใบนี้

หนวดปลาหมึกที่ถักทอเป็นกรงขังค่อย ๆ ฉีกกระชากสลายตัวลงไปอย่างแช่มช้า…

ใช่แล้ว!

สำเร็จจริง ๆ ด้วย

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความยินดี

เขายิ้ม

ด้วยความดีใจ

“ระวัง…”

พลัน เสียงอุทานของเทพีกระบี่ดังขึ้นด้วยความตื่นตระหนก

หลินเป่ยเฉินยืนงุนงงอยู่ตรงนั้น และเขาจึงได้เห็นว่าหมอกควันสีเหลืองสลับดำที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศนั้น กำลังรวบรวมร่างเปลี่ยนแปลงรูปทรงกลายเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง

และมันกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูงสุด…

เชี่ย!

หลินเป่ยเฉินมีเวลาเพียงสบถคำหยาบเท่านั้น

เขาไม่น่าอยากทำตัวเป็นพระเอกเลย

นี่เขาจะต้องมาตายน้ำตื้นเช่นนี้จริง ๆ หรือ?

หลินเป่ยเฉินไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตนเองถึงต้องทำตัวเป็นวีรบุรุษเช่นนี้ด้วย?

เพียงเพราะสตรีที่ไม่มีความรู้สึกผู้หนึ่ง?

นี่เขาไร้เดียงสาถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

หลินเป่ยเฉินคนนี้สมควรตาสว่างได้แล้วกระมัง

แต่คิดจะหลบหนีตอนนี้ก็ไม่ทันการแล้ว

เพราะว่ากระบี่ยาวสีเหลืองสลับดำเล่มนั้นมีความแปลกประหลาดมากเกินไป มันสามารถหลบการตรวจจับพลังลมปราณได้อย่างแนบเนียน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ตัวก่อนล่วงหน้า

ก่อนหน้านี้ แม้แต่เทพีกระบี่ก็เกือบจะถูกสังหารมาแล้ว

ครืน!

แต่แล้วม่านพลังสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น

เป็นเทพีกระบี่อาศัยจังหวะนี้เคลื่อนกายเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าหลินเป่ยเฉิน

นางกางปีกทั้ง 12 คู่ออกกว้าง และใช้แผ่นหลังของนางรับแรงปะทะจากกระบี่อสูร

เปรี้ยง!

ปีกกระบี่แตกกระจายราวกับขนนก

ใบมีดกระจัดกระจายไปรอบทิศทาง เป็นอีกครั้งที่ปีกของเทพีกระบี่ได้รับความเสียหาย และที่แผ่นหลังของนางก็ปรากฏบาดแผลฉกรรจ์จากคมกระบี่…

ร่างของทั้งสองคนกระเด็นแยกออกจากกัน

หลินเป่ยเฉินรีบยกมือขึ้นมาปล่อยละอองน้ำสีฟ้าคราม ครอบคลุมทั่วเรือนร่างเทพีกระบี่

วิชาวารีบำบัด

แต่อันตรายยังไม่ผ่านพ้น

เบื้องหน้าของเขา ปรากฏฝูงลูกธนูสีเหลืองสลับดำกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วน่าหวาดวิตก

ห่างออกไป เสียงหัวเราะของเทพแห่งวิหารเฉียนเกาดังก้องกังวานทั่วแผ่นฟ้า

“ฮ่า ๆๆ ตายซะ ตายซะ ตายกันซะให้หมด…”

หลินเป่ยเฉินถือหอกเขี้ยวมังกรอยู่ในมือ

“กำแพงวายุ”

เขาควงหอกแทนกระบี่

แล้วกำแพงแห่งสายลมก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้า

วูบ! วูบ!

กลุ่มลูกธนูที่พุ่งเข้ามาปะทะเข้ากับกำแพงสายลม บนท้องฟ้าเกิดประกายระยิบระยับ แล้วลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านั้นก็หายวับไปในพริบตา…

หลินเป่ยเฉินยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

แต่รอยยิ้มของเขาปรากฏได้เพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น

เพราะกำแพงแห่งสายลมที่มีลักษณะโปร่งแสงนั้นเกิดรอยแตกร้าวขึ้นอย่างชัดเจน ก่อนที่มันจะสลายตัวลงไปอย่างรวดเร็ว…

หลินเป่ยเฉินร้องคำราม

หอกเขี้ยวมังกรในมือเขาโบกสะบัดด้วยความเร็วสูง เปลี่ยนสภาพกลายเป็นโล่สีเงินคอยปัดป้องลูกธนูที่พุ่งเข้าหา!

และเนื่องจากหอกเขี้ยวมังกรเป็นอาวุธที่มาจากภพอื่น มันจึงสามารถต้านทานลูกธนูของเทพแห่งวิหารเฉียนเกาได้อย่างไม่มีปัญหา

เทพีกระบี่กระพือปีกของนางอีกครั้ง ก่อนที่ตัวคนจะเปลี่ยนเป็นลำแสง พุ่งเข้าไปหาเทพแห่งวิหารเฉียนเกาจากด้านข้าง…

“ฮ่า ๆๆ…”

เทพแห่งวิหารเฉียนเการะเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ “เจ้ารู้หรือไม่? บัดนี้พวกเจ้าทั้งสองไม่ต่างไปจากลูกไก่ในกำมือของข้า พวกเจ้าไม่มีโอกาสรอดชีวิตอีกแล้ว ฮ่า ๆๆ …ฝ่ามือสยบฟ้า!”

แล้วฝ่ามือสีเหลืองดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เทพีกระบี่ถูกฝ่ามือยักษ์ฟาดเข้าใส่เต็มแรง

โลหิตสาดกระจายในอากาศ

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

ในที่สุด หอกเขี้ยวมังกรในมือหลินเป่ยเฉินก็ไม่สามารถต้านทานแรงปะทะจากลูกธนูปีศาจเหล่านั้นได้อีก รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนตัวหอก ก่อนที่หอกจะแตกหักไปต่อหน้าต่อตาของเขา

ปึก! ปึก! ปึก!

ลูกธนูสามดอกปักเข้าใส่ร่างกายของหลินเป่ยเฉิน

“โอ๊ย… เหวอออ”

เด็กหนุ่มร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า

แม้แต่ม่านพลังที่โคจรขึ้นมาเป็นเกราะกำบังร่างกายก็ไม่อาจต้านทานลูกธนูเหล่านี้ได้

ยังคงมีลูกธนูอีกกลุ่มใหญ่พุ่งตามเข้ามา

“ฝันไปเถอะ”

เทพีกระบี่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์จนตนเองถูกครอบคลุมอยู่ในลูกแก้วแห่งแสงขนาดใหญ่ และนางก็กำลังมุ่งหน้าเข้าไปหาเทพแห่งวิหารเฉียนเกาอีกครั้งด้วยความหมดหวัง

“เจ้าคิดจะทำอะไร”

เทพแห่งวิหารเฉียนเกามีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

มันสัมผัสได้ถึงอันตรายที่คุกคามเข้ามา

มันรู้แล้วว่าเทพีกระบี่ตั้งใจระเบิดวิญญาณเพื่อทำลายล้างตัวมันเองให้ตกตายไปพร้อมกับนาง

“ถอยไปซะ”

เทพแห่งวิหารเฉียนเกาควบคุมลูกธนูที่กำลังพุ่งไปหาหลินเป่ยเฉินให้กลับมาพุ่งเข้าไปหาเทพีกระบี่แทน

ทันใดนั้น…

“ฝ่ามือสยบฟ้า!”

ปรากฏมือขนาดใหญ่ยักษ์อีกข้างพุ่งเข้าไปเล่นงานเทพีกระบี่

นี่คือขีดจำกัดสูงสุดจากการยืมพลังของเทพแห่งวิหารเฉียนเกา

เทพีกระบี่ยังคงมีสีหน้าเย็นชา เส้นผมปลิวไสวไปทางด้านหลัง

เมื่อฝ่ามือยักษ์เคลื่อนเข้ามาใกล้ นางก็ไม่มีความตั้งใจที่จะหลบหลีกสักนิด

ตู้ม!

เกิดการระเบิดขนาดใหญ่บนท้องฟ้า

ฝ่ามือยักษ์ระเบิดกระจาย

หลังจากนั้น ร่างของเทพีกระบี่ที่บาดเจ็บสาหัสก็พุ่งผ่านมวลอากาศที่ปั่นป่วน นางใช้แขนข้างหนึ่งรัดรอบลำคอเทพแห่งวิหารเฉียนเกาและใช้เส้นผมดำยาวของตนเองพันธนาการแขนของอีกฝ่ายเอาไว้…

“หนีไปซะ”

นางตะโกนโดยไม่เหลียวหน้ามองกลับมา “ไม่ต้องแก้แค้นให้ข้า”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด