เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] – บทที่ 991 มันมาอีกแล้ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนกระบี่มาแล้ว ตอนที่ 991 มันมาอีกแล้ว อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 991 มันมาอีกแล้ว

“นี่ ตั้งสติหน่อย เจ้าจะมาเป็นลมตอนนี้ไม่ได้”

หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นดีดหน้าผากไป๋เสี่ยวเซียวเบา ๆ

ไป๋เสี่ยวเซียวได้สติขึ้นมาทันที

นางยกมือลูบหน้าผากของตนเอง ก่อนจะตะโกนลงไปทางเมืองบนพื้นดินว่า “เราคือผู้อาวุโสจูกับภรรยาจากเผ่าจันทราขาว ตั้งใจมาที่นี่เพื่อล้างแค้นพวกเจ้า”

เมื่อพูดจบ นางก็หันมาส่งยิ้มให้แก่หลินเป่ยเฉินอย่างอ่อนหวาน

ถึงอย่างไรเขาก็ฟังไม่เข้าใจอยู่แล้ว

ที่เมืองของเผ่ากิ้งก่าวายุด้านล่าง

มนุษย์กิ้งก่าขั้นเซียนระดับห้าตัวหนึ่งกระโดดเข้าสู่ฝูงแรดภูเขา บัดนี้ มันกำลังอยู่ในความกระวนกระวายใจ เนื่องจากตกอยู่ใจกลางวงล้อมของแรดภูเขาขนาดมหึมาจำนวนมาก ไม่มีทางสามารถสังหารได้หมดสิ้น

เดือดร้อนให้กิ้งก่าขั้นเซียนระดับห้าอีกตัวที่ใช้หอกขว้างใส่หลินเป่ยเฉินเมื่อสักครู่ ต้องกระโดดลงจากกำแพงเมืองและรีบรุดเข้าไปช่วยเหลือสหายของตนเองกลางวงล้อมแรดภูเขา

การต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นอีกครั้ง

โลหิตไหลเนืองนองเต็มพื้นดิน

สุดท้าย ก็ต้องใช้กิ้งก่าขั้นเซียนระดับถึงสี่ตัวกว่าจะจัดการฝูงแรดภูเขาเหล่านี้ได้สำเร็จ

แต่ฝ่ายกิ้งก่าวายุก็ได้รับความเสียหายใหญ่หลวงเช่นกัน

มนุษย์กิ้งก่าขั้นเซียนระดับ 5 ทั้งสี่ตัวนั้นมีตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บและอีกสามตัวที่เหลือก็สูญสิ้นพลังหมดเรี่ยวแรง…

และมนุษย์กิ้งก่าขั้นเซียนระดับ 1 ของพวกมันถึงหกตัวต้องเสียชีวิตไปภายใต้การเหยียบย่ำของฝูงแรดภูเขา

รวมถึงมีนักรบกิ้งก่าเสียชีวิตไปอีก 70 ตัว

บนกำแพงเมืองยังเกิดรอยแตกร้าว

“บัดซบ”

หัวหน้าผู้อาวุโสประจำเผ่ากิ้งก่าวายุมีนามว่าจินอู๋ซู มันยืนอยู่บนกำแพงเมือง จ้องมองพื้นดินที่เต็มไปด้วยคราบโลหิต ดวงตาเป็นประกายเคียดแค้น

เผ่าของพวกมันถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว

“กราบเรียนผู้อาวุโส มีคนเจตนาล่อฝูงแรดภูเขามาที่นี่ขอรับ”

ผู้นำกลุ่มนักรบกิ้งก่าเดินเข้ามารายงาน

“คงเป็นฝีมือของเผ่าจันทราขาวสินะ?”

ผู้อาวุโสจินอู๋ซูถามเสียงเข้ม

“เอ่อ หามิได้ขอรับ… เป็นคนของเผ่าเราเอง”

นักรบกิ้งก่าผู้นั้นก้มหน้าต่ำ

“เป็นไปได้อย่างไร?”

ผู้อาวุโสจินอู๋ซูเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

หัวหน้านักรบรีบบอกเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนสรุปความว่า “บัดนี้ เจ้าตัวบัดซบที่ขโมยลูกแรดภูเขามานั้น ได้ถูกเหยียบย่ำตายเป็นกองเศษเนื้อไปแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันทำไปเพื่ออะไร…”

ผู้อาวุโสจินอู๋ซูได้ยินเช่นนี้ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“บางทีนี่อาจเป็นแผนสมคบคิดของเผ่าจันทราขาว” จินปู้โต๋ ผู้อาวุโสลำดับที่สองกล่าว

ผู้อาวุโสอีกหลายตัวที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองหันมองหน้ากัน

เรื่องนี้แปลกประหลาดมากเกินไปจริง ๆ

แต่การล่อฝูงแรดภูเขาให้มาโจมตีเมืองแห่งนี้ได้นั้น อย่าว่าแต่คนธรรมดาจะทำได้เลย ต่อให้เป็นขั้นเซียนระดับ 5 ก็ไม่สามารถทำได้ด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบุกเข้าไปในอาณาเขตของสัตว์อสูร เมื่อต่อสู้จนพลังเหือดหายไปจากร่างกาย สิ่งเดียวที่รอคอยอยู่ก็คือความตายเท่านั้น

แรดภูเขานอกจากมีความรวดเร็วแล้ว ยังเป็นสัตว์อสูรที่มีผิวหนังแข็งแกร่ง ยากต่อการโจมตี

แต่เหตุการณ์วันนี้คืออะไร?

ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้

“ก่อนหน้านี้ ข้าเห็นคนบินอยู่บนท้องฟ้า น่าเสียดายที่มองไม่เห็นใบหน้า และข้าไม่สามารถสอยพวกมันลงมาได้” ผู้อาวุโสใหญ่จินอู๋ซูกล่าว “เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นแน่นอน”

“บินได้อย่างนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสลำดับที่สองจินปู้โต๋ขมวดคิ้ว “เกรงว่านี่คงเป็นความช่วยเหลือจากโลกภายนอกแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายมีวัตถุบินได้ มันก็ต้องเป็นวัตถุบินได้ขั้นเซียน… ครั้งหน้าถ้าเจอมันผู้นี้อีก ท่านลองใช้หอกเขี้ยวมังกรกับมันดูเถอะ”

“เราควรรายงานเรื่องนี้ต่อหัวหน้าเผ่าหรือไม่?”

จินถัวโม่ผู้อาวุโสลำดับที่สามถาม

จินอู๋ซูผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหน้า “หัวหน้าเผ่ากำลังเก็บตัวฝึกวิชา อย่าเพิ่งไปรบกวนท่านเลย”

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นี้ ทันใดนั้น กลับเกิดความเคลื่อนไหวนอกกำแพงเมืองอีกครั้ง

หัวใจของกลุ่มมนุษย์กิ้งก่าเต้นไม่เป็นจังหวะ

พวกมันทอดสายตามองออกไปนอกกำแพงเมือง และพบว่ามีฝูงวิหคอสูรจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาที่เมืองของพวกมันด้วยความโกรธแค้น

“ดูนั่นสิ”

ผู้อาวุโสลำดับที่สองจินปู้โต๋ชี้มือไปที่หน้าขบวนของฝูงวิหคอสูร

“นั่นมัน…”

เมื่อผู้อาวุโสใหญ่กวาดสายตามองไป มันก็ต้องตกตะลึงอย่างยิ่ง

เนื่องจากมีนักรบกิ้งก่าตัวหนึ่งกำลังอุ้มลูกวิหคอสูรที่มีขนสีแดงเพลิงอยู่ในอ้อมแขน และนักรบกิ้งก่าตัวนั้นก็กำลังอุ้มลูกวิหคตรงมาที่เมืองแห่งนี้ โดยที่มีฝูงวิหคอสูรวิ่งไล่ตามมาจนพื้นดินสั่นสะเทือน…

“เป็นมันผู้นี้ เป็นมันผู้นี้ เป็นมันผู้นี้”

หัวหน้านักรบกิ้งก่าอุทานออกมา “มันผู้นี้คือผู้ที่ขโมยลูกแรดภูเขากลับมาที่เมืองของเรา… มันยังไม่ตาย!!”

บรรดากิ้งก่าผู้อาวุโสล้วนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน

ดูเหมือนว่ามันผู้นั้นจะเป็นคนจากเผ่ากิ้งก่าวายุจริง ๆ

แล้วเหตุไฉนถึงต้องไปขโมยลูกวิหคอสูรกลับมาด้วย?

ปีกสีแดงของลูกนกน้อยตัวนั้นบอกชัดว่ามันเป็นทายาทของวิหคตัวที่เป็นจ่าฝูง

“เจ้านี่วิ่งได้รวดเร็วนัก…”

จินถัวโม่ ผู้อาวุโสลำดับที่สามอุทานออกมา

เผ่าพันธุ์วิหคอสูรสามารถวิ่งได้เร็วกว่าแรดภูเขา

แต่พวกมันกลับวิ่งตามมนุษย์กิ้งก่าตัวนั้นไม่ทัน

นับว่าเป็นยอดฝีมือของเผ่ากิ้งก่าวายุอย่างแท้จริง

“ไม่ หยุดมันซะ”

ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนออกคำสั่ง

แต่สายเกินไปเสียแล้ว

มนุษย์กิ้งก่าตัวนั้นวิ่งเร็วราวกับสายลม อีกเพียงไม่กี่สิบหลาก็จะถึงกำแพงเมือง อยู่ดี ๆ มันก็ยกมือขึ้นและโยนลูกนกอสูรในอ้อมแขนพุ่งตรงขึ้นมาที่กำแพงเมือง…

ลมหายใจต่อมา มนุษย์กิ้งก่าหนุ่มก็ล้มลงบนพื้นดินอย่างหมดแรง

ฝูงวิหคอสูรที่วิ่งตามมาเหยียบย่ำมันตัวแล้วตัวเล่า…

ตายแล้วหรือ?

เหล่ากิ้งก่าอาวุโสได้แต่ตกตะลึงพูดอะไรไม่ออก

ลูกนกที่ถูกโยนขึ้นมาพลันร่างร่วงหล่นกระแทกสันกำแพงเมืองเศษเลือดเศษเนื้อสาดกระจาย…

กิ้งก่าทุกตัวหยุดชะงัก

เจ้าทำอะไรของเจ้าไม่ทราบ?

หากไม่อยากได้ลูกนกตัวนี้แล้ว ทำไมถึงต้องทำให้ชาวเผ่าเดือดร้อนด้วย?

“เร็วเข้า รีบคุ้มกันกำแพงเมือง รีบคุ้มกันกำแพงเมือง”

ผู้อาวุโสใหญ่ระเบิดเสียงคำรามดังสนั่น

ลมหายใจต่อมา พวกมันก็เห็นฝูงวิหคอสูรวิ่งเข้าใส่กำแพงเมืองอย่างบ้าคลั่ง

แต่สิ่งที่แตกต่างจากฝูงแรดอสูรก็คือวิหคอสูรเหล่านี้นอกจากจะวิ่งเร็วกว่าแล้ว พวกมันยังสามารถกระโดดได้สูงอีกด้วย เมื่อมาถึงหน้ากำแพงเมือง มันก็กระพือปีกและทำท่าว่าจะบินข้ามกำแพงเมืองเข้าไปได้สำเร็จ…

การต่อสู้อันดุเดือดเริ่มขึ้น

ผู้อาวุโสใหญ่ร่างกายสั่นเทา

แต่สัตว์อสูรที่มีสติปัญญาต่ำต้อยเหล่านี้ ไม่สามารถพูดคุยเจรจาด้วยเหตุผล

พวกมันรู้จักแต่เพียงการต่อสู้เท่านั้น

หนึ่งชั่วยามให้หลัง

เบื้องหน้ากำแพงเมืองเต็มไปด้วยซากศพ

ส่วนใหญ่ย่อมเป็นศพของวิหคอสูร

แต่เผ่ากิ้งก่าวายุก็ถูกฆ่าตายไปหลายร้อยตัวเช่นกัน

ซ้ำยังเป็นนักรบระดับสูงประจำเผ่าอีกด้วย

มนุษย์กิ้งก่าขั้นเซียนตายไปถึงเจ็ดตัว

และผู้อาวุโสลำดับสาม จินถัวโม่ ก็ถูกราชาวิหคอสูรเหยียบศีรษะระเบิดกระจาย ความตายของขั้นเซียนระดับ 5 ประจำเผ่าทำให้มนุษย์กิ้งก่าทุกตัวตกตะลึง

“หึ่ยยย…”

ผู้อาวุโสใหญ่ระเบิดเสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด “ไปตรวจสอบให้กับข้า ผู้ที่ชักนำเภทภัยมาสู่เผ่าของพวกเรา มันเป็นใครกันแน่”

ทว่า ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น จินอู๋ซูก็ต้องร่างกายสั่นสะท้านอีกครั้ง

เพราะว่าเกิดความเคลื่อนไหวนอกกำแพงเมืองอีกแล้ว

“นั่นมันพวกปูอสูรหกขา!”

“พวกมันกำลังโกรธแค้น…”

“อย่าบอกนะว่าพวกมันจะบุกโจมตีพวกเรา?”

“ไม่นะ…”

มนุษย์กิ้งก่าที่ยืนประจำการอยู่หน้ากำแพงเมืองพลันอุทานออกมาด้วยความหวาดผวา

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

การโจมตีระลอกที่สาม

เหตุไฉน สัตว์อสูรเหล่านี้ถึงได้บุกมาโจมตีพวกมันอย่างต่อเนื่อง?

“มันผู้นั้น…”

“เป็นมันผู้นั้น มันอีกแล้ว… มันมาอีกแล้ว”

“มันยังไม่ตายอีกหรือ? เป็นไปได้อย่างไร? แล้วนั่นมันชูอะไรอยู่เหนือหัว?”

“ลักษณะเหมือนราชินีปูอสูรเลยแฮะ?”

“นั่นมันราชินีปูอสูรไม่ใช่หรือ?”

หัวใจของผู้อาวุโสใหญ่แทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

เจ้ากิ้งก่าผีสางตัวนั้นมันถูกฝูงวิหคอสูรเหยียบตายไปแล้วไม่ใช่หรือไร?

ทำไมถึงยังมีชีวิตอยู่อีก?

ซ้ำยังไปจับตัวราชินีปูหกขากลับมาอีกด้วย

“หยุดยั้งมัน…”

จินอู๋ซูตะโกนออกคำสั่งเสียงเฉียบขาด

ในเวลาเดียวกันนี้ หอกเขี้ยวมังกรก็ได้พุ่งเป็นลำแสงสีดำทมิฬแหวกอากาศตรงเข้าไปหาร่างของมนุษย์กิ้งก่าผู้ชูร่างราชินีปูอสูรอยู่เหนือหัว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด