Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 77 เงาร่างเเปลก ๆ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 77 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“จริง ๆ เเล้วถึงพวกเราจะไม่หลบหนี พวกเขาจะทำอะไรพวกเราได้?”

 

เย่เฉินเฟิง ยิ้มอย่างขมขื่น หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ป่าสุสานเเห่งความตายที่น่ากลัว เขาเห็นหลุมฝังศพจำนวนมากเเละเถ้ากองกระดูกที่ปรากฏขึ้นในกรอบสายตาของเขา

 

“เย่เฉินเฟิง เเม้ว่าการโจมตีของเจ้าจะน่าทึ่งเเต่ความเเตกต่างระหว่างพลังของ ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญ เเละ ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี ก็มีช่องว่างที่ใหญ่เกินไป ด้วยขอบเขตพลังที่จำกัดของเจ้า เจ้าไม่ใช่คู่มือของพวกเขา”หลินเก๋อซู่ เเม้จะชื่นชม ความสามารถของ เย่เฉินเฟิง เเต่เธอก็กล่าวเตือนเขา

 

“ก็คงงั้น”

 

เย่เฉินที่ได้รับการกล่าวเตือนดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้นทันที

 

“เอาล่ะ ข้าว่าพวกเราพักที่นี่ในคืนนี้เถอะ”

 

หลินเก๋อซู่ ได้พบสถานที่บางเเห่งในถ้ำที่ค่อนข้างอยู่สูง มันได้ตั้งอยู่เหนือพื้นดินที่เต็มไปด้วยหลุมฝังศพ เธอตั้งใจจะพักผ่อนที่นี่ เพื่อรอจนรุ่งเช้ามาถึง

 

“ศิษย์พี่ หลิน ทำไมข้ารู้สึกว่า พลังวิญญาณภายในร่างกาย ของข้าถึงไหลเวียนช้าอย่างผิดปกติ”

 

ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังนั่งไขว่ห้าง ในถ้ำเหนือพื้นดิน เเละ ทำการควบคุมลมหายใจแบบปกติ เขาก็ตระหนักได้ว่า พลังวิญยาณของเขา กำลังถูกระงับ การควบคุมพลังวิญญาณของเขากลายเป็นไหลเวียนช้ามากขึ้น ดังนั้น เขาจึงได้กล่าวถาม หลินเก๋อซู่

 

“พลังวิญญาณภายในร่างกายของข้าก็ถูกระงับเช่นเดียวกัน”

 

“ดูเหมือนว่า เรื่องที่เล่าต่อกันมาจะเป็นความจริง ที่น่ากลัวที่สุดในป่าสุสานเเห่งความตายนี้ ไม่ใใช่ ภูติผีลึกลับเหล่านั้น เเต่เป็นเสียงร้องเเห่งความเศร้าโศก ที่เป็นพลังงานด้านลบ มันได้ระงับพลังวิญญาณภายในร่างกายของพวกเรา จุดเเข็งของพวกเรากำลังถูกผนึกเอาไว้”หลินเก๋อซู่ เผยให้เห็นสีหน้าที่ไม่ดีเล็กน้อย

 

ได้รับการยืนยันเช่นนี้ ดวงตาของ เย่เฉินเฟิง สว่างวาบอีกครั้ง

 

เเม้ว่าพลังวิญญาณจะถูกระงับจริง เเต่พละกำลังทางกายของเขาไม่ได้รับผลกระทบ นี่เเสดงให้เห็นถึงข้อดีสำหรับการฝึกฝนร่างกาย ถ้าพลังวิญญาณถูกระงับ เย่เฉินเฟิง ก็ยังสามารถใช้พละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งของเขาออกมาได้ นี่คือความสามารถทางร่างกายที่เเข็งเเกร่งของเขา

 

โดยปกติเเล้ว หากเขา เผชิญหน้า กับ หยานหยู เเละ ซ้งฉี อีกครั้ง เขาจะสามารถจัดการอีกฝ่ายด้วยข้อได้เปรียบที่เขามีอยู่นี้ทันที

 

ในค่ำคืนนี้ กลิ่นอายพลังเเละเสียงโห่ร้องก็ได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนลึกของป่าสุสานเเห่งความตายได้ปรากฏเเสงสีเขียว ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นด้วยความหวาดกลัว

 

“มีคนอยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?”

 

ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังนั่งไขว่ห้างเเละปรับลมหายใจของเขา การรับรู้ที่เฉียบคมของเขาก็สามารถตรวจจับกลิ่นอายพลังวิญญาณที่ซ่อนเร้นของคนอื่นได้

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

เมื่อเห็น เย่เฉินเฟิง ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างลนลาน หลินเก๋อซู่ ได้กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

 

“ข้ารู้สึกว่ามีคนกำลังเเอบจ้องมองพวกเราอยู่”ดวงตาที่ล้ำลึกของ เย่เฉินเฟิง ได้จ้องมองออกไปอย่างเเผ่วเบา เขาสำรวจสภาพเเวดล้อมโดยรอย เเละ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด เขากล่าวพูดอย่างจริงจัง

 

“เจ้าเเน่ใจหรือไม่?ทำไมข้าไม่รู้สึกถึงอะไรเลย”เธอไม่เชื่อว่าสัมผัสวิญญาณของเธอนั้นจะด้อยกว่า เย่เฉินเฟิง ดังนั้น เธอจึงกล่าวโต้เเย้ง

 

“มีบางอย่างกำลังจะมา”

 

ศีรษะของ เย่เฉินเฟิง ได้ตรึงเเน่น เขาได้ยืนขึ้นเเละหยิบดาบประกายเพลิงของเขาออกมาจากถุงจักรวาล

 

“กรีดกร๊ดกรีด…”

 

ทันทีที่ เย่เฉินเฟิง พูดจบ เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวของเหล่าภูติผีก็ปรากฏออกมา ร่างกายที่ไร้ขาที่ลอยอยู่เหนือพื้นได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าโจมตีทั้งสองคน

 

“พวกภูติผี ? มีจำนวนมากขนาดนี้”

 

หลินเก๋อซู่ ไม่มีเวลาที่จะคิดว่าทำไม ภูติผีจำนวนมากเหล่านี้ถึงปรากฏตัวขึ้นได้ เธอได้หยิบ ดาบผลึกเพลิง ระดับกลางออกมาจากถุงจักรวาลของเธอเเล้วตะโกนขึ้น” เย่เฉินเฟิง พวกเราจะต้องรีบออกไปจากที่นี่”

 

“อืม”

 

พลังงานเเละโลหิตในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ได้ปะทุขึ้น ก่อนที่เขาจะดีดตัวเอง พุ่งเข้าใส่ พวกกลุ่มภูติผีเหล่านั้น ดาบสีเเดงเข้มในมือของเขา ได้ส่องประกายที่คมชัดออกมา เขาได้ตัดผ่านร่างของพวกภูติผีทั้งสองที่อยู่ใกล้เคียงโดยตรง

 

“หืม?ทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่ตาย?”

 

เย่เฉินเฟิง ที่ค้นพบว่าร่างของ ภูติผี ที่ถูกเขาใช้ดาบประกายเพลิงผ่าร่างไปเเล้ว ได้หลอมรวมกลับคืนมาเป็นปกติอีกครั้ง เขาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ

 

“เย่เฉินเฟิง พวกภูติผีเหล่านี้ สามารถใช้กลิ่นอายเเห่งความตายในป่าสุสานเเห่งความตายนี้ เพื่อฟื้นฟูร่างกายของพวกเขาได้ การโจมตีปกติธรรมดาไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ นอกซะจากการกำจัดอย่างเด็ดขาดในครั้งเดียว”

 

หลินเก๋อซู่ ได้ใช้ดาบผลึกเพลิง ของเธอ พุ่งเข้าโจมตีใส่ พวกภูติผีอย่างต่อเนื่อง

 

“เข้าใจเเล้ว!”

 

เย่เฉินเฟิง ได้เก็บดาบประกายเพลิงของเขาลงในถุงจักรวาลของตัวเอง จากนั้นเขาก็กระตุ้นจุดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ของเขาเพื่อเพิ่มความเเข็งเเกร่งทางร่างกายอย่างรวดเร็ว

 

เพียงชั่วพริบตา ความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของ เย่เฉินเฟิง ก็เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 จิน พลังงานเเละโลหิต ในร่างของเขาได้ปะทุออกมาอย่างรุนเเรง

 

“ปั้งปั้ง…”

 

ภูติผีจำนวนมากที่ถูกหมัดของ เย่เฉินเฟิง ร่างของพวกมันได้ถูกโจมตีจนระเบิดหายไป ทันทีที่ร่างของพวกภูติผีถูกโจมตีมันก็ได้สลายเปลี่ยนเป็นพลังหยินเเละลอยหายไปอย่างช้า ๆ

 

“ตามที่คาดไว้ พลังงานเเละโลหิตในร่างของข้า คือความน่ากลัวที่เเท้จริงสำหรับพวกภูติผีพวกนี้”

 

การโจมตีโดยใช้พลังทางกายเพียงอย่างเดียวของ เย่เฉินเฟิง สามารถที่จะกำจัดศัตรูได้ ตอนนี้ เย่เฉินเฟิง เหมือนกับ เทพเจ้าสงคราม ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย เขาได้ส่งหมัดที่เต็มไปด้วยพลังงานที่เเข็งเเกร่งจัดการศัตรูอย่างต่อเนื่องเพื่อฝ่าวงล้อมออกไป

 

“เขาช่างเเข็งเเกร่งมากจริง ๆ “

 

หลังจากเห็นการฆ่าที่รวดเร็วของ เย่เฉินเฟิง เเละ การระเบิดความเเข็งเเกร่งของเขา การเเสดงออกของ หลินเก๋อซู่ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

เธอพบว่าตนเองนั้นได้ดูถูก เย่เฉินเฟิง จนเกินไป ความจริงที่เขากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ติดบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าตั้งเเต่การทดสอบครั้งเเรกนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

 

“กรีด!”

 

เมื่อทั้งสองคนได้ร่วมกันโจมตีเเละผนึกกำลังฝ่าวงล้อมออกไป ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องที่รุนเเรงก็ดังใกล้เข้ามาในหูของพวกเขา จากนั้นร่างที่มีความสูงนับสามเมตร ร่างกายโอบล้อมไปด้วยพลังหยิน ที่รุนเเรงก็ปรากฏตัวขึ้น

 

“ราชาวิญญาณ!”

 

“ทำไมราชาวิญญาณที่มีความเเข็งเเกร่งเทียบเท่ากับผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรกถึงปรากฏตัวขึ้นในเขตชั้นนอกของป่าสุสานเเห่งความตายได้”หลินเก๋อซู่ ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

 

เนื่องเพราะตัวตนที่ทรงพลังอย่างราชาวิญญาณ มักจะอยู่ในส่วนกลางของป่าสุสานเเห่งความตาย พวกเขาไม่น่าจะมาปรากกฏตัวในบริเวณเขตชั้นนอกของป่าสุสานเเห่งความตายได้

 

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีคนล่อราชาวิญญาณมาปล่อยไว้เขตชั้นนอกเเห่งนี้?”ความคิดที่ไร้สาระได้ปรากฏขึ้นในใจของ หลินเก๋อซู่

 

“ปราณดาบขั้นย่อย!”

 

ขณะที่ หลินเก๋อซู่ กำลังลังเล จู่ ๆ เย่เฉินเฟิง ก็หยิบดาบประกายเพลิงของเขาออกมาอีกครั้ง ดาบสีเเดงในมือได้สะท้อนคลื่นพลังปราณดาบสีเเดง ก่อนที่จะรวมตัวกันเป็นลำเเสงเเละพุ่งออกไปยังร่างของ ราชาวิญญาณ

 

เเม้ว่าความเเข็งเเกร่งของ ราชาวิญญาณ นั้น จะเเข็งเเกร่งกว่า เย่เฉินเฟิง เเต่มันก็มีเพียงเเค่ร่างกายวิญญาณเพียงเท่านั้น มันย่อมอ่อนเเอในการป้องกัน เมื่อราชาวิญญาณเห็นการโจมตีจากปราณดาบที่น่าสะพรึงกลัว มันที่กำลังตะลึงลานได้ถูกปราณดาบนั่นผ่าจนร่างเเยกออกจากกัน

 

เเม้รัศมีปราณดาบขั้นย่อยของ เย่เฉินเฟิง จะทำลายร่างวิญญาณของ ราชาวิญญาณได้ เเต่เพราะพลังงานหยินที่อัดเเน่นอยู่รอบตัวของ ราชาวิญญาณ จะทำให้มันสามารถฟื้นฟูตัวได้ในทันที

 

เห็น เย่เฉินเฟิง สามารถเฉือดเฉือน ราชาวิญญาณ ได้ด้วยหนึ่งดาบ หัวใจของ หลินเก๋อซู่ เริ่มสั่นไหว ในที่สุด เธอก็เชื่อเเล้วว่า เย่เฉินเฟิง มีความเเข็งเเกร่งมากพอที่จะปะทะกับผู้เชี่ยวชาญระดับปฐพี

 

“รีบไปกันเถอะ ไว้เราค่อยพูดคุยกันหลังออกจากที่นี่ได้”

 

เย่เฉินเฟิง ได้ตะโกนขึ้นเสียงดังจากนั้น พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

 

ทันทีที่ทั้งสองคนฝ่าวงล้อมออกไป ร่างเงาพร่ามัวที่ปรากฏขึ้น ก็ได้จ้องมองทั้งคู่หายไปในตอนกลางคืน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด