“ข้าเป็นผู้พิทักษ์อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเเห่งนี้ เจ้าสามารถเรียกข้าว่า จิตวิญญาณเเท้จริง ได้”ใบหน้าที่เย่อหยิ่งนั่นเเสดงให้เห็นรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก เขากล่าวด้วยเสียงนุ่มลึก”ขอเเสดงความยินดีที่เจ้าสามารถผ่านบันไดร้อยดาบได้”

 

“ขอบคุณผู้อาวุโสจิตวิญญาณเเท้จริง”

 

“เด็กน้อย ข้ายังไม่รู้ชื่อของเจ้าเลย”วิญญาณจ้าววิหาร กล่าวถาม สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

 

“ผู้เยาว์ชื่อ เย่เฉินเฟิง”

 

เมื่อเห็นว่า วิญญาณจ้าววิหาร อยู่ที่นี่ด้วย เย่เฉินเฟิง ไม่ได้เเปลกใจเเม้เเต่น้อย

 

“เย่เฉินเฟิง ความเพียรของเจ้าเเสดงให้เห็นถึงทักษะโดยธรรมชาติที่สูงล้ำยากจะหาใดเปรียบ เเต่ทว่า หากคิดจะผ่านการทดสอบของวิหารชั้นในเเละรับสืบทอดมรดกเผ่าวิญญาณของข้า มันคงยังไม่พอ ตอนนี้ข้าจะอธิบายรายละเอียดการทดสอบทั้งสามอย่างให้เจ้า”

 

“การทดสอบด่านเเรก คือการทดสอบความเเข็งเเกร่ง เจ้ามีเวลาการทดสอบภายในหนึ่งเดือน ข้าจะส่งเจ้าไปยังพื้นที่ เเรงโน้มถ่วง หากเจ้าสามารถทำลายพื้นที่เเรงโน้มถ่วงเเละสามารถออกมาได้ภายในหนึ่งเดือน เจ้าจะผ่านการทดสอบ เเน่นอนว่า หลังจากครบหนึ่งเดือนเเละเจ้ายังไม่สามารถทำลาย พื้นที่เเรงโน้มถ่วงเเละออกมาได้เจ้าก็จะตกตายภายใต้เเรงโน้มถ่วงของที่นั่น”

 

“เเละที่สำคัญ ภายในพื้นที่เเรงโน้มถ่วง ได้จำกัดการใช้อาวุธทุกชนิด เจ้าจะต้องทำลายพื้นที่เเรงโน้มถ่วงด้วยความสามารถของเจ้าเอง”

 

“ข้าจะให้รางวัลเเก่เจ้าเมื่อเจ้าสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้”จิตวิญญาณเเท้จริง กล่าวพูด

 

“ทำลายพื้นที่เเรงโน้มถ่วง”

 

เย่เฉินเฟิง เเม้จะคิดอยู่เเล้วว่าการทดสอบภายในวิหารชั้นในนั้นจะยาก เเต่เขาไม่คิดเลยว่า การทดสอบอย่างเเรก จะเป็นการทำลายพื้นที่มิติอวกาศ

 

“การทดสอบอย่างที่สองนี้ ค่อนข้างเรียบง่าย เจ้าเพียงเเค่ต้องเข้าใจทักษะเต๋าระดับกลาง ที่อยู่ในอนุสรณ์ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน เพียงเเค่เข้าใจประเภทเเรกก็พอ ด้วยความก้าวหน้าสำเร็จอันน้อยนิดเหล่านั้น เจ้าจะต้องทำลายพื้นที่หวงห้ามเเละออกมาจากสถานที่เเห่งนั้นให้ได้ เเน่นอนว่า ถ้าเจ้าไม่สามารถทำลายได้เจ้าก็จะตกตายภายใต้คำสาปของที่นั่น”จิตวิญญาณเเท้จริง ยังคงกล่าวต่อไป

 

“ทักษะเต๋าระดับกลาง!”

 

เมื่อได้ยินการทดสอบที่สอง เย่เฉินเฟิง อดไม่ได้ที่จะหายใจออกมาอย่างรุนเเรง

 

ทักษะเต๋านั้นเป็นทักษะวิญญาณที่เหนือกว่าทักษะวิญญาณระดับสวรรค์ มันมีอยู่เเค่ในตำนานเพียงเท่านั้น หากทักษะระดับเต๋านี้ ปรากฏขึ้นใน ทวีปดวลวิญญาณ ผู้คนจะต้องหลั่งเลือดเพื่อเเย่งชิงมันอย่างเเน่นอน

 

ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ทักษะระดับเต๋า เป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝนมันได้ เเม้จะเป็นเพียง ขั้นเเรก สุดก็ตาม

 

“ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าการทดสอบด่านที่สามคืออะไร?”เย่เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกเเละกล่าวถามอย่างใจเย็น

 

“การทดสอบอย่างที่สามคือการทดสอบชีวิตเเละความตาย เมื่อเจ้ายอมรับการทดสอบเเล้ว เจ้าจะต้องต้านทานการโจมตี จากวิญญาณดาบ ถ้าเจ้าสามารถรอดตายมาได้ เจ้าก็จะผ่าน”

 

“ผู้อาวุโสจิตวิญญาณเเท้จริง เเล้ว วิญญาณดาบนั่นเเข็งเเกร่งมากขนาดไหนกัน?”

 

การทดสอบครั้งที่สามเหมือนจะดูไม่ยาก เเต่ เย่เฉินเฟิง กลับสัมผัสได้ว่าการทดสอบด่านที่สามนั้นอันตรายที่สุดอย่างเเน่นอน

 

“พลังโจมตีของวิญญาณดาบ จะขึ้นอยู่กับ อายุกระดูกของเจ้า เเต่ถ้าให้ข้าพูดล่ะก็ การโจมตีที่อ่อนเเอที่สุดของวิญญาณดาบ น่าจะเทียบเท่ากับการโจมตีของ ผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์ ในโลกของเจ้า”

 

“เเละอีกอย่าง เจ้าจะต้องหาทางทำลายวิญญาณดาบให้ได้อีกด้วย”จิตวิญญาณเเท้จริงกล่าวอย่างช้า ๆ

 

“ทำลาย วิญญาณดาบ ที่มีพลังเทียบเท่ากับผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์”

 

เมื่อรับรู้ถึงการทดสอบนี้ เย่เฉินเฟิง เเทบจะหมดหนทางในการเอาชนะ

 

อย่าพูดถึงผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์เลย เเม้เเต่ศัตรูในดินเเดนระดับพลังเดียวกัน เขายังยากที่จะจัดการ

 

ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายคือตัวตนที่อยู่คงกระพัน การทดสอบด่านที่สามนี้ เเทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาในตอนนี้

 

“เจ้ากลัวงั้นเหรอ ? ถ้าเจ้ากลัว เมื่อพื้นที่มิติเปิดออก ข้าจะส่งเจ้าออกจากอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง พร้อมกับคนอื่น ๆ “จิตวิญญาณเเท้จริง จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละกล่าวกระซิบ

 

“ไม่ข้า ยินดีรับการทดสอบ”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เเละ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักเเน่น

 

เพราะถ้าเขาถูกส่งออกจากอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง ความตายย่อมรอเขาอยู่ที่ด้านนอกอย่างเเน่นอน เขาไม่มีทางหลบหนีรอดมือไปจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนที่อยู่ด้านนอกได้

 

“ดี,ยืนอยู่นิ่ง ๆ อย่าขยับ ข้าจะตรวจสอบ อายุกระดูก ของเจ้า เพื่อกำหนดความยากในการประเมินที่สอดคล้องกัน”หลังจากได้ยินเสียงที่หนักเเน่นของ เย่เฉินเฟิง จิตวิญญาณเเท้จริง ก็พยักหน้า เล็กน้อย

 

“ฟุ่บ!”

 

เเสงสีเเดงอ่อน ๆ ได้ไหลเข้าไปในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เเละ ตรวจสอบอายุกระดูกของเขา

 

“อายุกระดูก 17 ปี”ประมาณสองลมหายใจต่อมา จิตวิญญาณเเท้จริง ก็กล่าวพูด”ไม่เลวเลย ด้วยอายุกระดูกกของเจ้า การทดสอบในด่านที่สามจะถูกตั้งค่าไว้ที่ระดับต่ำสุด วิญญาณดาบจะมีพลังเทียบเท่ากับ ผู้ใช้จิตอสูรระดับราชันย์ขั้นเเรก”

 

“เจ้าสามารถพักผ่อนเพื่อฟื้นคืนพลังให้กลับมาอยู่จุดสูงสุดอีกครั้งได้ หลังจากนั้นข้าจะส่งเจ้าไปยังพื้นที่เเรงโน้มถ่วง”

 

หลังจากนั้นผ่านไปประมาณชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป เย่เฉินเฟิง ก็สามารถคืนค่าจุดสูงสุดของสภาพของเขาได้ เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่พื้นที่เเรงโน้มถ่วงเเล้ว

 

“จำเอาไว้ว่า เเรงโน้มถ่วงในพื้นที่มิตินั้น จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน เจ้าไม่สามารถรีรอได้ เเละ จะต้องหาทางทำลายพื้นที่เเรงโน้มถ่วงเเละออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด”

 

จิตวิญญาณเเท้จริง ได้กล่าว เตือน เย่เฉินเฟิง

 

“ขอบคุณอาวุโสจิตวิญญาณเเท้จริงสำหรับคำชี้เเนะ”

 

เย่เฉินเฟิง พยักหน้า เขาเริ่มคิดที่จะหาวิธีทำลายพื้นที่เเรงโน้มถ่วงหลังจากถูกส่งเข้ามายังพื้นที่เเห่งนี้

 

“ด่านพื้นที่เเรงโน้มถ่วงเริ่มต้นได้”

 

เมื่อเห็นว่า เย่เฉินเฟิง พร้อมเเล้ว จิตวิญญาณเเท้จริง ก็ได้เปิดด่านพื้นที่เเรงโน้มถ่วง ทันใดนั้น คลื่นเเรงโน้มถ่วงจำนวนมากก็พุ่งเข้ามากดทับร่างของ เย่เฉินเฟิง

 

“ฝ่ามือทลายเมฆา”

 

ภายในวันเเรก พื้นที่ เเรงโน้มถ่วง ในพื้นที่เเห่งนี้ เย่เฉินเฟิง ยังสามารถทนได้อย่างสบาย ๆ เขาได้ปลดปล่อยพลังฝ่ามือทลายเมฆา ไปบนผนังของพื้นที่ เเรงโน้มถ่วง

 

อย่างไรก็ตาม พื้นที่เเรงโน้มถ่วง ที่รับฝ่ามือทลายเมฆา ของ เย่เฉินเฟิง เข้าไป มันเเทบจะไม่เป็นอะไรเลยเเม้เเต่น้อย

 

“ดูเหมือนว่า ความเเข็งเเกร่งของ ข้าในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายพื้นที่ เเรงโน้มถ่วง สำหรับตอนนี้ ข้าคงต้องตัดผ่านระดับขั้นพลังก่อนเเล้วค่อยหาทางใหม่ทีหลัง”

 

หลังจากใคร่ครวญดูเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ได้นำราชาโสมโลหิต 1,000 ปี ออกมา เเละกลืนมันโดยตรง จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการกลั่นโสมโลหิต เพื่อทะลวงขั้น 5 ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี

 

พลังวิญญาณของ ราชาโสมโลหิต นั้นได้หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เเละ ปรับเเต่งโลหิต รวมถึง พลังวิญญาณของเขา ให้เเข็งเเกร่งมากขึ้น

 

ในไม่ช้า พลังงานจำนวนมาก ก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างของ เย่เฉินเฟิง

 

ผ่านไปประมาณสองวัน เย่เฉินเฟิง สามารถดูดซับราชาโสมโลหิต ได้สมบูรณ์ เขาเหลือเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงระดับขั้นพลังกลายเป็น ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 5

 

หลังจากปรับเเต่งราชาโสมเสร็จเเล้ว เย่เฉินเฟิง ก็นำโอสถวิญญาณ ที่ได้มาจากถุงจักรวาลของ ศิษย์จากนิกายหุบเขาวายุคลั่ง ที่ถูกฆ่าตายมารวมกัน จากนั้น เขาก็กลืนพวกมันลงกระเพาะไปในทันที

 

ในไม่ช้า เส้นชีพจรของ เย่เฉินเฟิง ก็เกิดอาการบวมเเละเริ่มจะฉีกขาด

 

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง รู้ถึงผลที่ตามมาหลังจากฝืนใช้โอสถจำนวนมากเหล่านี้อยู่ก่อนเเล้ว ดังนั้น เขาจึงใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการกลั่นพลังของพวกมันโดยตรง

 

เมื่อเข้าสู่วันที่สาม เเรงโน้มถ่วง ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด เย่เฉินเฟิง ก็ะทะลวงเข้าสู่ ขั้นที่ 5 ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี