Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 93 ไล่ล่า

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 93 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ในเวลากลางคืน ขณะที่เเสงจากดวงจันทร์อันเย้นยะเยือกถูกสาดส่องลงมา ทั่วทั้งนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอกทั้งหมดกลายเป็นเงียบสงบ

 

ทันใดนั้นเงาที่คลุมเครือได้ปรากฏขึ้นภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนที่จะส่องประกายเเวววับเเละหายไป

 

“ซานเสียน เป็นอย่างที่เจ้าคาดเดาเอาไว้ เย่เฉินเฟิง กำลังออกจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าอย่างเงียบ ๆ “

 

ชายในชุดคลุมสีเเดงขนาดใหญ่ หมิงเต๋าสือซู่ได้กล่าวพูดกับชายที่อยู่ด้านหน้าของเขาก็คือ โหย่วซานเสียน

 

“ลุง หมิงเต๋า ข้าต้องการชีวิตของมัน”โหย่วซานเสียน เผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่รุนเเรงในสายตาของเขา

 

“ไม่ต้องกังวล ใครก็ตามที่มันกล้าทำให้เจ้าโกรธ มันย่อมไม่สมควรมีชีวิตอยู่ เเต่ว่า เฉียนตว๋อไป๋ ไม่น่าจะปล่อยให้เราลงมือต่อเขาง่าย ๆแบบนี้เเน่”

 

“เจ้าดำ ติดตามตำเเหน่งของ เย่เฉินเฟิง ข้าต้องการรู้ตำเเหน่งที่เเน่ชัดของเขา”หมิงเต๋า เเตะเบา ๆ จากนั้นนกสีดำก็ลอยออกไป

 

“ไปกันเถอะ เราจะไปรอข้างนอก ภูเขาเมฆาม่วง ทันทีที่เขาออกจากภูเขาเมฆาม่วง มันจะเป็นเวลาที่เขาถูกฆ่าตายในที่สุด”หมิงเต๋าสือซู่ ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับ โหย่วซานเสียน พวกเขาต้องการไปดักรอ เย่เฉินเฟิง นอกภูเขาเมฆาม่วง

 

 

“นกตัวนั้นมัน…”

 

เย่เฉินเฟิง ที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำเเละพยายามลอบหลบหนีออกจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า จู่ ๆ เขาก็เห็น นกสีดำ กำลังบินวน รอบ รัศมีเส้นทางของเขา

 

เย่เฉินเฟิง ที่ตระหนักได้ถึงการมีอยู่ของนกดำ ด้วยสัมผัสวิญญาณที่เฉียบเเหลมของเขาที่รวมเข้ากับสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ ทำให้สัมผัสการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา รุนเเรงมากกว่าปกติถึง 10 เท่า

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ยอมเเพ้ พวกเขาต้องการชีวิตของข้า”เย่เฉินเฟิง เผยเเววตาที่รุนเเรงออกมาจากนั้นก็กระซิบเบา ๆ “ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาพวกเจ้าไปยังที่สนุก”

 

“ฟุ่บ”

 

จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็หายตัวเข้าไปในป่าทึบอีกครั้ง เขาได้ใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการปรับลมหายใจของเขาเพื่อซ่อนตัว

 

“ฟ้าว…”

 

เมื่อนกดำ เห็น เย่เฉินเฟิง พุ่งเข้าไปในป่า มันก็พยายามบินเพื่อติดตามต่อไปทันที เเต่ทว่า เมื่อมันบินติดตามไปยังสระน้ำลึกที่อยู่ตรงเชิงเขน มันก็พบว่า เย่เฉินเฟิง ได้หายตัวไป

 

นกดำ ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายรัศมีพลังของ เย่เฉินเฟิง เเม้เเต่น้อย

 

ทันใดนั้นปราณดาบที่น่าตกใจก็โผล่ออกมาจากสระน้ำลึกมันได้ตัดเเยกนกสีดำนั่นกลายเป็นสองส่วนในพริบตา

 

“ฟวั่บ!’

 

ร่างของนกสีดำถูกเเบ่งเเยกออกเป็นสองส่วนด้วยปราณดาบของ เย่เฉินเฟิง จากนั้นมันก็กลายเป็นหมอกเลือดเเละหายไปในที่สุด

 

“เซียวเหอ ตายเเล้ว”

 

ทันทีที่นกวิญญาณสีดำของ ตัวเองตกตาย หมิงเต๋าสือซู่ สามารถรับรู้ได้ในทันที

 

“เย่เฉินเฟิง อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ รีบไปกันเถอะ”

 

หมิงเต๋าสือซู่ คว้าเเขนของ โหย่วซานเสียน เเละ พุ่งหายเป็นเงาไปยังตำเเหน่งที่ นกวิญญาณสีดำของเขาตกตายด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

 

ประมาณหนึ่งนาที ต่อมา หมิงเต๋าสือซู่ ได้ปรากฏตัวที่ริมสระน้ำ ในเวลานี้ เขาพบว่า ภายในบริเวณโดยรอบไม่มีกลิ่นอายพลังของ เย่เฉินเฟิง เเม้เเต่น้อย ยกเว้นกลิ่นคาบโลหิตเเละร่องรอยพลังจาง ๆ ของปราณดาบที่เพิ่งหายไปได้ไม่นาน

 

“มันหายไปเเล้ว?”หมิงเต๋าสือซู่ ได้ปล่อยพลังวิญญาณออกไปสำรวจพื้นที่โดยรอบเเต่ก็ไม่พบ เย่เฉินเฟิง ดวงตาของเขาเผยเเววเเห่งความโกรธออกมา

 

เกี่ยวกับความสามารถของ นกวิญญาณสีดำ หมิงเต๋า ไม่เคยกังวล เเต่ตอนนี้ นกวิญญาณสีดำ ของเขากลับถูกระบุตัวเเละถูกสังหารได้เรื่องนี้ทำให้ เเทบจะระเบิดความโกรธออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

“สารเลวน้อยนั่นมันค้นพบว่า นกวิญญาณสีดำ ติดตามมันได้อย่างไร?”โหย่วซานเสียน กล่าวออกมา

 

เพราะเเม้เเต่ โหย่วซานเสียน ก็ไม่สามารถสัมผัสการดำรงอยู่ของ นกวิญญาณสีดำได้

 

“ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเลยที่จะติดตามเขาโดยไร้การสะกดรอยของนกวิญญาณสีดำ”หมิงเต๋าสือซู่ กล่าวอย่างมืดมน

 

“ลุงหมิงเต๋า เราจะต้องหาทางฆ่าสารเลวน้อยนั่นให้ได้ ไม่อย่างนั้นถ้ามันเติบโตขึ้น มันจะนำปัญหามาให้เราอย่างไม่รู้จบ”

 

โหย่วซานเสียน เผยเเววตาต้องการจะฆ่า เย่เฉินเฟิงออกมา

 

“ไปกันเถอะ เราจะไปดักรอมันที่ เชิงเขาเมฆาม่วง บางทีเราอาจสามารถหยุดเขาได้”หมิงเต๋า กล่าวพูดขึ้นเเละหายตัวไปในที่สุด

 

หลังจาก หมิงเต๋า เเละ โหย่วซานเสียน จากไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในสระน้ำลึกได้ปรากฏฟองอากาศจำนวนมาก เย่เฉินเฟิง ได้ซ่อนตัวอยู่ภายในสระน้ำลึก

 

เขาได้ปล่อยให้ เวลาผ่านไปทุกนาทีจนในที่สุด เเสงเเดดอ่อน ๆ ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นเวลารุ่งสาง

 

หมิงเต๋า ที่ซุ่ม อยู่ที่เชิงเขาเมฆาม่วง พวกเขาไม่พบร่องรอยของ เย่เฉินเฟิง เลย ทำให้พวกเขารู้ว่า เเผนการลอบสังหาร เย่เฉินเฟิง นั้นล้มเหลว

 

“ลุงหมิงเต๋า พวกเราต้องเเจ้งให้คนอื่นเข้าร่วมกับพวกเราเเละขยายขอบเขตการไล่ล่า เย่เฉินเฟิง”โหย่วซานเสียน กล่าวพูดอย่างไม่เต็มใจ

 

“ซานเสียน ตอนนี้พวกเรามีหน้าที่ในการสืบร่องรอยของปีศาจอมตะผ่าสวรรค์ พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้อย่างโจ๋งครึ๋ม ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเฉียนตว๋อไป๋ นำเรื่องนี้ไปฟ้องต่อจ้าวนิกายเพลิงผลาญฟ้า พวกเราจะกลายเป็นฝ่ายผิดทันที”หมิงเต๋าสือซู่ กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

 

“เช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไร จะปล่อยให้สารเลวน้อยนั่นหลบหนีไปได้?”โหย่วซานเสียน กล่าวพูดอย่างไม่เต็มใจ

 

“ซานเสียน ข้าจำได้ว่า รอบ ๆ อาณาจักรซือจินนั้น เป็นอาณาเขตของตระกูลเสิ่นถู๋”หมิงเต๋าสือซู่ กล่าวตอบ

 

“ลุงหมิงเต๋า ท่านจะบอกว่าเราจะให้ ตระกูลเสิ่นถู๋ ช่วยเหลือในการสกัดกั้น เย่เฉินเฟิน?”โหย่วซานเสียน กล่าวพูดออกมา

 

“ใช่,พวกเราไม่สามารถฆ่าเขาอย่างโจ๋งครึ๋ม ได้ เเต่ถ้าเป็นตระกูล เสิ่นถู๋ ล่ะก็อีกเรื่อง เเม้ว่าตอนนี้พวกเราจะไม่รู้ว่าเขาได้หลบหนีไปอยู่ที่ไหนตอนนี้ เเต่ก็มีเเนวโน้มว่าจะไปได้ยังไม่ไกล ดังนั้นเราควรรีบติดต่อตระกูลเสิ่นถู๋ให้สืบเสาะร่องรอยของเขา”หมิงเต๋า พยักหน้าตอบ

 

“ได้,ข้าจะติดต่อ เสิ่นถู๋หลิน เเละ บอกให้เขาเเจ้งต่อตระกูล เสิ่นถู๋ ให้ช่วยพวกเราไล่ล่า เย่เฉินเฟิง”

 

หลังจากกล่าวเสร็จ โหย่วซานเสียน ก็หยิบลูกปัดสื่อสารของเขาออกมาเเละติดต่อกับ เสิ่นถู๋หลิน

 

 

เมืองสันเขาเหนือ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในชายเเดนตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรซือจิน เเต่เนื่องจากสถานที่เเห่งนี้เป็นสถานที่พิเศษ เมืองสันเขาเหนือ จึงไม่ได้เป็นของอาณาจักรซือจิน เเต่เป็นของตระกู, เสิ่นถู๋

 

ในทุกวันธรรมดา ประตูเมืองสันเขาเหนือ จะเปิดต้อนรับผู้คนเเละไหลเวียนผ่านไปจำนวนมาก ทำให้ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของเมืองเจริญรุ่งเรืองมาก

 

เเต่ตอนนี้ ประตูเมืองสันเขาเหนือ ได้ถูกป้องกันอย่างเข้มงวด เเละทุกคนที่เข้าผ่านได้รับการตรวจสอบโดยทหารยามทุกคน

 

“ท่านเเม่เกิดอะไรขึ้นทำไม เมืองสันเขาเหนือ ถึงมีการป้องกันเข้มงวดขนาดนี้?”

 

สองเเม่ลูกคู่นึงที่เดินผ่านเข้าเมืองสันเขาเหนือ เป็นประจำ เมื่อสังเกตุได้ถึงความผิดปกติ ลูกชายของเขาจึงกล่าวถามผู้เป็นเเม่

 

“เเม่ได้ยินมาว่า ตระกูลเสิ่นถู๋ กำลังเฝ้าระวังพวกลักลอบเข้าเมืองมาอยู่”เเม่ของเด็กคนนั้นได้ตอบกลับ

 

“ลักลอบเข้าเมือง?ใครกันที่มันกล้าทำให้ตระกูลเสิ่นถู๋ต้องออกนอกหน้าเช่นนี้?”

 

“เเม่เองก็ไม่รู้ เเต่ที่รู้พวกเราจะต้องรีบไปส่งมอบของให้ทันโดยเร็วไม่งั้นล่ะก็เป็นเรื่องเเน่”

 

“อืม”

 

เเม่ลูกคู่นึงที่ทำธุรกิจค้าขายได้พูดคุยกัน ในขณะนั้นเอง ชายร่างผอมคนนึงได้เดินอยู่ใกล้ ๆ ตำเเหน่งของเขาเเละยิ้มออกมาอย่างเเปลก ๆ

 

ชายร่างผอมคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เย่เฉินเฟิง ที่ทำการปลอมตัว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด