Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 29 ช่วงเวลาเเห่งชีวิตเเละความตาย
“ฉิงเสวี่ย เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”
ไป๋ซือหยา ที่รออยู่ข้างนอกได้รีบกล่าวถาม จี้ฉิงเสวี่ย เมื่อเห็นเธอเดินออกมาด้วยความโกรธ
“ไม่มีอะไรไปกันเถอะ”
จี้ฉิงเสวี่ยสั่นศีรษะของเธอ เเละ จับมือ ไป๋ซือหยา จากไปอย่างไม่ลังเล ใบหน้าของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หลังจากที่คนทั้งหมดจากไป เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไร เขาได้กำจัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ออกไปทั้งหมดเเละเริ่มทำการฝึกฝน โดยใช้ทักษะกลืนวิญญาณ เพื่อดูดซับผลึกวิญญาณระดับต่ำอีกครั้ง
เมื่อเเสงอาทิตย์พลันตกลง เเสงสลัวยามค่ำคืนก็ได้ปรากฏขึ้นปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิขาว
“นายน้อยเจียง ที่นี่คือลานที่อยู่อาศัยของ เย่เฉินเฟิง ตามข่าวที่เราได้รับมา ตอนนี้มันคงอยู่ในบ้านของมัน”
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดคลุมสียาวเทา ได้ชี้ดาบไม้ไผ่บาง ๆ ของตนเองไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ ที่ เย่เฉินเฟิงอาศัยอยู่เเละพูดด้วยความรุนเเรง
“บัดซบ,นังตัวดี จี้ฉิงเสวี่ย มันกล้าอาศัยอยู่ที่นี่กับขยะ เย่เฉินเฟิง มากกว่าที่จะเห็นด้วยกับการเเต่งงานกับข้า”
เเสงไฟสลัวได้ปรากฏสาดส่องลานบ้านของ เย่เฉินเฟิง ทำให้ เจียงชานซุ่ย เห็นลักษณะที่กันดารของที่นี่ จนบันดาลโทสะด้วยความโกรธ
“ไปลากไอ้เจ้า เย่เฉินเฟิงออกมา”ใบหน้าของ เจียงชานซุ่ย เผยให้เห็นถึงความร้ายกาจขณะที่เขากล่าวสั่งลูกน้องของเขา
“เจียงชานซุ่ย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ ? หรือว่าจะมาเพื่อเเก้เเค้นข้า?”เย่เฉินเฟิงได้เดินออกมาที่หน้าบ้านของตนเอง ทันทีที่พบ เจียงชานซุ่ย เขาก็กล่าวทักทายอย่างไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย
“มารดามันเถอะ ! เย่เฉินเฟิง เจ้ายังกล้าทำตัวโอหัง ทั้งที่รู้ว่าตนเองจะตายหรือไม่?เจ้าคิดว่าตนเองเป็นอัจฉริยะของตระกูล เย่ เเละ จะได้รับความคุ้มครองจากตระกูล เย่ หรืออย่างไร?”
เจียงชานซุ่ย กล่าวออกมาอย่างไม่ปกปิดความเเค้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงดัง”พวกเจ้าสองคนไปหักขามันเเละให้มันมานั่งคุกเข่าที่เบื้องหน้าข้า”
“ขอรับ,นายน้อยเจียง”
ชายวัยกลางคนสองคนที่สวมเสื้อคลุมยาวสีดำ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 พวกเขาเดินไปที่เบื้องหน้าของ เย่เฉินเฟิง ทีละก้าวด้วยเเรงกดดันที่รุนเเรง
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะพุ่งเข้าโจมตีใส่ เย่เฉินเฟิง ,เย่เฉินเฟิง ก็เดินเข้าหาพวกเขา
จู่ ๆ เเรงกดดันทางพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งก็ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกหายใจไม่ออก เเรงกดดันที่ว่านี้ได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่เฉินเฟิง มันเหมือนกับจิตคุกคามที่เเข็งเเกร่ง ซึ่งทำให้ร่างกายของพวกเขา รู้สึกสั่นสะท้านจนเเทบจะหายใจไม่ออก
วินาทีต่อมา เย่เฉินเฟิง ก็พุ่งตัวไปข้างหน้า เขาได้ซัดพลังหมดที่รุนเเรงของตนเอง เเละชกออกไปที่หน้าอกของผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6
“นี่ไม่ดีเเล้ว!”
รับรู้ได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวจากพลังหมัดของ เย่เฉินเฟิง การเเสดงออกของสองผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 ได้เปลี่ยนไป พวกเขาได้เรียกพลังวิญญาณออกมาเเละเรียกจิตอสูรเพื่อออกมาปกป้องตนเอง
ปั้ง ปั้ง เสียงดังกระทบสองครั้ง ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังหมัดทั้งสองที่หนักหน่วงได้ต่อยกระทบเข้าใส่ทรวงอกของพวกเขาทั้งสองคน พละกำลังกำปั้นที่มากกว่า 5,000 จิน ได้ทำให้จิตอสูรที่รวมหลวมกับร่างกายของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมหาศษล จากนั้นร่างของคนทั้งสองคนก็ปลิวกระเด็นไปไกลก่อนที่จะตกลงมากระเเทกจนหมดสติ
“อะไร?”
เจียงชานซุ่ย รู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เขาเห็น ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ตาฝาด
“มันมีพละกำลังความเเข็งเเกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?”
จากมุมมองของ เจียงชานซุ่ย มันเป็นเรื่องง่ายมาก ที่จะจับ เย่เฉินเฟิง เเละ ทรมาณ ให้เขาตาย เเต่ความจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังตกอยู่ในห้วงความฝัน
“เขาปกปิดความเเข็งเเกร่งได้อย่างเเนบเนียนมาก ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจหลอกล่อพวกเราเข้ามา!”
ดวงตาของชายวัยกลางคนที่ถือดาบไม้ไผ่ได้เบิกกว้างขึ้น เขาได้พุ่งไปยืนด้านหน้าของ เจียงชานซุ่ย เเละ กล่าวด้วยเสียงเเหบห้าว
“ปรมาจารย์หวู่ ไปจัดการมันเเละทำให้มันพิการ”
เจียงชานซุ่ย รู้ดีว่า ปรมาจารย์หวู่ เเข็งเเกร่งเพียงใด เพราะ ปรมาจารย์หวู่ เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 2
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”
ปรมาจารย์หวู่ พยักหน้า จากนั้นพลังวิญญาณของเขาก็พวยพุ่งออกมาจากสมอง อสรพิษตัวใหญ่สีดำที่เต็มไปด้วยเกล็ดก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา
“เย่เฉินเฟิง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าบังเอิญไปพบอะไรเข้า เเต่ไม่ว่ายังไงวันนี้่เจ้าจะต้องตายอย่างเเน่นอน เมื่อข้าจับเจ้าได้ ข้าจะใช้มีดเเล่เนื้อเจ้าออกมา ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยความทรมาณอย่างเจ็บปวดที่สุด”เจียงชานซุ่ย ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ ตะโกนขึ้นอย่างดุเดือด
“หยุดมือซะ”
ขณะที่ปรมาจารย์หวู่ เตรียมจะเคลื่อนไหวหลังจากที่ผสานเข้ากับจิตอสูรของตนเอง จู่ ๆ เสียงคำรามเเห่งความโกรธก็ดังขึ้นเหนือท้องฟ้านามราตรี มันเป็นเสียงของ ไป๋ซือหยา เธอได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลไป๋
“โห้ว,ไม่คิดเลยว่าที่เมืองจักรพรรดิขาวเเห่งนี้จะมีสาวงามเฉกเช่นเทพธิดาอยู่”เจียงชานซุ่ย จ้องมองไปที่ ไป๋ซือหยา ที่สวมใส่ชุดยาว รูปร่างของเธอเต็มไปด้วยความเย้ายวน ทำให้ดวงตาของ เจียงชานซุ่ย เบิกกว้างทันที
“ไป๋ซือหยา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
เย่เฉินเฟิงไม่คิดเลยว่า ไป๋ซือหยา จะเข้ามาขัดขวางเเผนการของเขา เเม้ว่าเขาจะไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่าย เเต่ถ้าเขาตั้งใจจะหนี ด้วยพละกำลังทางกายของเขา เขาย่อมสามารถหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย
เเต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้เเล้ว หากเขาหลบหนี ไป๋ซือหยา จะต้องถูกจับไปโดย เจียงชานซุ่ย เเละชีวิตของเธอก็จะถูกทำลายโดยเงื้อมมือมารของ เจียงชานซุ่ย
“เฉินเฟิง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”ไป๋ซือหยา ได้รีบไปปรากฏตัวที่ด้านข้างของ เย่เฉินเฟิง เเละ กล่าวถามอย่างกังวล
“ข้าสบายดี,ที่นี่อันตรายเกินไป มันจะดีที่สุดหากเจ้ารีบไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด”เย่เฉินเฟิง กล่าวเเนะนำ
“ไม่,พวกเราจะต้องหลบหนีไปด้วยกัน”ไป๋ซือหยา จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ กล่าวพูดอย่างดื้อรั้น
“เย่เฉินเฟิง ข้าไม่คิดเลยว่าขยะเช่นเจ้าจะมีควาสัมพันธ์กับสตรีที่งดงามเช่นนี้ ข้ารู้สึกอิจฉาเจ้ามากจริง ๆ “เจียงชานซุ่ย จ้องมองไปที่ ไป๋ซือหยา พร้อมกับดวงตาที่หื่นกระหาย ราวกับว่า ตอนนี้เธอเป็นเหยื่อของเขา เเละ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไป”ในเมื่อเข้ามาเเล้วก็อย่าได้คิดว่าจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้”
“คุณหนู,ท่านรีบมาหลบอยู่ข้างหลังข้าเร็ว”
ผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลไป๋ รับรู้ได้ถึงความอันตรายจาก ปรมาจารย์หวู่ รวมถึง ชายชุดคลุมน้ำเงินที่ยืนอยู่ข้างกายของ เจียงชานซุย เขาถือหอกยาวไว้ในมือขณะที่กำลังจะทำการเผชิญหน้ากับพวกเขา
เผชิญหน้ากับ ผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลไป๋ หลังจากเสร็จสิ้นคำพูด ปรมาจารย์หวู่ เเละ ชายเสื้อคลุมน้ำเงินที่อยู่ข้างกาย เจียงชานซุ่ย ก็ได้โจมตีในเวลาเดียวกัน
“ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 2?”
สัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของทั้งสองคน เย่เฉินเฟิง เองก็รับรู้ได้ถึงเเรงกดดันมหาศษล ด้วยความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของเขา เขาสามารถที่จะต่อกรกับผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 1 ได้ เเต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นคู่มือของผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 2
เย่เฉินเฟิง ไม่มีเวลาให้หลบนี เขาได้ดีดตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เเละ พุ่งเข้าหา ชายเสื้อคลุมสีน้ำเงินนั่น
“อวู๊ฟ!”
ชายในชุดคลุมน้ำเงินได้เรียกจิตอสูรเเรดขาวของเขาออกมาเพื่อเพิ่มความเเข็งเเกร่งจากนั้นเขาก็ผสานร่างเข้ากับจิตอสูรของตนเอง
เผชิญหน้ากับ เย่เฉินเฟิง ชายในชุดคลุมสีเงิน ได้ออกหมัดเข้าปะทะกับกำปั้นของ เย่เฉินเฟิง การโจมตีของทั้งสองคนได้เข้าปะทะกันเเละระเบิดคลื่นพลังเเยกออก
เผชิญหน้ากับการโจมตีของ ชายชุดคลุมน้ำเงิน ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง สั่นไหวเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะหลบหนี เเละ เช็ดเลือดที่มุมปากของเขา
เพียงเเค่หมัดเดียวก็ทำให้ เย่เฉินเฟิง ได้รับบาดเจ็บ ,ชายในชุดคลุมน้ำเงินเองก็ยับยั้งพลังฉีเเละเลือดในร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็ไล่ตาม เย่เฉินเฟิงไป
ในตอนนี้ เขาต้องการจัดการอีกฝ่ายเเละจบการต่อสู้ในครั้งเดียว
นี่เป็นช่วงเวลาเเห่งชีวิตเเละความตายของ เย่เฉินเฟิง
คอมเม้นต์