ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 2 ชดใช้

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 2 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ไป๋เวยคิดว่าผมรังเกียจว่าเงินน้อย สีหน้าเธอจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น แล้วหยิบบัตรธนาคารขึ้นมาอีกหนึ่งใบ”ในบัตรใบนี้มีเงินสี่ล้าน ทั้งหมดรวมกันห้าล้าน ขอบคุณที่ช่วยฉันวันนั้นค่ะ”

ผมควบคุมความโกรธของผมไม่ได้อีกต่อไป”อย่าพูดเรื่องเงินกับกูนะ มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม กูต้องติดคุกฟรีๆมาสามปี มึงคิดจะชดใช้ยังไง!”

“คุณอย่าใส่ร้ายคนอื่นนะ ฉันไปทำให้คุณติดคุกเมื่อไร?”เห็นได้ชัดว่าไป๋เวยรู้สึกโกรธมาก ในขณะเดียวกันก็ตกใจกับคำพูดของผม

“เหอะๆ ประธานไป๋แน่นอนว่าคุณจำไม่ได้”ผมยิ้มอย่างโกรธจัด

“หลังจากที่ผมชกไอ้อ้วนนั้นจนบาดเจ็บ คุณไม่ยอมออกมาเป็นพยานให้กับผม จนทำให้ผมต้องติดคุกถึงสามปี!”

สีหน้าของไป๋เวยนิ่งไป ปากของเธอพูดพึมพำ”เป็นไปไม่ได้ ฉันให้คนที่บ้านตามหาคุณ พวกเขาบอกว่าคุณรับเงินแล้วจากไปทันที……”

คำพูดของไป๋เวยทำให้ผมปรี๊ดแตก”เงินๆๆ คุณเติบโตจากรอบแยกของเงินรึไง?”

ผมใช้แรงฉีกเสื้อออก เผยให้เห็นมัดกล้ามที่ผมใช้เวลาฝึกฝนในคุก

“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ไป๋เวยตกใจมาก ก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว

ผมค่อยๆก้าวเข้าไปหาเธอ ชี้ไปที่บาดแผลที่อยู่บนหน้าอกหลายแผล แล้วพูดทีละคำ

“เห็นรึยัง บาดแผลพวกนี้เป็นแผลในตอนที่ผมเข้าคุก ขาใหญ่ในคุกใช้ก้นบุหรี่จี้ที่บนตัวของผม!”

ไป๋เวยยืนมองหน้าอกของผมอย่างตกตะลึง รวมถึงบาดแผลตามร่างกายที่มีนับไม่ถ้วน บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความชื่นชม

ต่อมา ไป๋เวยก็เดินไปข้างๆ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โทรไปหาคนที่บ้านของเธอเพื่อยืนยันเรื่องที่ผมติดคุก ผ่านการทะเลาะกันไปมาโต้ตอบการอย่างดุเดือด เห็นได้ชัดว่าเธอดูโกรธมากๆ

พอวางสายแล้ว ไป๋เวยลังเลเล็กน้อย สุดท้ายจึงเงยหน้าขึ้นมา กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า”ขอโทษนะคะ ตอนนั้นครอบครัวของฉันโกหกฉันว่าคุณไม่เป็นอะไร คิดไม่ถึงว่าจะทำให้คุณติดคุก……”

พูดจบ เธอก้มเอวเรียวบางให้กับผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ

“ฉันยินดีชดเชยความสูญเสียทั้งหมด ยังมีร่างกาย……สภาพจิตใจ ฉันยอมชดใช้ให้คุณทั้งหมด!”

“ชดใช้ จะชดใช้ยังไง?”ผมหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

คราวนี้ไป๋เวยไม่ได้พูดเรื่องเงินโดยตรง”คุณพูดได้เลย ตราบใดที่ฉันทำให้ได้ ฉันจะทำทั้งหมด”

ผมไม่ได้พูดอะไร แต่หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วเดินเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ ใช้สองมือดันกำแพงไว้แล้วบังคับให้เธออยู่ตรงกลาง มองดูใบหน้าอันสวยงามในระยะใกล้ที่สวยมากเกินไปหน่อย

“คะ คุณอยากทำอะไร คุณอย่าทำอะไรนะ……”

ไป๋เวยหายใจอย่างประหม่า ลมหายใจหอมหวนที่เป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวรินรดอยู่บนใบหน้าของผม

ไม่อาจปฏิเสธได้ ไป๋เวยเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุด ใบบรรดาผู้หญิงที่ผมเคยเจอมาเลย แถมรูปร่างยังเร่าร้อนอีกด้วย

วินาทีนี้ จู่ๆผมก็รู้สึกอยากจะแก้แค้น อยากระบายอารมณ์อย่างบ้าคลั่งกับร่างกายที่เกือบสมบูรณ์แบบของเธอ ภายใต้ความเจ็บปวดขุ่นเคืองและดวงตาพร่ามัว ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่สะสมมาตลอดระยะเวลาสามปี

“คุณบอกว่าตราบใดที่คุณทำได้ คุณจะทำให้หมดงั้นเหรอ?”ผมหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

ไป๋เวยตะลึงงัน แล้วพยักหน้าอย่างรู้สึกตัว

“งั้นก็ดี คุณไปเกาะอยู่บนกำแพงครึ่งชั่วโมง เรื่องนี้จะถือว่าเจ๊ากันไป!”

“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ไป๋เวยตะลึงงัน จู่ๆใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อ

“ประธานไป๋ทั้งๆที่คุณรู้ดีอยู่แล้วยังจะถามอีก”ผมหัวเราะหึๆ

“แน่นอนว่ามันเป็นกีฬาชนิดนึงที่ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่จะเล่นกับคุณ เชื่อผมเถอะ คุณจะต้องชอบกีฬาชนิดนี้”

สีหน้าของไป๋เวยแดงสลับขาว ดวงตาเฉียบคมจนแทบจะฆ่าคนได้ ด้วยความดูถูกและเย็นชาที่ผมรังเกียจ

“ฝันไปเถอะ!”

ผมหัวเราะ”ประธานไป๋บอกเองไม่ใช่เหรอว่าทำอะไรก็ได้ ผมไม่เอาเงิน งั้นผมคงต้องขอให้คุณเกาะกำแพงเฉยๆสักครึ่งชั่วโมงแล้วล่ะ”

ไป๋เวยจึงทำเสียงหึอย่างเย็นชา ทันใดนั้นผมจึงใช้เข่ากดเข้าระหว่างขาของเธอ ไป๋เวยตกใจจนตัวสั่น เธอกำลังจะอ้าปากเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ

ในวินาทีนี้เอง ผมก้มหน้าลงไปประกบริมฝีปากของไป๋เวย ภายใต้สายตาที่แทบจะฆ่าคนได้ของเธอ คว้านหาความหวานและกลิ่นหอมของผู้หญิงคนนี้ด้วยความโลภ

หลังจากที่จูบลงไปแล้วผมก็ปล่อยมือจากกำแพง แล้วก้าวถอยหลัง ติดกระดุมเสื้อ ทรวงอกของไป๋เวยกระเพื่อมขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง ราวกับคนที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติ

“ในเมื่อประธานไป๋ไม่อยากเกาะกำแพง ผมก็ต้องเก็บดอกเบี้ยก่อนสิ จูบปากหน่อยเป็นไง”

“คุณ……”ไป๋เวยโกรธมาก ใบหน้าของเธอแดงก่ำเหมือนกับผ้าที่ถูกย้อม

“ไสหัวออกไปซะ!”เธอชี้ไปที่ประตูทันที เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่ต้องสงสัย

“คุณถูกไล่ออกแล้ว คนอันธพาลอย่างคุณไม่คู่ควรกับบริษัทของเรา”

ผมยิ้มอย่างเรียบเฉย”ประธานไป๋คะ บัญชีระหว่างผมกับคุณยังไม่จบนะ ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ผมออก”

ก่อนที่จะไป ผมยังหัวเราะอย่างเย้ยหยัน”ประธานไป๋ทักษะการจูบของคุณไม่ไหวเอาซะเลย จูบจนผมเจ็บปาก!”

ด้านหลังมีเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธของไป๋เวยดังลอดออกมา ผมดึงประตูห้องทำงานเปิดออกแล้วก้าวเท้ายาวเดินออกไป

ผมเดินไปที่บันได แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ สูบไปด้วย พร้อมกับคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ทางไป๋เวยถือว่าผมล่วงเกินสุดๆแล้ว แต่ผมไม่สนใจ ผู้หญิงคนนี้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง ทำให้ผมต้องติดคุกฟรีๆสามปี ผมไม่ได้บังคับขืนใจเธอก็ถือว่าดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว

สามารถเดาได้เลยว่า หลังจากนี้ไป๋เวยจะต้องเปลี่ยนวิธีหาเรื่องผมอย่างแน่นอน ภายใต้ฝุ่นควันล้อมรอบ จู่ๆผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าหากตอนนี้เรียกข้อเสนอเยอะกับเธอ ผมอาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

แต่การใช้ชีวิตอย่างบัดซบในคุกตลอดสามปีที่ผ่านมา ทำให้ผมไม่อยากปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปง่ายๆ

ผมหัวเราะเยาะตัวเอง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ผมกลายเป็นคนแบบที่ผมเกลียดที่สุด

ทันใดนั้นหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็สว่างขึ้นมา มีข้อความหนึ่งปรากฏขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นข้อความที่แฟนเก่าส่งมา

ฟางหยาง ฉันฝากเงินในบัญชีให้นายห้าหมื่น นายเอาไว้ดูแลตัวเองดีๆนะ ฉันจะแต่งงานแล้ว

มือถือร่วงลงจากมือ ผมใช้มือกุมหน้าแล้วซุกเข้าไประหว่างเข่า……

ผ่านไปนานมาก ผมสบถด่าความรักเหี้ยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเข้าไปในห้องทำงานของไป๋เวย

ผมตัดสินใจไม่ไปไหน จะอยู่ที่นี่เพื่อทำให้ผู้หญิงคนนี้เกลียด!

ผมเดินมาที่หน้าห้องทำงานของไป๋เวย สงบจิตสงบใจแล้วเคาะประตู หลังจากที่ได้ยินเสียงลอดมาจากด้านใน”เชิญค่ะ” ผมก็เปิดประตูเข้าไป

ไป๋เวยนั่งอยู่ที่โซฟากำลังพักผ่อน พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือผม ใบหน้าสะสวยก็เย็นชาขึ้นมาในทันที”คุณยังจะเข้ามาทำอะไรอีก?”

ผมพยายามควบคุมอารมณ์ แล้วพูดอย่างเรียบเฉย”ประธานไป๋ ผมมารายงานกับคุณ ตั้งแต่วันนี้ไป ผมก็คือผู้ช่วยของคุณ”

ไป๋เวยขมวดคิ้ว”ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าคุณถูกไล่ออกแล้ว”

“ขออภัยด้วยครับ ผมพึ่งเซ็นสัญญาจ้างงานไป หากไม่ได้ทำผิดวินัยร้ายแรง ไม่ได้ทำให้บริษัทสูญเสียผลประโยชน์ คุณไม่สามารถเลิกจ้างผมได้ตามอำเภอใจได้”

“ฉันจะให้แผนกฝ่ายบุคคลทำสัญญาเลิกจ้างคุณฝ่ายเดียว และให้ค่าตอบแทนตามที่ตกลงกับคุณ คุณไปเถอะ”

“ถ้าประธานไป๋จะพูดเด็ดขาดขนาดนี้ งั้นก็ได้ครับ ผมจะไปหาคณะกรรมการ หรือหานักข่าว ไปบอกพวกเขา ว่าสามปีก่อนคุณให้ผมต้องติดคุก มาวันนี้ยังจะจงใจไล่ผมออกอีก”

“คุณ……”ไป๋เวยโกรธจนลุกขึ้นยืนจากโซฟา

ผมยังคงเรียบเฉย”หรือที่ผมพูดมันไม่ใช่ความจริง?”

ไป๋เวยหมดคำพูด เอาแต่จ้องมองมาที่ผมอย่างเย็นชา

ผ่านไปนานมาก ในที่สุดเธอก็ค่อยๆเอ่ยปากพูดว่า”ตกลงคุณอยากทำอะไรกันแน่”

“ผมแค่อยากตั้งใจทำงานหาเงินเท่านั้น”ผมพูดอย่างเรียบเฉย

“ฉันสามารถให้เงินคุณได้ ซึ่งมากพอที่จะชดเชยการสูญเสียตลอดระยะเวลาสามปีของคุณ แต่คุณต้องออกไป”น้ำเสียงของไป๋เวยก็สงบลงเช่นกัน

ครั้งนี้ผมไม่ได้โกรธ กลับกันผมยังหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า”ก็ได้ ถ้าประธานไป๋ให้เงินผมหนึ่งหมื่นล้าน ผมรับรองจะหายตัวไปทันที!”

“หนึ่งหมื่นล้าน คุณเห็นค่าตัวเองสูงมากไปแล้ว!”ไป๋เวยมองผมอย่างเย้ยหยัน

“อะไรนะ ประธานไป๋ไม่มีค่าแม้แต่เงินหนึ่งหมื่นล้านงั้นเหรอ?”ผมตอกกลับ”ผมกล้าพูดได้เลยว่า ถ้าคุณประเมินครั้งแรกของตัวเอง ต้องมีคนยอมควักเงินให้คุณแน่ๆ”

“คุณต้องการอะไรกันแน่?”ไป๋เวยถูกผมทำให้โกรธสำเร็จ แม้แต่ลมหายใจยังแรงขึ้น

“ไม่งั้น คุณนอนกับผมสักคืนก็พอแล้วล่ะ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด