ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 14 ภาพลวงตา

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 14 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“เหอะๆ”ผมหัวเราะเบาๆอีกครั้งและถาม”ประธานเฉา คุณได้เงินเดือนต่อปีเท่าไหร่?”

“สองล้านหยวน”เฉาเหวินหวยตอบโดยไม่ต้องคิด

“อืม งั้นก็สองล้านหยวนเลย ถ้าประธานเฉายอมให้เงินเดือนต่อปีกับผมสองล้านหยวน ผมจะเซ็นสัญญาจ้างงานทันที อีกอย่างเงินเดือนรายปีที่ผมได้ต้องไม่ต่ำกว่านี้”

เฉาเหวินหวยอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว”เป็นไปไม่ได้ คำขอของคุณมันมาก……”

ผมกางมือทั้งสองข้างออกมา”ถ้างั้นพวกเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก”

เฉาเหวินหวยจ้องมาที่ผม ผ่านไปชั่วครู่เขาก็กัดฟันและพูด”คุณแกล้งผมอยู่ใช่ไหม?”

“เหอะๆ”ผมส่ายหัว”ทั้งๆที่ประธานเฉาเป็นคนพูดเองว่าให้ผมได้ทุกอย่างตามที่ผมต้องการ ตอนนี้เราตกลงกันไม่ได้ ก็มาพูดว่าผมแกล้งคุณ โอเค คุณจะพูดยังไงก็ได้”

เมื่อพูดถึงตอนนี้ ผมเทเบียร์หนึ่งแก้วแล้วดื่มจนหมด แล้วขยับแก้วเปล่าต่อหน้าหลินโล่สุ่ย”คุณหลิน คุณเป็นคนชวนผมมาที่นี่ ค่าเบียร์คุณช่วยจ่ายให้ผมด้วย ขอบคุณ”

ผมวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วยืนขึ้น จากนั้นก็เดินจากไป

“คุณเคยคิดไหมว่าถ้าล่วงเกินผิดใจกับผมแล้วจะมีผลอะไรตามมา?”เสียงของเฉาเหวินหวยดังมาจากข้างหลัง

“เฮ้อ”ผมอดไม่ได้ที่จะหันหน้ากลับไป และกวักมือเรียกเขา”คุณเจ๋งมากใช่ไหม มาต่อยผมสิ มาสิ”

“ได้!”เขากำหมัดสองมือไว้แน่น แต่ไม่ได้ลุกขึ้น

“ฮึ”

ผมยิ้มอย่างเย็นชา หันหลังและเดินออกจากร้านกาแฟไป

ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งม้วน ขณะที่ผมกำลังจะจุดไฟ พึ่งนึกได้ว่าในประเทศไทยห้ามสูบบุหรี่ในที่ที่มีคนพลุกพล่าน……

ผมไม่มีทางเลือกนอกจากเดินไปโรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และสูบบุหรี่ในมุมตึกที่ไม่มีคน

คนอย่างเฉาเหวินหวย ถ้าอยู่ในคุกผมคงต่อยวันละหลายๆคน เขาคิดว่าตัวเองเจ๋งมากเหรอ

ถ้าเขาอยากจะแก้แค้นผม นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการพอดี สำหรับโปรเจ็กต์ของBTT ผมไม่ได้ตั้งใจมุ่งเป้าเพื่อแข่งกับบริษัทของเขา และการแก้ไขแผนงานโปรเจ็กต์นี้ก็ไม่ได้มุ่งเป้าเพื่อแข่งกับบริษัทในประเทศจีนหรือชาวอินเดียเลย

ผมมุ่งเป้าเพื่อแข่งไปที่ซิลิคอนแวลลีย์ของพวกอเมริกา ถ้าสามารถขยายข้อบกพร่องของพวกอเมริกาได้ และสามารถกำจัดพวกอเมริกาออกไปได้ BTTคงเชื่อใจบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์อย่างแน่นอน และบริษัทอื่นๆก็คงไม่มีโอกาสอีก

เมื่อสูบบุหรี่จนเสร็จ ผมกลับมาที่โรงแรมและสงบสติอารมณ์ทันที และจดจ่ออยู่กับการเขียนต้นฉบับ พรุ่งนี้ต้องเอาโปรเจ็กต์นี้มาให้ได้

วันรุ่งขึ้น ผมเปลี่ยนชุดสูทตัวใหม่ที่พึ่งซื้อมา และแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน

เมื่อมองเข้าไปในกระจก ผมเกิดภาพลวงตาเหมือนตัวเองย้อนกลับไปเมื่อสามปีที่แล้ว

เมื่อผมออกจากประตูก็เจอไป๋เวยพอดี เธอมองผมด้วยสีหน้าปกติเหมือนเดิม จากนั้นเธอก็อึ้งไปชั่วครู่ แล้วมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง เธอมองผมด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ

“จู่ๆคุณก็ค้นพบว่าผมหล่อมากๆใช่ไหม?”ผมเอามือล้วงกระเป๋าแล้วพูดเบาๆ

“หลงตัวเอง”เธอก็แสดงสีหน้าเย็นชาและเย่อหยิ่งอีกครั้ง เธอพูดคำนั้นออกมาด้วยสีหน้าปกติ เธอใส่ส้นสูงแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์

ตอนนี้ผมถึงพบว่า วันนี้เธอสวมชุดกระโปรงที่ทันสมัยและราคาแพง ชุดนี้มันสามารถแสดงเรือนร่างของเธอออกมาได้อย่างสมบูรณ์

โดยเฉพาะเวลาเดิน บั้นท้ายอันใหญ่ของเธอโยกไปมา และขาอันเรียวยาวที่อยู่ใต้กระโปรงก็ปรากฏ

เธอช่างสวยและเซ็กซี่จริงๆ

ระหว่างทางที่ไปBTT ไป๋เวยบอกผมว่า เมื่อวาน มีบริษัทสี่แห่งถอนตัวออกจากการเจรจาโปรเจ็กต์กับ BTT โดยสมัครใจ ในจำนวนนั้น มีสามบริษัทที่มาจากประเทศจีน และอีกหนึ่งบริษัทมาจากอินเดีย และเหตุผลที่พวกเขาถอนตัว เพราะพวกเขารู้ว่าบริษัทของตัวเองแข่งขันกับบริษัทอื่นไม่ไหว และพวกเขาก็นั่งเครื่องบินออกไปจากเชียงใหม่ไปแล้ว

ยังมีอีกสี่บริษัทที่ยืนหยัดจะทำโปรเจ็กต์กับBTT มีบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ที่เป็นบริษัทของเรา บริษัทม่านดีโคร์กรุ๊ปของเฉาเหวินหวย และบริษัทของซิลิคอนแวลลีย์กับบริษัทของอินเดีย

ในบริษัทเหล่านี้ บริษัทที่มีโอกาสมากที่สุดน่าจะเป็นซิลิคอนแวลลีย์ และบริษัทที่มีโอกาสน้อยที่สุดน่าจะเป็นบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ แม้แต่ม่านดีโคร์ที่มาจากประเทศจีนด้วยกัน ยังมีโอกาสมากกว่าบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาเป็นบริษัทข้ามชาติ สำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา

ถ้าไม่ใช่เพราะคาดหวังในตัวผม ไป๋เวยคงยอมแพ้ไปนานแล้ว

นอกจากนี้ ไป๋เวยยังกังวลว่าหากบริษัทของซิลิคอนแวลลีย์ถูกตัดสิทธิ์ออกไป BTTจะเลือกบริษัทม่านดีโคร์กรุ๊ปหรือเปล่า เพราะบริษัทนี้มีเทคโนโลยีจากอเมริกาและแรงงานจากจีน ซึ่งบริษัทนี้ตรงตามความต้องการทั้งหมดของBTTเลย

ผมคิดว่าเธอกังวลมากจนเกินไป ถ้าสามารถพูดโน้มน้าวจนผู้บริหารระดับสูงตัดสิทธิ์บริษัทซิลิคอนแวลลีย์ออกไป มันก็มากเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าคนพวกนั้นเชื่อใจผม พวกเขาจะไม่เลือกบริษัทอื่นอย่างแน่นอน

เมื่อมาถึงตึกBTT ทีมโปรเจ็กต์ทั้งหมดสิบคนของบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ มีคนเพียงครึ่งเดียวที่เข้าไปนั่งอยู่บนโต๊ะในห้องประชุม พวกเรานั่งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ รวมทั้งผมด้วยและผมโชคดีมากๆที่ผมได้นั่งอยู่ข้างๆไป๋เวย

ผ่านไปไม่นาน ผู้บริหารระดับสูงของBTTก็เข้ามา รวมทั้งสันติสุขด้วย ดูจากลำดับการเข้ามาในห้อง ตำแหน่งของเขาน่าจะไม่ค่อยสูงมากนัก

ไป๋เวยกับตัวแทนของอีกฝ่ายจับมือทักทายกัน จากนั้นเธอก็แนะนำผมให้อีกฝ่ายรู้จัก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมีประสบการณ์ด้านการเจรจาธุรกิจแบบนี้มาหลายครั้ง ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกประหม่าเลย ผมไม่ได้ถ่อมตัวหรือทำตัวหยิ่งผยองเลย ผมแค่จับมือทักทายอย่างสุภาพ และทักทายอีกฝ่ายด้วยภาษาไทยที่ผมชำนาญ

การเผชิญหน้ากับเลขาตำแหน่งเล็กๆอย่างผม ผู้บริหารระดับสูงไม่ได้ละเลยเรื่องมารยาท แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับผมมากนัก

ทั้งสองฝ่ายต่างนั่งลง ไป๋เวยพูดตรงไปตรงมาเลยว่าพวกเราได้แก้แผนงานโปรเจ็กต์ใหม่ เพื่อพยายามได้โอกาสที่จะได้ร่วมมือกับBTT

เมื่อไป๋เวยพูดว่าให้ผมเป็นคนมาอธิบาย ผมก็ยืนขึ้นทันที ผมยกมือและไหว้ผู้บริหารระดับสูงทุกคน เดินไปที่โพเดียมซึ่งมีเครื่องโปรเจคเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ และพูดด้วยภาษาไทย

“สวัสดีครับทุกท่าน ในประเทศจีนของเรามีแนวคิดทางธุรกิจที่เรียกว่า’เป็นมิตรกับผู้บริโภค’ซึ่งหมายถึง การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พวกเราออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์สามารถตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภค ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการทางจิตใจของผู้บริโภคด้วย พวกเราจะปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการโดยคำนึงถึงการเป็นมิตรกับผู้บริโภคเสมอ เพื่อให้ผู้บริโภคพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ของเรา”

“วันนี้ผมจะอธิบายประเด็นสำคัญให้ทุกคนทราบ ระบบซอฟต์แวร์OAที่บริษัทบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ของเราออกแบบให้BTTโดยเฉพาะ และระบบซอฟต์แวร์นี้ใช้งานง่ายมากๆ

เมื่อพูดจบ ผมเปิดระบบซอฟต์แวร์และฉายภาพผ่านโปรเจคเตอร์ ผมอธิบายรายละเอียดการแก้ไข้ต่างๆ และนำซอฟต์แวร์ของบริษัทเราเอาไปเปรียบเทียบกับซอฟต์แวร์ของซิลิคอนแวลลีย์ โดยมุ่งเน้นถึงข้อดีของการออกแบบซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานง่าย

นี่คือการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ผมพยายามใช้น้ำเสียงและคำพูดที่เป็นปกติ เพื่อแนะนำข้อดีเพียงอย่างเดียวของซอฟต์แวร์ในประเทศจีน ซอฟต์แวร์ของเราใช้งานง่าย เข้าใจง่ายและใช้งานได้สะดวก ในขณะเดียวกันผมก็พูดถึงข้อบกพร่องที่ซับซ้อนและยุ่งยากในซอฟต์แวร์ของซิลิคอนแวลลีย์ด้วย

หลังจากเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ ผมก็เริ่มพูดในสิ่งที่ผมเคยพูดกับสันติสุข และให้ผู้บริหารระดับสูงของBTTเปลี่ยนจากโฟกัสที่เทคโนโลยี ไปโฟกัสที่ด้านบริการ

ผมประสบความสำเร็จในการทำให้พวกเขาสนใจ พวกเขาตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมอธิบายทั้งหมด และคำถามก็ล้วนแต่เกี่ยวกับการอัปเดตและการบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์

แต่ผมค่อยๆรู้สึกว่าตัวแทนการเจรจาของBTTที่ชื่อว่าอนุรักษ์ เขามองผมด้วยสายตาแปลกๆ

ตอนแรกเขามองผมด้วยสายตาปกติ แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นชื่นชม แต่ตอนนี้เขาเริ่มแสดง……แสดงสายตาที่ผมเคยเห็นในคุก มันเป็นสายตาของพวกเกย์

มันทำให้ผมขนลุกขึ้นมาทันที เพราะอนุรักษ์เป็นผู้ชาย และเป็นผู้ชายตัวเล็กที่มีอายุห้าสิบกว่าแล้ว

เขาเป็นCOOของBTTกรุ๊ป และเขายังเป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้วย ซึ่งเขาเป็นคนรับผิดชอบโปรเจ็กต์จัดหาซอฟต์แวร์ โดยปกติบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งระดับนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะชื่นชมใครได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นผมเป็นแค่เลขาตำแหน่งเล็กๆเท่านั้น

เป็นไปได้ว่า เขาเป็นเกย์จริงๆ และเขาก็ชอบผม

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด