ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 68 หึงหวง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 68 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ที่อยู่เป็นของร้านบาร์ที่มีบรรยากาศสบายๆพร้อมดนตรีเบาๆ อยู่เยื้องๆฝั่งตรงข้ามร้านบาร์ที่โล๋อีเจิ้งทำงานอยู่ และผมมักจะมานั่งที่นี่เป็นประจำ

ผมแชร์ตำแหน่งไปให้ไป๋เวยทางวีแชท เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไป๋เวยก็มาถึง เธอใส่ชุดเดรสยาวลายทางน้ำเงินขาวที่ดูหลวมๆ เธอดูสดใสร่าเริง แต่งตัวเรียบง่ายและสบายๆเป็นธรรมชาติมากๆ

ผมมองเธอด้วยความชื่นชมจนเคยชิน และผมก็เอ่ยชมเธอด้วยความเคยชิน “คุณสวยจริงๆ”

ไป๋เวยมักจะเพิกเฉยต่อคำพูดและสายตาของผมจนเคยชิน แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวคำทักทายผม เธอนั่งลงฝั่งตรงข้ามของผมและมองดูบรรยากาศรอบๆของร้านบาร์ที่ดูหรูหราแต่มีบรรยากาศสบายๆและเปิดเพลงเบาๆ

มองเห็นได้อย่างชัดเจน เธอชอบบรรยากาศแบบนี้

ไม่ต้องรอให้ผมเรียก พนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และถามไป๋เวยว่าต้องการอะไรด้วยความสุภาพ

ไป๋เวยสั่งกาแฟแก้วหนึ่งและของว่างหลายๆอย่าง จากนั้นเธอก็ถามผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณเรียกฉันออกมา คุณต้องการคุยเรื่องอะไร? พูดมาได้เลย”

ผมหัวเราะ “ไม่มีอะไร แค่คิดถึงคุณเฉยๆ อยากจะเห็นหน้าคุณ และพูดคุยกับคุณเฉยๆ”

“พูดจากะล่อน”เธอมีสีหน้าปกติเหมือนเดิม

“อย่าทำแบบนี้ได้ไหม เมื่อสองสามวันก่อนพวกเราก็เข้ากันได้ตอนที่อยู่ในประเทศไทย พอพวกเรากลับมาในประเทศคุณก็ทำหน้าบึ้งใส่ผม ผมก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อคุณ”

“เมื่อสักครู่คุณข่มขู่ฉัน บอกว่าจะไปคอนโดของฉัน ตะโกนด่าฉันนอกใจคุณและจับผู้ชายมีเงิน”

“ฮ่าๆ คุณเป็นคนบีบบังคับให้ผมพูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ผมแค่อยากชวนคุณออกมาและพูดคุยกับคุณเฉยๆ”

“หึ!”

ไป๋เวยจ้องมาที่ผม และชี้ไปที่ร้านบาร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่โล๋อีเจิ้งทำงานอยู่และพูด “คุณมักจะไปร้านบาร์นั้นใช่ไหม คุณจงใจมาที่นี่เพราะนัดฉันออกมาใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ ผมมักจะมาที่นี่เป็นประจำ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ถามพนักงานเสิร์ฟได้”

มีพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟของว่างพอดี เมื่อได้ยินคำพูดของผม เธอยิ้มและพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณผู้ชายคนนี้มาร้านของพวกเราเป็นประจำ และเขาก็มักจะมาคนเดียว วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขานัดผู้หญิงมาที่ร้าน”

ผมแอบยกนิ้วโป้งให้พนักงานคนนั้น

ในเวลานี้ มีเด็กผู้หญิงหลายๆคนที่แต่งตัวมีสีสันจัดจ้านเดินเข้ามาในร้าน คนที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดย้อมสีผมเป็นสีชมพูและถักเปียทั้งสองข้าง เธอสวมถุงน่องตาข่ายขาดๆ เธอก็คือนางแหวกแว้นของโล๋อีเจิ้งที่ชื่อเสี่ยวเยว่

“พี่หยาง”

ขณะที่ผมยังไม่ทันได้ตอบสนอง นางแหวกแว้นก็มองมาที่ผม เรียกชื่อผมด้วยความดีใจ

“สวัสดี”ผมตอบอย่างไม่มีทางเลือก

“พี่หยาง บังเอิญจริงๆ เมื่อสักครู่คุณนั่งดื่มเบียร์อยู่ร้านบาร์ฝั่งตรงข้ามไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”

ผมยังไม่ทันได้ตอบ นางแหวกแว้นก็วิ่งเข้ามา และจับแขนของผมไว้และเขย่าเบาๆ เธอเขย่าแขนของผมและพูด “พี่หยาง ฉันคิดอย่างจริงจังกับสิ่งที่คุณพูดเมื่อสักครู่ และฉันคิดทบทวนดีแล้ว ไอ้สารเลวนั้นไม่คู่ควรกับความรักของฉัน ฉันจะหาผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ มีเสน่ห์และมีความรับผิดชอบอย่างคุณ”

ผมอยากจะร้องไห้ และดึงมือของเธอออก ชี้ไปที่ไป๋เวยและพูด “เสี่ยวเยว่ ผมมีแฟนสาวแล้ว”

“อ้า”นางแหวกแว้นอึ้งไปชั่วครู่ ดูเหมือนเธอพึ่งจะสังเกตเห็นไป๋เวย เธอรีบย่อตัวและพูด “ขอโทษด้วย ขอโทษจริงๆ ฉันไม่ทันได้สังเกต ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ สวัสดีค่ะพี่สาว ฉันชื่อเสี่ยวเยว่”

ไป๋เวยฝืนยิ้ม “สวัสดี อันที่จริงฉันไม่ได้เป็นแฟนสาวของเขา”

ผมรีบพูดทันที “ผมกำลังตามจีบเธออยู่ พวกเราใกล้จะเป็นแฟนกันแล้ว”

“พี่หยางสู้ๆ งั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณสองคนแล้ว” เสี่ยวเยว่ชูกำปั้นให้ผม จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน”ผมตะโกนเรียกเธอและถาม “เสี่ยวเยว่ กงเจิ้งเหวินส่งคุณมาใช่ไหม?”

เสี่ยวเยว่อึ้งไปชั่วครู่ “อ้า? อะไรนะ?”

ผมจ้องมองดวงตาของเธอ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้เสแสร้ง ผมก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงช้าๆว่า “ไอ้สารเลวโล๋อีเจิ้งส่งเธอมาแกล้งผมใช่ไหม?”

เสี่ยวเยว่อึ้งไปอีกครั้ง แต่เธอก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เธอปิดปากและหัวเราะเสียงดังคิกคัก “พี่หยาง ไม่ใช่ คุณเข้าใจผิดแล้ว มันเป็นเรื่องบังเอิญและฉันไม่ได้ตั้งใจมาแกล้งคุณ”

“อืม ดีแล้ว งั้นเธอไปเถอะ”

“ลาก่อนพี่หยาง ลาก่อนพี่สาว”เสี่ยวเยว่หัวเราะและโบกมือให้พวกเรา

พูดว่าลาก่อน แต่อันที่จริงเธอพาเพื่อนหลายๆคนของเธอไปนั่งโต๊ะข้างๆที่อยู่ไม่ไกล

ผมหันศีรษะกลับมา พบว่าไป๋เวยกำลังมองผมด้วยสายตาแปลกๆ

ผมเขินอายและกระแอมออกมา “คือ……พึ่งรู้จักเมื่อสักครู่ที่ร้านบาร์ฝั่งตรงข้าม เธอเป็นแฟนสาวของโล๋อีเจิ้ง ตอนอยู่เชียงใหม่ในคืนที่กงเจิ้งเหวินโดนซ้อม โล๋อีเจิ้งคือผู้ชายที่กลับมาโรงแรมพร้อมกับผม”

“เขาเป็นคนสารเลว ไปมีอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนี้ จากนั้นก็จะทิ้งเด็กผู้หญิงคนนี้ไป เมื่อสักครู่ผู้หญิงคนนี้คิดโง่ๆและเกือบจะฆ่าตัวตาย ยังดีที่ผมมาทัน พยายามเกลี้ยกล่อมเธออยู่นานกว่าเธอจะสงบสติอารมณ์ได้ คุณดูเธอตอนนี้สิมีชีวิตชีวามากๆ”

ไป๋เวยพูดเบาๆ “คุณให้ทิปกับพนักงานเสิร์ฟคนเมื่อกี้ใช่ไหม ให้ไปเท่าไหร่?”

“ไม่ได้ให้ ผมมาที่นี่เป็นประจำ”

“ฮ่าๆ เมื่อสักครู่ใครเป็นคนบอกว่าตัวเองเหงา ยังบอกว่าไม่เคยนัดผู้หญิงเลย ผ่านไปชั่วพริบตาก็มีเด็กผู้หญิงหลายคนกระโดดออกมาแล้วเรียกพี่หยางๆ ดูท่าทางที่เธอยั่วยวนตอนที่เขย่ามือของคุณ คุณคิดว่าเธอน่ารักใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ เธอเป็นแค่นางแหวกแว้น ไม่สามารถใช้สายตาของคนทั่วไปมองเธอ…… อุ๊ย คุณหึงหวงใช่ไหม?”

ไป๋เวยยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ใครจะไปหึงหวงคุณ”

“ฮ่าๆๆ ยังเสแสร้งอีก คุณกำลังหึงหวงผมอยู่ใช่ไหม”

“หึ ชอบหลงตัวเอง”

พนักงานหญิงคนเมื่อสักครู่เดินมาเสิร์ฟกาแฟ เมื่อวางถ้วยกาแฟลงก็รีบเดินจากไปทันที เมื่อไป๋เวยเห็นก็อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากและหัวเราะ

ดูเหมือนเธอจะไม่ได้โกรธผมจริงๆ

หลังจากเธอยกกาแฟขึ้นมาจิบแล้ว จู่ๆไป๋เวยก็ถาม “เด็กผู้หญิงคนนั้นคือคนที่คุณบอกว่าเป็นนางแหวกแว้นใช่ไหม? คุณรู้จักเธอได้ยังไง?”

“ใช่ แต่เธอทำงานสุจริตนะ คุณรู้จักอาชีพคอสเพลย์ไหม? เป็นนางแบบแต่งตัวเลียนแบบตัวละครในเกมหรืออนิเมะ เมื่อสักครู่เธอทะเลาะกับคนอื่นอยู่ในร้านบาร์ฝั่งตรงข้าม ผมทนดูไม่ไหวก็เลยช่วยเธอพูด ก็เลยรู้จักเธอ”

“เธอพูดว่าไอ้สารเลวนั้นไม่คู่ควรกับความรักของเธอ มันเกิดอะไรขึ้น?”

ผมลังเลอยู่ชั่วครู่และพูด “มีผู้ชายสารเลวคนหนึ่งในร้านบาร์ มีอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะไม่ค่อยชอบเธอและอยากจะทิ้งเธอไป ผมก็เลยเกลี้ยกล่อมจนทำให้เด็กผู้หญิงคนนั้นสงบสติอารมณ์ได้”

“แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายสารเลวคนนั้นละ? จะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?”เธออยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นและโกรธมากๆด้วย

“ผมก็ไม่รู้ ผู้ชายสารเลวคนนั้นก็หนีไปแล้ว”

ผมไม่อยากให้เธอรู้ว่าผู้ชายสารเลวคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของผม ผมก็เลยหลอกลวงเธอ จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณ เหอไคเฉิงเป็นพ่อบ้านของบ้านคุณใช่ไหม?”

“ใช่ ลุงเฉิงอยู่กับบ้านฉันมาหลายสิบปีแล้ว มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“ถ้าเขาจะแกล้งผม อย่างเช่น หาคนมาซ้อมผม หรือใช้กลอุบายมาใส่ร้ายป้ายสีผม คุณจะทำยังไง?”

ไป๋เวยขมวดคิ้ว “ทำไมคุณถึงถามแบบนี้? คุณกับลุงเฉิงมีเรื่องผิดใจกันเหรอ?”

ผมยิ้มและส่ายหัว “ไม่มี ผมเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว เขาข่มขู่ผมก่อน สาเหตุก็เพราะคุณ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด