ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 4 ใจอ่อน
“ปึ้ง”ประตูกระแทกเข้ากับร่างของเหลยหยุนเป่า ทำให้ร่างกายอ้วนๆของเขาล้มลงกับพื้น
ผมพุ่งตัวเข้าไป แล้วถีบไปที่เหลยหยุนเป่าหลายครั้ง เพื่อนของเขารู้สึกตัวไวมาก เขาพุ่งตรงมาที่ผมอย่างดุเดือด
ตลอดระยะเวลาสามปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในคุก ทำให้ผมแข็งแกร่งมากในการต่อสู้ระยะประชิด ผมใช้การชกและเตะไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทั้งสองคนล้มลงกองพื้น
“เรื่องนี้ทำพลาดแล้ว รีบไปกันเถอะ”
เหลยหยุนเป่าพูดจบก็ใช้โอกาสนี้ในการคว้าประตู เพื่อนของเขาจึงหนีออกไป
ผมเห็นไป๋เวยนอนอยู่บนเตียง ยาของเหลยหยุนเป่าจะต้องมีส่วนผสมแบบนั้น มันไม่ใช่ยาที่ทำให้สลบไปในทันที
เพราะไป๋เวยยังสามารถแกว่งแขนได้เป็นครั้งคราว ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นถึงการหมดสติและพร่ามัว บนใบหน้าอันงดงามของเธอเผยให้เห็นถึงความเย้ายวน กระโปรงหรูที่สวมอยู่บนร่างกายดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ไม่ได้จางหายไปไหน
เห็นได้ชัดว่า เธอยังไม่ถูกหยามเกียรติ
แต่สภาพเธอในตอนนี้……
ประสาทรับรู้ของผมถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ยังมีฮอร์โมนที่ถูกระงับไว้เป็นเวลานาน
หญิงสาวที่มีเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบ คนที่ยังทำตัวสูงส่งในเมื่อวาน ผู้หญิงที่เย็นชาจนอยู่ห่างจากคนอื่นเป็นพันลี้ มาวันนี้เสื้อผ้าด้านบนถูกปลดออกครึ่งหนึ่งนอนอยู่ตรงหน้าของผม
สิ่งที่ร้ายแรงมากกว่านั้นคือ เธอขยับมือเท้าของเธอเป็นครั้งคราว หรี่ตาทั้งสองข้าง เผยให้เห็นถึงท่าทางที่เคลื่อนไหวไม่รู้จบ
ลำคอของผมเริ่มแห้งผาก ลมหายใจเร่งเร้ามากยิ่งขึ้น ฮอร์โมนที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นทำให้ผมค่อยๆเดินไปที่ข้างเตียง ผมลูบคลำใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ สุดท้ายก็ระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเอง
ผมยิ้มอย่างขมขื่นเหมือนคนโง่ ผมช่วยผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ทั้งๆที่ตัดสินใจได้แล้ว จะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ลิ้มลองถึงความขมขื่น แต่สุดท้ายผมก็ใจอ่อน
ผมส่ายหัวไปมาเพื่อกำจัดความหวาดหวั่นนั้นทิ้งไป ผมเห็นขวดน้ำแร่ขวดหนึ่งวางอยู่บนหัวเตียง ทำการบิดฝาออก ดื่มไปหลายอึก แล้วลูบหน้าไปหนึ่งครั้ง
น้ำที่เหลือก็เอามาเทไปที่ใบหน้าของไป๋เวย ให้เธอฟื้นตื่นขึ้นมาเร็วๆ ขี้เกียจสนใจว่าผ้าปูเตียงจะเปียกหรือไม่
หลังจากนั้นก็นั่งลงขอบเตียง จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ เพื่อให้ตัวเองสงบจิตสงบใจ แล้วทำการคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
การแจ้งความเป็นอะไรที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ต้องคิดก่อนว่าหลังจากที่ตำรวจมาแล้ว ผมควรจะพูดอย่างไร
ต้องคิดหาเหตุผลอธิบายเรื่องที่ทำไมตัวเองต้องสะกดรอยตามไป๋เวย เหตุใดไม่เข้าไปหยุดพฤติกรรมของเหลยหยุนเป่า เหตุใดไม่แจ้งตำรวจตั้งแต่แรก
บุหรี่ยังสูบไม่ทันหมด ผมก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย คิดว่าตัวเองเมาบุหรี่ ผมจึงจัดการดับไฟของก้นบุหรี่ ผมลุกขึ้นอยากจะเข้าไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ
แต่พึ่งลุกขึ้นมาได้ ผมก็รู้สึกเวียนศีรษะอย่างรุนแรง เท้าของผมเริ่มอ่อนแรง
ผมตกใจมาก รีบเก็บขวดน้ำแร่เปล่าขึ้นมามองดูอีกครั้ง แล้วหันกลับไปเห็นน้ำแร่ซึ่งไม่ใช่ยี่ห้อเดียวกันกับที่อยู่ข้างๆโทรทัศน์
จบกัน ขวดน้ำที่ผมดื่มเมื่อสักครู่ ต้องเป็นขวดที่เหลยหยุนเป่าทิ้งเอาไว้แน่ๆ อีกทั้งยังเป็นขวดที่วางยาแล้ว
เขาน่าจะเตรียมการป้องกันเผื่อไป๋เวยไม่ได้สลบอยู่ที่ร้านอาหาร หรือเมื่อเข้ามาในโรงแรมแล้วไป๋เวยอาจจะฟื้นขึ้นมากะทันหัน แล้วค่อยกรอกให้เธอดื่ม
ในตอนที่สมองของผมมีความต้องการ ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย
ไป๋เวยดื่มไปแค่ครึ่งแก้ว ใช้เวลาสองสามนาทีก็สลบไป แต่ผมดื่มน้ำแร่ไปครึ่งขวด
ผ่านไปไม่นานผมก็รู้สึกได้ถึงแขนขาอ่อนแรง จิตสำนึกของผมยังคงชัดเจน แต่ทั้งร่างกายกลับไม่มีเรี่ยวแรง
ต่อมาผมก็ล้มลงนอนบนเตียง พิงบนตัวไป๋เวย มือข้างหนึ่งวางอยู่บนหน้าอกที่สูงตระหง่านของเธอ
มืออีกข้างของผมล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเหนื่อยยาก ฝืนพยายามกดหมายเลข110 ทันใดนั้นมือของผมก็อ่อนแรง มือถือผมตกลงไปที่พื้น
ผมกระวนกระวายมาก อยากจะเก็บมือถือขึ้นมา แต่ไม่มีแรงพลิกตัวเพื่อนั่งขึ้นมา กระทั่งไม่มีแม้แต่เสียงเปล่งออกมา
ผมทำได้เพียงแค่ขยับมือและเท้าได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งมันต้องใช้กำลังมาก
แม้แต่แขนที่วางอยู่บนหน้าอกของไป๋เวย ก็ไม่สามารถเอาออกมาได้
ผ่านไปไม่นาน เปลือกตาอันหนักอึ้งก็ถูกปิดลง ผมตกอยู่ในอาการสับสนมึนงงเหมือนนอนหลับแต่ไม่ได้นอน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จู่ๆผมก็รู้สึกว่าใบหน้าของผมถูกตบหนึ่งครั้ง ความเจ็บแสบแล่นเข้ามา
ผมพยายามเปิดเปลือกตาขึ้น การมองเห็นแกว่งไปมาอย่างรุนแรง เห็นเพียงแค่เงารางๆที่กำลังวิ่งออกไปข้างนอก เหมือนจะคือไป๋เวย
ผมขยี้ตาไปมาหลายครั้ง แล้วพยายามนึกถึงเรื่องราวก่อนที่จะสลบไป
จำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่ข้างๆไป๋เวย และเสื้อผ้าบนตัวของไป๋เวยถูกปลดออกครึ่งหนึ่ง……เธอคงจะไม่เข้าใจผมผิดอีกแล้วใช่ไหม
พอคิดได้ดังนั้น ผมจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที
ร่างกายมีเรี่ยวแรงแล้ว แต่ทันทีที่ผมยืนขึ้นมาได้ สมองของผมก็มีอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรงและดวงตาพร่ามัว ลำคอแห้งผาก มีอาการอยากอาเจียนเล็กน้อย
เขาไม่สามารถไล่ตามไปได้
ผมเก็บมือถือของตัวเองขึ้นมา พยายามจับกำแพงแล้วแล้วไปเปิดก๊อกน้ำ ผมล้างหน้าอย่างลวกๆ แล้วดื่มน้ำไปหลายอึก หลังจากที่อาการดีขึ้นมาเล็กน้อยจึงไล่ตามไป
เมื่อลงมาด้านล่าง ในตอนที่จะวิ่งไปที่ประตูของโรงแรม ไป๋เวยก็รีบเดินไปที่โรงแรมพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคน
“เขานั่นแหละค่ะ!”ไม่ไกล มีเสียงตะโกนของไป๋เวยพลางชี้มาที่ผม
ผมยังไม่ทันได้ด่าอะไรออกไป และยังไม่ทันได้อธิบาย ตำรวจสายตรวจสองนายนั้นก็พุ่งตรงมาที่ผม กดผมลงกับพื้นด้วยท่าทางที่ชำนาญ
คอมเม้นต์