ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 15 นอนเป็นเพื่อนผมก่อน
ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ถ้าเขาเป็นเกย์จริงๆ แล้วเขาหาโอกาสมาหยอกล้อผม หรือใช้โปรเจ็กต์นี้มาแบล็กเมล์ผม ผมจะทุบตีเขาดีไหม? ทุบตีเขาจนบาดเจ็บสาหัส
เพราะผมเกลียดพวกเกย์มากๆ
ผมพยายามอธิบายให้จบด้วยสีหน้าปกติ เมื่อผมยกมือไหว้ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดแล้ว อนุรักษ์มองผมด้วยความพึงพอใจและปรบมือ
เมื่อคนอื่นๆได้ยินเสียงปรบมือของเขา ทำให้ทุกคนในห้องประชุมก็ปรบมือตามเขาทันที
ผมเดินลงมาจากโพเดียมอย่างใจเย็นและนั่งลง เรื่องที่เหลือก็ให้ไป๋เวยเป็นคนจัดการ ผมกำลังนั่งคิดว่าจะทุบตีอนุรักษ์ดีไหม
ปัญหาด้านเทคนิคได้มีการประชุมไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว สิ่งที่ไป๋เวยต้องการพูดคือแผนงานโปรเจ็กต์ที่ผ่านการแก้ไข รวมถึงเสนอราคาด้วย
คนไทยที่เป็นผู้บริหารระดับสูงโดนผมพูดโน้มน้าวสำเร็จ การเจรจาระหว่างสองฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น สุดท้ายแล้วอนุรักษ์พูดว่าต้องรอให้พวกเขาประชุมภายในเพื่อหารือกันก่อน นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า อีกสองวันก็จะเป็นวันสงกรานต์ของไทย ให้พวกเราเที่ยวที่เชียงใหม่สักสองสามวัน หลังจากผ่านเทศกาลวันสงกรานต์ของไทยไปแล้ว พวกเขาจะมาคุยรายละเอียดกับพวกเราอีกครั้ง
จากคำพูดของอนุรักษ์ก็ทำให้ผมรู้ว่า เขาสนใจผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของเราจริงๆ หากไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อผ่านช่วงสงกรานต์ไปแล้ว เขาคงมาคุยรายละเอียดสัญญากับไป๋เวย จากนั้นก็คงเซ็นสัญญา
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากเดินออกมาจากห้องประชุม สันติสุขก็แอบยกนิ้วโป้งให้ผม เขายังหาโอกาสเดินเข้าไปใกล้ๆไป๋เวย
และกระซิบบอกเธอ จากนั้นสีหน้าของไป๋เวยแสดงความดีใจออกมาทันที
เดินไปตามทางเดิน ขณะที่อนุรักษ์กำลังคุยกับคนอื่น ผมเดินไปข้างๆไป๋เวยและพูดเบาๆ”ประธานไป๋ อย่าลืมสิ่งที่พวกเราสองคนพนันกันไว้ เอาอย่างนี้ไหม……คืนนี้คุณมานอนเป็นเพื่อนผมสักคืนก่อนไหม”
ร่างกายของไป๋เวยแข็งทื่อ เธอหันหน้ามาและมองผมด้วยสายตาเย็นชา
ในสายตาที่เย็นชาของเธอ มีร่องรอยความตื่นตระหนกซ่อนอยู่
มองผมเพียงชั่วครู่ ไป๋เวยก็รีบหันหน้ากลับไปทันที และเธอก็ไม่ได้ให้คำตอบผม
ผมไม่ไปกวนใจเธออีก แต่เริ่มคิดว่า จะนอนกับเธอยังไง ผมควรขืนใจเธอ หรือคิดหาวิธีให้เธอยอมผมด้วยความสมัครใจ?
อนุรักษ์เป็นคนสุภาพมากๆ เขาพาสันติสุขและผู้บริหารระดับสูงหลายคน ส่งพวกเราถึงหน้าประตูของตึกBTT
เมื่อเดินถึงด้านล่างตึก อนุรักษ์จงใจพูดคุยกับผม เมื่อมองเห็นดวงตาของเขาในระยะใกล้ๆอีกครั้ง ผมมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาต้องเป็นเกย์อย่างแน่นอน
ทั้งสองฝ่ายกล่าวคำอำลา ขณะที่พวกเรากำลังจะจากไป ก็มีรถยนต์หลายคนวิ่งมาด้วยความเร็ว และจอดรถยนต์ที่ข้างถนนทันที
มีคนนับสิบที่สูบบุหรี่กำลังเดินลงมาจากรถยนต์ ทุกคนต่างมีรอยสักเต็มตัว เมื่อลงจากรถยนต์ก็ตรงเข้ามาที่ประตูของตึกBTT
แค่มองก็รู้ ว่าคนพวกนี้เป็นอันธพาลในท้องถิ่น และพวกเขาน่าจะเป็นแก๊งอันธพาลขนาดใหญ่
เมื่อมองเห็นคนพวกนี้เดินเข้ามา ผู้บริหารระดับสูงหลายคนของBTTขมวดคิ้วทันที โดยเฉพาะอนุรักษ์ ดูเหมือนเขาจะเกลียดอันธพาลพวกนี้มากๆ
“หยาง”อันธพาลคนหนึ่งที่เดินนำหน้า จู่ๆก็ตะโกนเรียกผมด้วยภาษาไทย
ผมอึ้งไปชั่วครู่ มองอันธพาลคนนั้นอย่างละเอียดทันที เขาอายุประมาณสี่สิบกว่า มีลักษณะเฉพาะของชาวเอเชีย ตัวเตี้ยแต่ร่างบึ้ก บนมือและคอมีแต่รอยสัก บนหน้ามีรอยแผลเป็น
ผู้ชายคนนี้……ผมไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ตอนที่ผมติดคุกก็ไม่ได้รู้จักหรือติดต่อกับคนไทยเลย
“หยาง เจรจาครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ชายหน้าบากไม่สนใจอนุรักษ์และคนอื่นๆเลย เขาเดินตรงมาที่ผม ขณะพูดเขาก็ยกมือขึ้นมาไหว้ผม
“พี่หยาง สวัสดีครับ”
“พี่หยาง สวัสดีครับ”
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็ยกมือขึ้นมาไหว้ผมทันที
ในเวลานี้ คนของBTTถอยหลังทันที พวกเขารีบหลบอันธพาลพวกนี้ เหมือนอันธพาลพวกนี้เป็นโรคระบาด
รวมทั้งไป๋เวยด้วย ทีมโปรเจ็กต์ของบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ต่างพากันถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ทำให้ผมยืนอยู่ด้านหน้าเพียงคนเดียว และเผชิญหน้ากับอันธพาลพวกนี้ที่มีผิวคล้ำและมีรอยสัก อันธพาลพวกนี้กำลังก้มหน้าทำความเคารพผมอยู่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนพวกเขากำลังทำความเคารพหัวหน้าแก๊งอยู่
แต่ผมไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊ง ผมไม่เคยเป็นหัวหน้าแก๊งเลย ถึงแม้ผมจะมีชื่อเสียงมากๆตอนอยู่ในคุก แต่ผมไม่เคยไปพัวพันกับแก๊งต่างๆในนั้น ยิ่งไม่เคยรับลูกน้องด้วย
และผมไม่รู้จักคนพวกนี้เลย
แล้วพวกเขา……พวกเขารู้จักผมได้ยังไง?
พวกเขารู้ได้ยังไงว่าผมมาเจรจาโปรเจ็กต์กับBTT?
แล้วพวกเขามาหาผมทำไม?
ในสมองของผมเต็มไปด้วยคำถาม ผมไม่ได้ตอบคำถามของชายหน้าบากและไม่ได้ทักทายอันธพาลพวกนั้น
ชายหน้าบากดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจปฏิกิริยาของผมและพูด”หยาง หลังจากที่คุณเจรจาโปรเจ็กต์ของBTTสำเร็จ อย่าลืมมาหาผมละ เดี๋ยวผมกับพี่น้องทุกคนจะจัดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองให้คุณ ถ้าคุณเจรจาไม่สำเร็จ ก็บอกผมได้ เดียวผมไปหาผู้บริหารระดับสูงของBTT ให้พวกเขา……”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ชายหน้าบากก็มองไปที่ผู้บริหารระดับสูงของBTTที่ยืนอยู่ข้างหลังผม เขาหัวเราะอย่างเย็นชา
จู่ๆผมก็นึกอะไรบางอย่างออกทันที และรีบหันหน้ากลับไป มองเห็นท่าทางที่น่ารังเกียจและโกรธเคืองบนใบหน้าของอนุรักษ์กับผู้บริหารระดับสูงของBTTทันที
เหี้ย!โดนคนลอบกัดแล้ว
มีคนจงใจให้อันธพาลพวกนี้มาที่นี่ แกล้งทำเป็นรู้จักผม และช่วยผมข่มขู่ผู้บริหารระดับสูงของBTT
จุดประสงค์ของพวกเขาคือ ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของBTTรังเกียจผม ทำให้ผมเสียโอกาสที่จะได้โปรเจ็กต์นี้
เพราะความปลอดภัยในเชียงใหม่ ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดพวกอันธพาลจะสามารถมาข่มขู่ถึงหน้าบริษัทขนาดใหญ่ได้
BTTก็คงไม่ยอมอ่อนข้อพวกอันธพาลอย่างแน่นอน
หลังจากได้ยินคำพูดของชายหน้าบาก อนุรักษ์ตะโกนด้วยความโกรธ”รปภ. เรียกรปภ.มาเดี๋ยวนี้ แล้วไล่เศษสวะพวกนี้ออกไป”
หลังจากนั้น อนุรักษ์ก็มองผมอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเดินเข้าไปในตึกBTTทันที
ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆของBTTก็เดินตามเข้าไปเหมือนกัน สันติสุขเหลือบมองผมก่อนเดินเข้าไป จากนั้นส่ายหัวและถอนหายใจ
ดูเหมือน โปรเจ็กต์นี้คงจะหมดโอกาสแล้ว
ชายหน้าบากไม่สนใจคำพูดของอนุรักษ์ แต่มองไป๋เวยที่ยืนอยู่ข้างหลังของผมและพูด”หยาง ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ เป็นเพื่อนร่วมงานของคุณเหรอ?”
“ผมจะไปหาคุณได้ที่ไหน?”ผมไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กลับถามเขาด้วยสีหน้าปกติ
ชายหน้าบากอึ้งไปชั่วครู่ เขามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสนใจ
“คลับครา”
เมื่อเห็นรปภ.เดินมา ชายหน้าบากเงยหน้าเพื่อยั่วยุผม จากนั้นก็พาพวกอันธพาลเหล่านั้นจากไป
หลังจากที่พวกเขาจากไป ไป๋เวยรีบวิ่งมาที่ด้านหน้าของผม ถามอย่างเย็นชา”ฟางหยาง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?คนพวกนั้นเป็นใคร?”
“ผมไม่รู้จักพวกเขา”ผมยังมองแผ่นหลังของคนเหล่านั้นที่จากไป ส่ายหัวและพูด
“คุณไม่รู้พวกเขา?”ไป๋เวยโกรธมากๆ”พวกเขามาแล้วบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณ พวกเขายังข่มขู่อนุรักษ์และคนอื่นๆอีก ทำให้ผู้บริหารของBTTโกรธมากๆ แต่คุณบอกว่าคุณไม่รู้จักพวกเขา?
“พวกเราเกือบจะได้โปรเจ็กต์นี้แล้ว ทันทีที่คนเหล่านี้ปรากฏตัว สิ่งที่พวกเราพยายามมาตลอดก็สูญเปล่าไปเลย คุณบอกฉันหน่อย ตอนนี้พวกเราควรทำยังไง?”
ผมนวดขมับของตัวเองและขี้เกียจตอบคำถามทั้งหมดของเธอ แต่ผมยังคงครุ่นคิดวิธีที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ ว่าอันธพาลพวกนั้นต้องเป็นเฉาเหวินหวยส่งมาแน่นอน
เขากล้าจัดฉากลอบกัดผม
วิธีการค่อนข้างต่ำช้า แต่มันได้ผลลัพธ์จริงๆ
“ฟางหยาง คุณพูดสิ! ตอนนี้พวกเราควรทำยังไง?”ไป๋เวยถามผมอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอเริ่มเปลี่ยนไป
ผมรู้สึกหงุดหงิด”คุณหยุดพูดได้ไหม?”
“คุณ……”ไป๋เวยอารมณ์ไม่ดี
“ฟางหยาง ระวังคำพูดของตัวเองด้วย คุณกำลังคุยกับประธานไป๋อยู่?”
โจงคังหนิงที่อยู่ข้างๆไม่ค่อยพอใจ เดินมาข้างหน้าผม ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เป็นคำสั่ง
คอมเม้นต์