ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 16 เจรจาธุรกิจ
“ผมจะพูดยังไง มันก็เรื่องของผม”
“คุณ……คุณมันเป็นพวกเศษสวะสังคม คุณไม่คู่ควรทำงานในบริษัทของเรา ประธานไป๋ ไล่เขาออกเดี๋ยวนี้เลย” โจงคังหนิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฮึกเหิม
“ผมเห็นด้วยกับความคิดของผู้จัดการโจง ฟางหยางเป็นพวกอันธพาล”
“ใช่ ถ้าเขาไม่เรียกอันธพาลพวกนั้นมา ผู้บริหารของBTTก็คงไม่โกรธและเดินจากไป”
“โปรเจ็กต์นี้พวกเราคงไม่มีโอกาสแล้ว ทั้งหมดต้องโทษเขาคนเดียว”
คนอื่นๆในทีมโปรเจ็กต์ต่างพูดคล้อยตามกัน
ไป๋เวยไม่ได้พูดอะไร แต่เธอมองมาที่ผม สายตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง
อาจจะเป็นเพราะผมทำให้พวกเธอพลาดโอกาสได้โปรเจ็กต์นี้ หรือเธอกำลังลังเลอยู่ว่าจะไล่ผมออกดีไหม
ผมไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น แต่ผมมองไป๋เวยอย่างสงบและรอให้เธอเอ่ยปากไล่ผมออก
แต่เธอพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค”คุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?”
“ผมไม่มีเวลามาอธิบายกับคุณ ผมต้องไปค้นหาความจริงเรื่องนี้”ขณะพูดผมก็เดินไปข้างถนนทันที
อันที่จริง ตอนนี้ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือควรใจเย็นๆ รอให้หาความจริงได้แล้วค่อยพูด
ไป๋เวยไม่เข้าใจผม และเธอก็ไม่รู้ว่าผมเคยเจอหน้าเฉาเหวินหวย และผิดใจกับเขาด้วย แต่เธอรู้ว่าผมเคยติดคุก รู้ว่าผมเคยเป็นอันธพาล
สำหรับอนุรักษ์กับผู้บริหารอืานๆ ของBTT พวกเขายิ่งไม่รู้จักผมเลยด้วยซ้ำ พวกเขาคงคิดว่าผมมีความสัมพันธ์กับอันธพาลท้องถิ่นพวกนี้ และใช้อันธพาลพวกนี้มาข่มขู่พวกเขา
ถึงแม้พวกเขาจะรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันมีความไม่ชอบมาพากล และคาดเดาได้ว่าเป็นกลอุบายของคู่แข่ง พวกเขาคงจะแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดและไม่สนใจเรื่องนี้
เรื่องนี้ผมต้องจัดการด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะผมอยากได้โปรเจ็กต์นี้ แต่เป็นเพราะผมไม่อยากโดนเอาเปรียบ ผมต้องเอาคืน
เมืองเชียงใหม่ไม่ได้ใหญ่มากนัก คลับคราก็หาเจอได้ไม่ยาก
ชื่อของร้านบาร์ดูโรแมนติก แต่สไตล์การตกแต่งกลับไม่โรแมนติกเลย บนพื้นเต็มไปด้วยความสกปรกและบนผนังเต็มไปด้วยภาพวาดที่ยุ่งเหยิง แสดงให้เห็นว่าสถานที่นี้มีแต่ความวุ่นวาย
อีกอย่าง ร้านบาร์แห่งนี้มีพวกอันธพาลมากมายนั่งเล่นไพ่และดื่มเหล้าในตอนกลางวัน
ผมเปิดวิดีโอบันทึกในโทรศัพท์ วางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าที่หน้าอกด้านซ้าย จากนั้นก็เดินเข้าไป
เพราะการมาถึงของผม ทำให้ร้านบาร์ที่เสียงดังนี้เงียบลงทันที ไม่ว่าจะเป็นพวกที่เล่นไพ่ ดื่มเหล้าหรือพวกที่กำลังนั่งกอดผู้หญิงอยู่ ทุกคนหันมามองผมทันที
“เขาเป็นผู้ชายที่อยู่BTTคนนั้น เขามาเพื่อหาเรื่อง”จู่ๆก็มีคนก็พูดประโยคนี้ออกมา
จากนั้น อันธพาลพวกนี้ก็ลุกขึ้นมาทันที พวกเขาเดินเข้ามาล้อมผมไว้ด้วยสีหน้าดุร้าย
ผมเหลือบมองไปรอบๆอย่างใจเย็น หลังจากไม่เห็นชายหน้าบาก ผมก็พูดอย่างใจเย็นว่า”ผมมาหาผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า”
ไม่มีใครตอบ อันธพาลพวกนั้นล้อมผมเป็นวงกลม ล้อมผมไว้ตรงกลาง พวกเขาเหมือนหมาป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อของตัวเอง พวกเขารอคำสั่งของจ่าฝูงแล้วค่อยพุ่งเข้ามา
ผมไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลย ผมมองอันธพาลพวกนั้นที่มีสีหน้าดุร้ายด้วยความใจเย็น
สถานการณ์แบบนี้ ตอนอยู่ในคุกผมเจอมาเยอะแล้ว ตอนที่ผมโดนคนนับสิบกระทืบอยู่กับพื้น ผมยังสามรถลากศัตรูลงมาทำร้าย
“ให้เขาเข้ามา”ขณะที่บรรยากาศตึงเครียดมากๆ ก็มีเสียงของชายหน้าบากดังขึ้นมาจากมุมของร้านบาร์
ทุกคนหลีกทางเส้นหนึ่งให้ผม ผมก็เดินเข้าไปอย่างช้าๆ
ชายหน้าบากนั่งอยู่ในโต๊ะด้านในสุด ข้างๆเขามีผู้หญิงคนไทยเซ็กซี่หลายๆคนนั่งอยู่ ยังมีชายร่างใหญ่สองคนนั่งอยู่ด้วย
เมื่อเห็นผมเดินเข้ามา มีผู้ชายคนหนึ่งที่มือใหญ่ๆเดินเข้ามาหาผม
ผมกางแขนออก ชายคนนั้นก็ค้นตัวของผม เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้พบอาวุธมา เขาก็หลีกทางให้ผมทันที
“พ่อหนุ่มน้อย คุณใจกล้าจริงๆ”ชายหน้าบากพูดด้วยรอยยิ้ม
ผมเดินเข้าไป ถอดเสื้อสูทแล้ววางไว้ที่แขนและนั่งลง จากนั้นปรับท่านั่งของตัวเอง โดยให้กล้องโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อถ่ายโดนชายหน้าบาก
“ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร?”ผมถามไปด้วย และหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบไปด้วย
“บัญชา”
“คุณบัญชาน่าจะรู้ชื่อของผม งั้นผมคงไม่ต้องแนะนำตัวแล้ว ผมขอพูดตามตรง เฉาเหวินหวยให้คุณบัญชามาทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงใช่ไหม?”
บัญชาไม่ได้ตอบ แต่เขาเผยรอยยิ้มออกมา ทำให้รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขายิ่งดูน่ากลัว ในขณะเดียวกันสองตาของเขาก็จ้องมองมาที่ผม ดูเหมือนเขาต้องการมองความคิดในใจของผมอยู่
ผมกางมือทั้งสองข้างออกมา”พูดตรงๆเลย ผมมาที่นี่ ไม่ได้เพื่อมาทวงความยุติธรรมจากคุณบัญชา แต่ผมมาเพื่อเจรจาธุรกิจกับคุณ”
“ฮ่าๆๆๆ……”จู่ๆบัญชาก็เงยหน้าหัวเราะทันที”คนจีนอย่างพวกคุณนี่แปลกจริงๆ คนที่มีเงินอย่างเฉาเหวินหวยเป็นคนที่เรื่องมากจริงๆ แต่คุณกลับเป็นคนตรงไปตรงมา”
“แต่ผมชอบคนตรงไปตรงมาอย่างคุณมากๆ และผมก็ชอบทำธุรกิจ แต่ผมจะบอกคุณล่วงหน้า เฉาเหวินหวยให้เงินกับผมหนึ่งล้านบาท ถ้าคุณให้ผมน้อยกว่านี้ พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”
“หนึ่งล้านบาท?”ผมแกล้งทำเป็นประหลาดใจ นั่งตัวตรง ให้มุมกล้องถ่ายโดนเขาอย่างชัดเจนและถาม
“คุณบัญชา คุณพูดว่า เฉาเหวินหวยให้เงินคุณหนึ่งล้านหยวน ให้คุณไปที่BTT เพื่อทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงใช่ไหม ? ต้อง……ขอโทษด้วย ราคานี้มันสูงมากๆจนผมไม่อยากจะเชื่อ”
บัญชาพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ”ใช่แล้ว ตอนแรกที่เขามาคุยกับผม ผมก็ตกตะลึงเหมือนคุณในตอนนี้เลย และวันนี้ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ผู้บริหารโง่ๆของBTTถูกผมหลอกแล้ว และระหว่างทางที่ผมกลับมา ผมยังไปเจอเฉาเหวินหวยมาแล้ว เขาจ่ายเงินสดที่เหลือห้าแสนบาทให้ผม”
“ผมพูดไปเยอะแล้ว ถ้าคุณยอมจ่ายมากกว่าราคานี้ เราก็ค่อยมาคุยธุรกิจกัน”
ผมแกล้งทำเป็นถอนหายใจยาวๆและเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วหลับตาเพื่อครุ่นคิด
ผ่านไปสักพัก ผมลืมตา ส่ายหัวและฝืนยิ้ม”คุณบัญชา ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมจ่ายมากกว่านั้นไม่ไหว”
“ถ้างั้นพวกเราคงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก เชิญกลับไปได้”สีหน้าของบัญชาไม่ค่อยพอใจ
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่โลภมากเรื่องเงินจริงๆ ถ้าได้เงินเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง
ผมไม่ได้ลุกขึ้นหรือจากไป แต่ยิ้มและพูด”คุณบัญชา ถึงแม้ผมจะจ่ายราคานี้ไม่ไหว แต่เฉาเหวินหวยเขายอมจ่ายแน่นอน คุณสามารถขอเงินเขาอีกหนึ่งล้านบาทได้”
“คุณหมายความว่าไง?”บัญชาขมวดคิ้ว
“คุณบัญชา ผมจะบอกกับคุณตามตรง บริษัทของผมกับเฉาเหวินหวยเป็นคู่แข่งกัน พวกเรากำลังแย่งโปรเจ็กต์ของBTT ที่มีมูลค่าห้าสิบล้านบาท เดิมทีBTTวางแผนจะเซ็นสัญญากับบริษัทของผม แต่วันนี้โดนคุณทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงและผมก็เสียโปรเจ็กต์นี้ไป หลังจากนี้BTTจะไปเซ็นสัญญากับเฉาเหวินหวยอย่างแน่นอน”
“ถ้าได้โปรเจ็กต์นี้ เฉาเหวินหวยจะกำไรประมาณยี่สิบล้านบาท เขาให้คุณแค่หนึ่งล้านบาท มันเป็นแค่เศษเงินสำหรับเขา”
“ตอนนี้ถ้าคุณบัญชาไปหาเขาอีกครั้ง บอกให้เขาให้เงินคุณอีกหนึ่งล้านบาท สองล้านบาท หรือสามล้านบาทก็ได้ ถ้าเขาไม่ยอมให้เงินกับคุณ คุณก็ข่มขู่เขา บอกว่าคุณจะบอกเรื่องที่เขาให้คุณทำทั้งหมดกับBTT และทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง จะทำให้เขาเสียโอกาสได้โปรเจ็กต์ของBTT”
“คุณคิดว่าเขาจะยอมจ่ายเงินให้คุณอีกสองถึงสามล้านบาท เพื่อแลกกับกำไรจากโปรเจ็กต์สองพันล้านไหม?”
เมื่อพูดจบ ผมก็นั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ มองหน้าบัญชาด้วยรอยยิ้ม
บัญชาขมวดคิ้วและครุ่นคิด สายตาของเขาเป็นประกาย
ผ่านไปไม่นาน เขาก็เลิกขมวดคิ้วและยิ้มทันที
คอมเม้นต์