ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 35 สู้กันจนตายไปข้าง
เพียงแต่ว่า บนตัวของผมไม่มีอาวุธ แม้แต่กุญแจดอกหนึ่งปากกาด้ามหนึ่งก็ยังไม่มี มีเพียงแค่คีย์การ์ดโรงแรม กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ
ใช่แล้ว ฟิล์มกันกระแทกบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมหล่นแตกมุมหนึ่ง
เรื่องมาถึงตอนนี้ ทำได้เพียงใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถใช้ได้ ดูว่าจะมีโอกาสสู้เอาทางรอดหนึ่งออกมาได้หรือเปล่าแล้ว
คิดถึงตรงนี้ ผมหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา ใช้เล็บแกะขอบฟิล์มกันกระแทกที่แตกเอาไว้ แกว่งไปมาทางบัญชา
“คุณบัญชา คลิปวิดีโอก็อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ผมสามารถให้คุณได้ และก็สามารถลบข้อมูลสำรองทั้งหมดที่อยู่ด้านในของอนุรักษ์ชุดนั้นทิ้ง แต่มีจุดหนึ่งที่ผมพูดได้เพียงว่าขอโทษแล้ว ผมจำเป็นต้องรักษาขาของผมเอาไว้”
บัญชาเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น “คุณไม่มีทางเลือก ผมรับเงินของคนอื่นก็ต้องทำเรื่องให้สำเร็จ จำเป็นต้องทำให้ขาของคุณขาด”
“หากต้องการเช่นนี้จริงๆล่ะก็ งั้นก็ขออภัยเป็นอย่างมาก ขอเพียงแค่คุณกล้าทำให้ขาของผมขาด พรุ่งนี้ผมก็จะนำคลิปส่งมอบให้กับตำรวจ ทุกคนสู้กันจนตายไปข้าง”
“คุณกล้า? ผมจะทำให้คุณไม่มีทางออกไปจากเชียงใหม่โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือตอนนี้ก็สามารถทำคุณให้ตายได้” บัญชาสีหน้าเหี้ยมโหด
ผมหัวเราะเล็กน้อย “คุณบัญชา ไม่มีความจำเป็นต้องทำเด็ดขาดขนาดนี้ หากนักท่องเที่ยวต่างชาติตายอยู่ที่นี่ล่ะก็ ตำรวจจะต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน ถึงเวลาคุณก็หนีไม่รอดเช่นเดียวกัน พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องสู้กันจนตายไปข้าง พิจารณาดูอีกทีเถอะ”
“หรือว่าอย่างงี้ คุณบัญชา ตอนนี้ผมพุ่งออกไป คุณให้คนของคุณแสร้งทำเป็นรั้งเอาไว้หน่อยก็พอแล้ว เสร็จเรื่องคุณก็บอกกับกงเจิ้งเหวินว่าผมสู้เก่งมาก คุณรั้งผมเอาไว้ไม่อยู่ พรุ่งนี้ผมก็จะออกไปจากเชียงใหม่ ถึงเวลาคุณก็บอกว่าไม่มีวิธีตามไปหาผมถึงประเทศจีนก็ได้แล้ว”
“เหอะๆ” บัญชาหรี่ตาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ไม่ต้องซับซ้อนขนาดนั้น ผมที่นี่มีพี่น้องร่วมร้อยคน เอาตัวคุณกับแม่หนูคนนั้นมัดกลับไปก่อน รอหลังจากที่ผมเพลิดเพลินกับแม่หนูคนนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่อยทิ้งพวกคุณลงไปในแม่น้ำ ตำรวจจะได้แต่นึกว่าพวกคุณดื่มเยอะแล้วตกน้ำจมน้ำตายเท่านั้นเอง”
ได้ฟังคำพูดของบัญชา ผมอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น ไม้นี้ของเขาเหี้ยมพอ และก็แอบแฝงมากพอ ตอนที่คนร้อยกว่าคนเดินด้วยกันอยู่บนถนน ใครจะไปรู้ว่ามีคนสองคนถูกมัดอยู่ถึงขั้นถูกตีจนสลบอยู่ด้านใน
พวกเขาสามารถพาตัวผมกับเหวินเจียไปอย่างยิ่งใหญ่ไม่ต้องแคร์สายตาใครแบบนี้ พาไปยังสถานที่ที่ไม่มีคน
ต่อให้ผมสามารถดึงคนสองคนมาตายด้วยกัน สุดท้ายก็ยังต้องไม่มีทางมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน
หรือว่า วันนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ?
ผมนั้นไม่กลัวตาย แต่เหวินเจีย…ทำเธอลำบากไปด้วยแล้ว
ผมหันกลับไปมองเหวินเจียครู่หนึ่ง เด็กผู้หญิงที่นิสัยกระโดกกระเดกน่ารักอ่อนหวานคนนี้ ในเวลานี้กำลังกอดเสื้อของผมเอาไว้มองดูผมอย่างตื่นเต้น
โชคดีเธอฟังภาษาไทยไม่ออก ไม่รู้เนื้อหาการสนทนาของผมกับบัญชา ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงจะตกใจจนร้องไห้ไปตั้งนานแล้ว
เธอไม่ควรร้องไห้ ยิ่งไม่ควรตาย ควรจะเหมือนเด็กป่าท่องเที่ยวไปทั่ว หัวเราะสนุกสนานอย่างเปล่งประกายราวกับดอกไม้โดยไม่ต้องคิดอะไร
ไม่มีทางให้เธอตายได้เป็นอันขาด
ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอด ใส่โทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถือโอกาสแกะฟิล์มกันกระแทกออกมา หัก เอาแผ่นหนึ่งที่ขนาดค่อนข้างเล็กแปะเข้าไปในฝ่ามือ จากนั้นโบกมือไปทางเหวินเจียส่งสัญญาณให้เธอเข้ามา
เหวินเจียมองดูบัญชาเล็กน้อย หลังจากเห็นเขาไม่ได้คัดค้าน ถึงได้วิ่งมาถึงข้างกายของผมด้วยความรวดเร็ว
ผมเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ขอโทษครับ ผมทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วยแล้ว”
เธอส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่กลัว กลับรู้สึกตื่นเต้นดีเหมือนกัน”
มองดูใบหน้าที่กล้าหาญแต่กลับปิดบังความตื่นเต้นไม่มิดอีกของเธอ ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ทั้งอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นช่วยเธอเอาผมหน้าผากที่ตกลงมาถึงกลางระหว่างหัวคิ้วออก เอ่ยว่า “หากคุณเป็นแฟนผมก็ดี อยู่กับคุณก็ไม่มีทางมีเรื่องกลุ้มใจ ขอเพียงแค่มองดูคุณก็จะรู้สึกมีความสุขมาก”
เธอชักสีหน้าอย่างซีเรียสมากยิ่งขึ้น “ห้ามจีบฉัน ฉัน…ฉันยังไม่อยากมีความรัก”
“ก็ได้ งั้นผมก็อดทนไปก่อน ตอนนี้มาพูดเรื่องสำคัญ”
พูดถึงตรงนี้ ผมกลัวในมือของบัญชาจะมีคนที่ได้ภาษาจีน ดังนั้นตั้งใจกดเสียงให้เบาลงเป็นพิเศษ “อีกสักครู่ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็ต้องตามผมแน่น ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องลนลาน เพ่งสมาธิ ตั้งใจฟังการจัดการของผม เข้าใจแล้วหรือยัง?”
“อือ” เหวินเจียพยักหน้าอย่างจริงจัง
ผมลูบหัวของเธออย่างพึงพอใจ
หันกลับไปมองดูบัญชาครู่หนึ่ง ผมแหงนหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน ใช้ภาษาไทยตะโกนใส่ตึกๆหนึ่งที่ข้างถนนว่า “คุณคนนั้นที่อยู่ตรงระเบียง รีบแจ้งตำรวจ”
บัญชาชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นแหงนหน้ามองไปทางตึกๆนั้น
ลูกน้องของเขาก็ทยอยกันแหงนหน้า นึกว่าระเบียงบนตึกมีคนอยู่
ถือโอกาสชั่วพริบตาที่กำลังจะหายไปนี้ ผมก้าวขาพุ่งไปทางบัญชาที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรในทันที
บัญชารู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว ด่าออกมาด้วยสีหน้าที่เหี้ยมโหด จากนั้นชูหมัดขึ้นมา
ระยะห่างประมาณห้าเมตร ชั่วพริบตาเดียวที่กำลังจะหายไป ตอนที่ลูกน้องของบัญชายังไม่รู้สึกตัว ผมได้พุ่งไปถึงด้านหน้าของเขา
เขาก็คงจะเคยฝึกมา แรงในการออกหมัดรุนแรงมาก และก็แม่นมากเช่นเดียวกัน
แต่ผมก็คาดการณ์เอาไว้ได้ตั้งนานแล้ว ตอนที่หมัดของเขากำลังจะกระแทกถึงหน้าของผม ผมกระโดดขึ้นกระโจนไปบนตัวของเขาในทันที
หมัดของเขากระแทกลงบนไหล่ของผม ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาระลอกหนึ่ง แต่ผมไม่มีเวลามาสนใจมากมายขนาดนั้น หลังจากกระโจนเข้าไปก็ใช้มือบีบรัดคอของบัญชาเอาไว้ และยืมความรวดเร็วของการพุ่งเข้าใส่วาร์ปไปถึงข้างลำตัวของเขา
บัญชามือข้างหนึ่งแกะแขนของผมออก อีกข้างหนึ่งก็โจมตีด้วยศอกไปทางด้านหลังในทันที กระแทกไปบนท้องของผมอย่างรุนแรง
ผมอดทนต่อความเจ็บปวดที่มากมายมหาศาล เอามุมหนึ่งที่แหลมคมของฟิล์มกันกระแทกกดลงไปบนตำแหน่งเส้นเลือกใหญ่บริเวณลำคอของบัญชา
“อย่าขยับ ไม่เช่นนั้นผมจะกรีดเส้นเลือดของคุณให้ขาด แล้วก็พวกแก ต่างก็อย่าขยับ ไม่เช่นนั้นเขาต้องตาย” ผมตะโกนใส่ลูกน้องเหล่านั้นของบัญชาที่พุ่งเข้ามาระยะใกล้
บัญชาหยุดการดิ้นรน เห็นได้ชัดว่าได้รู้สึกถึงความแหลมคมของฟิล์มกันกระแทกแล้ว
ลูกน้องของเขาก็หยุดฝีเท้าลงเช่นเดียวกัน จับจ้องผมอย่างจดจ่อด้วยความตื่นเต้น
“หยาง คุณเคยคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาในภายหลังจากการที่ทำแบบนี้หรือเปล่า?” บัญชาเอ่ยถามขึ้นอย่างเยือกเย็น น้ำเสียงไม่มีลนลานและหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
“เหอะๆ ในเมื่อคุณบัญชาจะทำผมถึงตาย ผมก็ได้แต่คิดวิธีหาทางรอดแล้ว”
“อือ คุณนี่มันเจ้าเล่ห์มาก แล้วก็สุดยอดมากจริงๆ แต่คุณอย่าลืม ที่นี่คือเขตอิทธิพลของผม หากผมตายแล้ว คุณกับสาวน้อยคนนั้นต่างก็จะต้องตายอย่างอนาถมาก ลูกน้องของผมจะทรมานพวกคุณเป็นๆจนตาย คุณจินตนาการไม่ถึงว่าเธอจะถูกทรมานจนกลายเป็นสภาพแบบไหน”
“ผมรู้ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำคุณถึงตายคุณบัญชา เพียงแต่ต้องการทางรอดก็เท่านั้น เอาล่ะ อย่าพูดอะไรมาก บอกให้ลูกน้องของคุณแยกย้าย”
บัญชาไม่เอ่ยปาก ลูกน้องของเขาก็ไม่ได้ขยับ
เหวินเจียดูเหมือนจะถูกทำให้ตกใจแย่แล้ว กำลังยืนนิ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร แต่ข้างกายของเธอจุดที่ใกล้มากก็มีลูกน้องของบัญชายืนอยู่สองคน
“ได้ยินหรือเปล่า หลีกทาง ไม่เช่นนั้นผมก็จะกรีดเส้นเลือดของเขา มากสุดครึ่งนาทีเขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย” ผมเพิ่มความดังเสียงพูดใส่ลูกน้องของบัญชา
ลูกน้องสองสามคนนั่นมองหน้ากันและกัน จากนั้นก็มองไปที่บัญชาอีก
ผมเพิ่มแรงที่อยู่ในมือ ให้มุมที่แหลมคมของฟิล์มกันกระแทกทิ่มเข้าไปในผิวหนังของคอบัญชา
“แยกย้าย แยกย้ายให้หมด” บัญชาในที่สุดก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นกลัว
“เหวินเจีย รีบเข้ามา”
เหวินเจียที่แข็งทื่อเป็นนกไม้นี่ถึงได้รู้สึกตัว เดินมาถึงข้างกายของผมอย่างตัวสั่นเบาๆ
ผมให้เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงของผม เปิดกล้องจ่อมาที่ผมและบัญชา
“คุณบัญชา ตอนนี้ผมจะบันทึกวิดีโอ อีกทั้งส่งให้กับเพื่อนที่อยู่ในประเทศ หากผมกับเด็กผู้หญิงคนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่เชียงใหม่ล่ะก็ เพื่อนของผมจะส่งมอบคลิปนี้ให้กับทางตำรวจ ถึงเวลา คุณและทุกคนที่อยู่ที่นี่ คนหนึ่งก็หนีไม่รอด”
“แต่ถ้าพวกเราไม่ได้รับความบาดเจ็บเสียหายอะไรแม้แต่น้อยล่ะก็ คุณวางใจ ผมไม่มีทางหาเรื่องใส่ตัวส่งมอบคลิปวิดีโอให้กับตำรวจ ไม่มีผลดีใดๆกับผม รวมทั้งคลิปสองตอนนั้นในก่อนหน้านี้ผมก็จะลบทิ้ง บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเรายกเลิกทั้งหมด ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”
คอมเม้นต์