ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่41 โดนเล่นงาน
ไม่รอให้ผมตั้งตัวทัน ตำรวจสองนายก็เดินเข้ามา จับไหล่ของผมไว้ซ้ายคนขวาคน ตำรวจที่หงุดหงิดคนนั้นเอากุญแจมือออกมา ผมดิ้นอย่างไม่รู้ตัว “ปล่อยผมนะ ผมเดินเองได้ พวกคุณไม่มีหลักฐานจะใส่กุญแจมือตามใจชอบไม่ได้นะ”
“กดมันไว้”
ตำรวจที่ถือกุญแจมือจับคอเสื้อด้านหลังของผมไว้ ตำรวจอีกสองนายจับแขนของผมแน่นออกแรงกดลงด้านล่าง ขณะเดียวกันก็เหยียบขาไว้ กดผมไว้กับพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นก็เอามือไพล่หลังใส่กุญแจมือ
ผมอดกลั้นความโมโหไว้ไม่ดิ้นอีก และไม่อธิบายใดๆ เพราะอธิบายตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์
ผมเพียงแค่หันไปมองชายหญิงสองคู่ระยำนั้น
หลินโล่สุ่ยยืนขึ้น อ้าปากมองผมด้วยความตกใจ ราวกับไม่คิดว่าผมจะถูกจับ
ไป๋เวยสติหลุดไปสักพัก สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นผิดหวัง สุดท้ายก็ส่ายหน้าหัวเราะเยาะเย้ย
และกงเจิ้งเหวินกับเฉาเหวินหวย ดูแคลนมองผมแบบเดียวกัน แววตาเต็มไปด้วยความสะใจและเลศนัย
เย็ดแม่!
โดนเล่นอีกแล้ว
กงเจิ้งเหวินจะต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะตำรวจแล้วแน่นอน
และเขาก็ไม่ให้ตำรวจจับผมเร็ว แต่เลือกตอนที่ผมเจอกับหลินโล่สุ่ย แล้วก็เรียกไป๋เวยมาด้วย ให้ผมเสียหน้าต่อหน้าพวกเธอให้พวกเขาเยาะเย้ยกัน
เขาโหดเหี้ยมมาก!
ถ้ากงเจิ้งเหวินให้เงินถึง สามารถทำให้ขาวเป็นดำได้ ผมก็หนีไม่พ้นถูกตัดสินจำคุก
ถ้าไม่ผิดคาด บัญชาและลูกน้องบางส่วนของมันถูกจับอยู่ที่สถานีตำรวจแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่ไม่เห็นคนของมันอยู่บริเวณโรงแรม
นี่กงเจิ้งเหวินจะเล่นงานผมและบัญชาพร้อมกัน แม้ไม่ถึงขึ้นเอาชีวิตผม แต่อย่างน้อยก็ต้องติดคุกหลายปี
ผมไม่ขัดขืนใดๆ ให้ตำรวจลากผมขึ้นมา ใส่เข้าไปในรถตำรวจ จากนั้นผมก็มองใบหน้าที่ผิดหวังและเย็นชาของไป๋เวยและหลินโล่สุ่ย และมองใบหน้าที่สะใจและคิดร้ายของกงเจิ้งเหวินและเฉาเหวินหวยผ่านหน้าต่าง จากนั้นก็จดจำมันเข้าไปในหัวอย่างแม่นยำ
ตำรวจผ่าฝูงชน และผ่าถนนที่เต็มไปด้วยน้ำสายหมอกและความสนุกสนาน
หลังจากนั้นไม่นาน ผมถูกค้นเอาของทุกอย่างออกจากตัวจนหมดเกลี้ยง ปลดกุญแจมือออก จากนั้นก็ถูกยัดเข้าไปในลูกกรงเป็นแถวๆ ด้านในเต็มไปด้วยผู้คนที่นั่งกันเต็มไปหมด
เมื่อกี๊ผมมองคนในห้องทั้งหมด พวกเขาต่างพากันยืนขึ้นมา แล้วล้อมผมไว้ตรงกลางด้วยสีหน้าดุร้าย
มีประมาณสิบกว่าคน ส่วนใหญ่จะหน้าตาคุ้นๆ เป็นคนของบัญชาทั้งหมด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บัญชาก็อยู่ในนั้น
มองไปที่เขาและลูกน้องที่โหดเหี้ยมที่กำลังล้อมผมไว้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น ถ้าไม่ใช่ไอ้บัญชาหน้าโง่รับเงินของเฉาเหวินหวยมา แล้วไปเบ่งอำนาจที่BTT ผมจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้มั้ย?
เมื่อเทียบกันแล้วใบหน้าดุดันกว่า ใบหน้าของบัญชาดูนิ่งสงบอย่างเห็นได้ชัด กำลังมองผมอย่างขมวดคิ้วสงสัย
“คุณบัญชา ตอนนี้สะใจคุณแล้วใช่มั้ย” ผมมองเขาด้วยสายตาเย็นชาแล้วกล่าว
บัญชาหรี่ตา “ไม่ใช่แกเหรอที่เอาคลิปให้ตำรวจ ร้องเรียนฉันข่มขู่รีดไถ?ทำไมแกก็ถูกจับเข้ามาล่ะ?”
“เหอะ แกมันหน้าโง่จริงๆ ฉันถูกจับเข้ามาแล้ว ยังคิดว่าฉันเป็นคนร้องเรียนอีกเหรอ?”
“แกว่าใครหน้าโง่?” ลูกน้องที่อยู่ข้างๆเขาเข้ามาใช้หน้าอกดันผมด้วยความเกรี้ยวกราด
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้หัวโขกไปที่จมูกของเขาด้วยความรุนแรงทันที
เขาว้ากเจ็บปวดออกมา คนอื่นได้สติก็ต่างพากันด่าผมพุ่งเข้ามาที่ผม
“หยุดเดี๋ยวนี้” บัญชาตะโกนออกมาทันใด
ลูกน้องของบัญชามองเขาอย่างไม่เต็มใจ สุดท้ายก็จ้องผมอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พลางถอยไปข้างหลังช้าๆ
“หยาง แกพูดมาว่าแกเป็นคนร้องเรียนหรือเปล่า?”
ผมไม่ตอบแต่กลับถามกลับไปว่า “ตำรวจใช้เหตุผลข่มขู่และรีดไถBTTกรุ๊ปในการจับแกหรือเปล่า?”
“BTT?” บัญชาชะงัก “ฉันไม่ได้รีดไถBTTนะ ก็แค่คุยกับเฉาเหวินหวยเพื่อขอเพิ่มอีกสองล้านบาทก็เท่านั้น แต่ตอนที่ตำรวจมาตจับไม่ได้แจ้งเหตุผล แล้วพาพวกฉันมาที่นี่โดยตรง”
“งั้นก็ถูกแล้วล่ะ ฉันถามแกต่อ แกรู้มั้ยว่าตำรวจใช้เหตุผลอะไรในการจับฉัน?”
“ไม่รู้”
“ร่วมกับแก๊งอาชญากรรมกระทำการข่มขู่อีกทั้งรีดไถBTTกรุ๊ป ความผิดของแกก็เหมือนกัน ฉันไม่ได้ร้องเรียนพวกแกรีดไถเฉาเหวินหวยเลยแม้แต่น้อย แต่มีคนใส่ร้ายฉันกับแกว่ารีดไถBTTกรุ๊ป”
บัญชาชะงัก แล้วถามต่ออย่างไม่พอใจ “ใคร?เฉาเหวินหวย?”
“มันรวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ตัวการหลักคือกงเจิ้งเหวิน คนที่ออกเงินให้แกหาเรื่องฉัน มีตำรวจของเชียงใหม่ของพวกแกรับเงินจากมัน มิเช่นนั้นตำรวจไม่มีหลักฐานจะไม่กล้าจับฉัน เพราะฉันถือว่าเป็นนักธุรกิจต่างประเทศคนหนึ่ง”
“ที่ผู้เสียหายไม่ใช่เฉาเหวินหวย ก็เป็นเพราะไม่อยากให้เกี่ยวพันกับเรื่องบ้าๆเหล่านั้นที่เฉาเหวินหวยสั่งให้แกทำยังไงล่ะ ดังนั้นจึงพูดเป็นBTT เพราะวันนั้นแกไปBTTแล้วพูดอะไรที่ไม่ควรพูดจริงๆ แล้ว พวกมันก็ไม่ต้องการให้BTTมาเป็นพยาน ไม่ต้องการหลักฐานที่แน่ชัดก็สามารถแจ้งข้อหาพวกเราได้แล้ว”
เมื่อฟังคำพูดของผมจบ บัญชาขมวดคิ้วแล้วคิดไปสักพัก ไม่นานก็ตะโกนด่าอย่างเกรี้ยวกราดออกมา
ก่อนที่จะมาสถานีตำรวจ ฉันได้ไล่เรียงลำดับเรื่องจนชัดเจนแล้ว และรู้แล้วด้วยว่าตัวเองต้องเจอกับอะไร
ติดคุก แน่นอน
ตำรวจไม่มีทางให้ฉันติดต่อกับโลกภายนอกได้ มากสุดก็แค่มีทนายอ่อนหัดมาช่วยทางด้านกฎหมาย พวกเขาจะยึดเอาหลักฐานที่ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานอะไรเลยตอนที่ผมและบัญชาเจอกันที่BTT จากนั้นก็จบคดีให้เร็วที่สุด ตัดสินคดีอย่างเงียบๆ
กงเจิ้งเหวินอาจจะให้คนปลอมเป็นบัญชาโทรหาคนของBTT แสร้งทำว่ารีดไถ แล้วเรียกสามล้านบาท เพราะในมือของบัญชามีเงินรีดไถก้อนนั้นจากเฉาเหวินหวยจริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้คดีนี้ถูกเปิดโปงอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่พวกมันก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะมาปิดความสงสัยของสาธารณชนได้แล้ว
นอกจากคนของBTTออกมาชี้แจง ว่าพวกเขาไม่ได้ถูกรีดไถแต่อย่างใด แต่คนของBTTไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ บัญชาได้ไปที่BTTและพูดคำพูดประมาณนั้นจริง ต่อให้สันติสุขรู้ ด้วยความสามารถของเขาก็ช่วยฉันไม่ได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นเขากับฉันก็รู้จักกันผิวเผิน อาจจะไม่ช่วยฉัน
หรือ ไป๋เวยไปหากงสุล เพียงแค่กงสุลเข้ามา ต่อให้ตำรวจกล้าขนาดไหนก็ไม่กล้าแจ้งข้อหาฉัน
แต่เธอน่าจะไม่ทำแบบนี้ เพราะตอนที่ผมถูกพาขึ้นรถตำรวจ เห็นความผิดหวังอย่างมากบนใบหน้าของเธอ
เธอมันปัญญาอ่อน น่าจะคิดว่าผมสมรู้ร่วมคิดกับบัญชาไปด้วย
ดังนั้น ครั้งนี้ผมคิดว่าน่าจะหนีไม่รอดแล้วล่ะ
บัญชาตะโกนด่าดังจนตำรวจมา เอากระบองมาเคาะกรงเหล็กดังปังๆ แล้วชี้บัญชาและตวาดออกมา
หลังจากที่สงบสติอารมณ์แล้ว บัญชาเข้ามาใกล้ๆผมเพื่อปรึกษาแผนการ แล้วยังบอกว่าระหว่างผมกับเขาไม่มีอะไรติดค้าง ตั้งแต่นี้ไปทุกคนจะเป็นพี่น้องกันแล้ว
ผมคิดในใจ พี่น้องเชี่ยไรล่ะ อย่างแกไอ้หน้าโง่โลภมากจนไม่รู้จักพอ คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะเป็นพี่น้องกับแกได้
ผ่านไปได้สักพัก ตำรวจเปิดประตูเรียกผมออกไป พาผมไปห้องสอบสวน กดผมลงไปนั่งที่โต๊ะสอบแล้วล็อกไว้
แต่พวกเขาไม่ได้ถามอะไร แต่ยืนรออย่างสงบ
ผ่านไปสักพัก วัยรุ่นผู้ชายที่หล่อเหล่าสวมชุดสูทค่อยๆเดินเข้ามา
ผมตาลุกโต คนที่มาคือกงเจิ้งเหวิน
หลังจากที่ตำรวจปิดประตู หงเจิ้งเหวินมองผมอย่างเยาะเย้ย แล้วถาม “ฟางหยาง รสชาตินี้เป็นไง?”
คอมเม้นต์