ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่49 พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 49 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

จากนั้นก็ปล่อยเธอ เธอสะบัดมือแล้วตบที่หน้าผมแรงๆ

ผมจับข้อมือของเธอ ยิ้มอ่อนๆให้เธอ

เธอดิ้นข้อมืออย่างเกรี้ยวกราด หันหน้าจะหนีออกด้านนอก

“ประธานไป๋ เมื่อกี๊ลืมถามอะไรคุณไป ตอนนี้ผมยังถือเป็นพนักงานของคุณอยู่มั้ย?”

“คุณถูกไล่ออก!”

“เหอะๆ ประธานไป๋คุณต้องคิดให้ดีๆนะ ถ้าผมถูกไล่ออก โครงการBTTอย่าคิดว่าจะได้อีกเลย ผมจะทำมันพังภายในเศษเสี้ยววินาที”

ไป๋เวยหันหน้ามาขณะอยู่ด้านนอก “กล้าเหรอ?”

“ทำไมผมจะไม่กล้า”

ไป๋เวยไม่พูดอะไร จ้องมาที่ผมด้วยความเคียดแค้น

“ประธานไป๋ ผมไม่ได้ปล้ำคุณสักหน่อย เพียงแต่อยากจีบคุณก็เท่านั้น จำเป็นต้องไล่ผมออกเลยเหรอ คุณอกตัญญูขนาดนี้แล้ว ผมทำลายโครงการนี้แล้วยังไง?ไม่ให้คุณสิ้นเนื้อประดาตัวก็ไม่ทำให้คุณผิดหวังแล้ว”

“ได้ ฉันจะดูว่าคุณจะจีบฉันยังไง”

เมื่อไป๋เวยพูดจบ ดูแคลนออกมาแล้วหันหลังจากไป

ผมหัวเราะ แล้วนึกย้อนกลับถึงไปถึงการหายใจของเธอเมื่อกี๊ แล้วก็ริมฝีปากทั้งสองของเธอ

เธอโง่มาก แต่คงไม่โง่ถึงขั้นแยกแยะไม่ออก

เพียงแค่เธอไปถามอนุรักษ์หรือสันติสุข แล้วมารวมกับคำพูดที่ผมเพิ่งบอกเธอไปเมื่อกี๊ ก็น่าจะแยกออกว่าเรื่องนี้มันน่าสงสัย ไม่ขอให้เธอเชื่อผมร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่ขอให้เธอสงสัยกงเจิ้งเหวิน เพียงแค่เธอระมัดระวังตัวต่อกงเจิ้งเหวินก็พอแล้ว

จากนั้น ผมก็จะจีบเธอให้สำเร็จ ให้กงเจิ้งเหวินโมโห ให้มันทนไม่ไหวแต่กลับทำอะไรไม่ได้

นอกจากนี้ ผมจะยังคงสืบเกี่ยวกับกงเจิ้งเหวิน หาโอกาสฆ่ามัน

ส่วนไป๋เวย……มีคนเคยพูดประโยคนี้ ล้างแค้นสักคน วิธีที่ดีที่สุดคือให้เธอรักคุณ จากนั้นก็ทิ้งเธอไปอย่างไม่แยแส

นี่เป็นอีกเป้าหมายของผม ในเมื่อเธอเนรคุณ ในเมื่อเธอเห็นคนกำลังลำบากแต่ไม่ช่วย ผมก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธแล้ว

จนกระทั่งวันนี้ ในตอนกลางคืนผมยังคงฝันเห็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเมื่อสามปีก่อนอยู่บ่อยๆ ฝันเห็นจดหมายของหลินโล่สุ่ย ฝันเห็นเธอจูงมือเฉาเหวินหวยขึ้นรถออดี้ไป

ตอนนี้ ผมก็ไม่มีทางที่จะลืมการทรมานทางจิตใจที่เจ็บปวดนั้นในโรงพักได้เลย

ไม่ว่าจะเป็นความแค้นใหม่หรือความแค้นเก่า ผมจะเช็กบัญชีให้หมด

หลังจากที่ไป๋เวยเดินออกไปแล้ว ผมได้ปิดประตูลง เปิดทีวีแล้วเลือกช่องไปเรื่อยๆ จากนั้นก็หยิบมือถือไปชาร์จแบต

หลายวันนี้ที่อยู่โรงพัก มือถือปิดเครื่องไว้ตลอดเวลา เมื่อเปิดก็ได้รับข้อความเตือนติดๆกัน เป็นเบอร์โทรที่โทรเข้ามาแล้วไม่ติดในช่วงหลายวันนี้ทั้งหมด

คนที่โทรมาหามากที่สุดคือโล๋อีเจิ้ง คนที่สองคือตู้หมิงเฉียง จากนั้นก็เหวินเจีย

เพราะโล๋อีเจิ้งและตู้หมิงเฉียงหาผมไม่เจอ แต่เหวินเจีย อาจจะกลัวว่าผมจะเกิดปัญหา

หลังจากที่เปิดวีแชทแล้ว ผมได้เห็นข้อความสิบกว่าฉบับที่เหวินเจียส่งมา นานที่สุดก็เมื่อสามวันก่อน ถามผมว่าผมกับไป๋เวยพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว ถามว่าไอ้พวกนักเลงพวกนั้นมาหาเรื่องผมมั้ย

จากนั้นหลายๆข้อความล้วนถามผมว่าทำไมถึงไม่ตอบข้อความ ทำไมถึงปิดเครื่อง เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า

ฉบับล่าสุดคือบ่ายวันนี้ เขียนว่า ‘พระเจ้า คุณต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้วแน่ๆเลย คุณสบายใจได้นะ ฉันจะจองตั๋วเดี๋ยวนี้ พอไปถึงเชียงใหม่จะแจ้งความให้ตำรวจช่วยคุณ อ้อ ฉันโทรหากงสุลให้พวกเขาช่วยคุณก่อน คุณจะตายไม่ได้นะ ต้องรอฉันนะ’

เมื่อเห็นข้อความของเหวินเจีย ผมก็รู้สึกสับสนมาก อบอุ่นมาก ซาบซึ้ง และไม่อะไรไม่ได้กับรู้สึกผิด

ผมสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งที่มีในใจของเธอ แต่ผมกลับไม่สามารถมอบความสุขให้เธอได้

เพราะเธอจิตใจดี และยังบริสุทธิ์ไร้ที่ติขนาดนั้น

แต่ผมเป็นเพียงไอ้สถุนไร้ยางอาย เลวแล้วยังเป็นหมาเห่าใบตองแห้งที่เคยติดคุกมาก่อนด้วย

วันแรกที่เธอรู้จักผม ก็ถูกนักเลงเป็นร้อยล้อม แล้วชีวิตยังเกือบอนาถอีกด้วย

จนกระทั่งวันนี้ผมยังจำคำพูดในคืนนั้นที่บัญชาพูดไว้ได้ เขาพูดว่าจะลักพาตัวผมและเหวินเจีย เอาเธอให้มันจากนั้นค่อยให้ลูกน้องเอาต่อ สุดท้ายผูกเธอกับผมเข้าด้วยกันแล้วโยนลงแม่น้ำไป

ตอนนี้ผมได้เป็นปฏิปักษ์กับกงเจิ้งเหวินอีก อนาคตกำหนดไว้แล้วว่าไม่สงบแน่นอน

ผมไม่อยากให้เธอต้องวิตกกังวล ไม่อยากเห็นรอยยิ้มที่สดใสไร้มลทินต้องมีความกังวลและระทมทุกข์

ดังนั้นต่อไปผมจะไม่มีทางติดต่อเธออีกแล้ว

แต่เพื่อให้เธอสบายใจ ผมจะโทรหาเธอเป็นครั้งสุดท้าย

ช่วงกลางคืนห้าทุ่มกว่า มีเสียงเรียกหลายเสียงจึงจะมีคนรับ ปลายทางมีเสียงของเหวินเจียประหลาดใจแค่กลับเก็บความเกียจคร้านไว้ไม่ได้ “ฟางหยาง?นั่นคุณเหรอ?”

“อืม ผมเอง”

“คุณจริงๆเหรอ อ้อ ฉันหาตั๋วของวันนี้ไม่ได้ ทำได้เพียงจองของวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันจะไปช่วยคุณ คุณรออีกหน่อยได้มั้ย?ขอโทษนะ โทษฉันที่ไม่จองตั๋วให้เร็วกว่านี้”

ผมทั้งอยากยิ้มทั้งซาบซึ้ง ยิ้มพลางกล่าว “เหวินเจีย ไม่ต้องมาช่วยผมหรอก ตอนนี้ผมไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่งั้นจะโทรหาคุณได้ไงล่ะ”

“หา?” เหวินเจียเสียงปลายทางเหมือนจะชะงักไป “เออเนอะ คุณโทรศัพท์ได้แล้ว งั้นก็ต้อง……เฮ้อ เหมือนฉันจะโง่เลยนะเนี่ย อย่าหัวเราะฉันนะ ความจริงฉันก็แค่หลับไปแล้ว จู่ๆก็ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ของคุณรบกวน ยังตื่นไม่ดีก็เท่านั้น”

ผมอดกลั้นไม่หัวเราะ แล้วพยายามกล่าวอย่างจริงจัง “สบายใจได้ ไม่หัวเราะคุณหรอก”

“อ้อฟางหยาง เมื่อหลายวันก่อนเกิดอะไรขึ้น?ทำไมปิดมือถือตลอดเลย?คุณถูกไอ้พวกนั้นลักพาตัวไปหรือเปล่า แล้ว…… พวกมันคงไม่ไอนั่นคุณแล้วหรอกนะ?”

“ไอไหน?”

“ก็ไอนั่น…..คุณรู้มั้ยว่าBLคืออะไร?ก็คือการที่ผู้ชายสองคนทำ……ทำไอนั่นอะ”

เมื่อได้ยินประโยคหลังของเธอ ผมก็เหงื่อไหลออกมาทันที

เหมือนเหวินเจียไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น เรื่องที่ขยะแขยงและสกปรกขนาดนี้เธอยังเชื่อมโยงกันได้

“ฟางหยาง ทำไมไม่พูดอะไรแล้วล่ะ คงไม่ใช่ว่าฉันเดาถูกหรอกนะ?”

“ถูกบ้าไรล่ะ” ผมกล่าวอย่างไม่พอใจ “ขยะแขยงขนาดนี้ยังคิดได้นะ ผมไม่ได้ถูกไอ้นั่นพาไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกัน ตอนนี้ลูกพี่ของมันกลัวผมมาก อยากที่จะคุกเข่ารับผิดต่อหน้าผมแทบไม่ทัน”

“ขนาดนั้น?ขี้โม้เปล่า คืนนั้นถูกเค้าไล่เสียขนาดนั้น คุณชนะพวกมันที่เยอะขนาดนั้นได้เหรอ?”

“ไม่ต้องต่อสู้สิ ผมมีเพื่อนที่เจ๋งมากคนหนึ่ง เขาเรียกคนที่เจ๋งมากอีกคนที่เป็นคนเชียงใหม่มา สุดท้ายบัญชาก็ขี้ขลาด เมื่อกี๊ตอนที่ไปกินข้าวมันยังขอโทษผมไม่หยุดเลย อีกอย่าง ช่วงหลายวันที่ผิดติดต่อไม่ได้เพียงแต่ขึ้นโรงพักก็เท่านั้น ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”

“จริงดิ?อ้อ ทำไมคุณต้องขึ้นโรงพักเหรอ?แล้วก็เพื่อนอีกสองคนนั้นของคุณเจ๋งขนาดไหนกัน?รีบๆว่ามา ฉันจะดูว่าจะเอาไปเขียนในนิยายของฉันได้มั้ย”

“พูดแล้วยาว ไว้มีเวลาแล้วจะเล่าให้คุณฟังนะ”

“อืม ฉันรอคุณนะ เมื่อไหร่กลับประเทศเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ ผมก็ลังเล หลับตาลงแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงได้กล่าวอย่างสงบ “เหวินเจีย ช่วงนี้ผมอาจจะไม่กลับไปแล้ว ที่นี่มีเพื่อน แล้วก็ต่อจากนี้ไปอาจจะยุ่งมาก และอาจจะเปลี่ยนเบอร์โทร ถ้าคุณส่งวีแชทมาแล้วผมไม่ตอบ หรือตอนที่โทรหาผมไม่ติด ไม่ต้องกังวลนะ ผมไม่มีทางเป็นอะไร น่าจะแค่กำลังวุ่นๆก็เท่านั้น”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด