ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 65 เบิกเงินล่วงหน้าอีกหนึ่งหมื่น
ผมย้ายกระเป๋ามาไว้ที่ห้องนั่งเล่น ผมหยิบกุญแจออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะน้ำชาพร้อมกับเงินห้าพันหยวนและพูด “อาเจ๋อ นี่คือเงินค่าเช่าห้องที่ผมค้างคุณไว้ และยังมีเงินที่คุณโอนให้ผมตอนอยู่ในคุกด้วย……”
“อาหยางอย่าทำแบบนี้ พวกเราเป็นเพื่อนรักกันนะ”สวีเจ๋อรีบวิ่งเข้ามา หยิบเงินแล้วยัดใส่มือของผม
ผมยัดเงินให้เขาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้จะเป็นพี่น้องแท้ๆกัน แต่เรื่องเงินก็ไม่เข้าใครออกใคร เมื่อก่อนผมยากจนก็มีแต่คุณค่อยช่วยเหลือผม ตอนนี้ผมเริ่มหาเงินด้วยตัวเองได้แล้ว เงินส่วนนี้ยังไงก็ต้องคืน มิฉะนั้นผมคงเกรงใจและไม่กล้าเรียกคุณออกมาดื่มเหล้าด้วยกัน เก็บเงินนี้ไว้ ถ้าผมตกอับอีกครั้งจริงๆ ถ้าผมต้องการให้คุณช่วยเหลือ ผมจะได้ไม่ต้องเกรงใจ
“โอเค ผมไปก่อนนะ ถ้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยชวนคุณออกไปดื่มเหล้าด้วยกัน”
เมื่อพูดจบ ผมยิ้มและโบกมือให้เขากับหลินจิ้ง ลากกระเป๋าเดินทางแล้วเดินออกไป
“อาหยาง……”
“ไม่ต้องไปส่งผมแล้ว สัมภาระแค่นี้ผมถือไหวอยู่แล้ว ผู้ชายอย่างพวกเราไม่ชอบบอกลาแบบนี้ ไม่อยากเสแสร้ง ”
ผมโบกมือและเดินออกไป และปิดประตูให้พวกเขาด้วย ผมลากกระเป๋าเดินทางและเดินทางไปยังลิฟต์โดยไม่หันหน้ากลับไปมองพวกเขาอีกเลย
สวีเจ๋อเปิดประตูออก วิ่งออกมาช่วยผมลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นเขาก็ยืนอยู่นอกลิฟต์ พยักหน้าให้ผมอย่าเคร่งขรึม “ถ้าคุณมีเวลาอย่าลืมมาทานอาหารด้วยกัน คุณน่าจะรู้ ฉันกับหลินจิ้งชอบอาหารที่คุณทำมากๆ”
“ได้”ผมยิ้มให้เขา
ขณะที่ประตูลิฟต์ปิดตัวลง ผมมองเห็นเขาก้มศีรษะลง
เมื่อเดินออกมาจากคอนโด ผมไม่ได้เรียกรถแท็กซี่ทันที แต่หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดแล้วสูบบุหรี่ จากนั้นผมก็โทรหาโล๋อีเจิ้ง เวลานี้เขาอาจจะยังไม่ได้เริ่มทำงาน
“พี่หยาง มีธุระอะไรเหรอ?”โล๋อีเจิ้งรับสายทันที และเสียงของเขาก็ดังขึ้น
“ไม่มีอะไร ผมกลับมาที่เซิ่งไห่แล้ว”
“อ้อ คุณกลับมาแล้วเหรอ? ทำไมคุณไม่แจ้งฉันก่อน ฉันจะได้ไปรับคุณ”
“ไม่เป็นไร ผมอยากถามว่าคืนนี้ คุณจะพาผู้หญิงกลับมาที่ห้องของคุณไหม?”
“วันไหนที่ฉันจะไม่มีผู้หญิง……ไม่ใช่สิ พี่หยาง ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้? คุณจะมาอยู่กับฉันใช่ไหม? ฉันจะได้ไล่นางแหวกแว้นออกไป แม่งเอ๊ย เธอมาอยู่กับฉันตั้งสามวันแล้ว ฉันมีอะไรกับเธอเพียงครั้งเดียว เธอจะจับฉันไม่ปล่อยหรือไง?”
ผมรู้สึกละอายใจ เขาสามารถจีบนางแหวกแว้นได้ รสนิยมของเขาพิเศษจริงๆ
“พี่หยาง คุณอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปรับคุณตอนนี้เลย พอดีสองสามวันนี้ผู้จัดการของพวกเราเอากุญแจรถยนต์มาให้ฉัน เพื่อให้ฉันค่อยรับส่งลูกค้า รถยนต์Audi A8 มันยอดเยี่ยมมากๆ ฉันจะขับรถคันนี้พาคุณไปจีบสาวๆ”
“ไปให้พ้น อย่ามาพูดรถยนต์Audi A8ต่อหน้าผม แค่ได้ยินผมก็โกรธแล้ว”
“เป็นอะไรเหรอพี่หยาง? คุณโดนรถยนต์ Audi A8ชนเหรอ? แล้วใครเป็นคนขับรถยนต์ชนคุณ? เดี๋ยวฉันจะไปฆ่ามัน”
ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “อย่าเอาแต่คิดที่จะไปทำร้ายคนอื่นทั้งวันได้ไหม? ผมไม่ได้ถูกรถชน เหตุผลที่ผมไม่ชอบรถยนต์ยี่ห้อนี้……ผมก็เคยบอกคุณไปแล้วไง แฟนเก่าของผม เธอบอกเลิกผมและไปกับผู้ชายคนหนึ่งที่ขับรถยนต์ Audi A8”
“อ้อ……ฉันนึกออกแล้ว ดูเหมือนจะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย”
“พอได้แล้วๆ ผมไม่อยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณ ผมจะหาโรงแรมและเข้าพักไปก่อน ผมอาจจะไม่มีเวลาไปดื่มเหล้ากับคุณ ผมต้องรีบหาที่พัก”
“พี่หยาง คุณทำแบบนี้ไม่ได้ คุณมาอยู่กับฉันเถอะ คุณจะเสียเงินค่าโรงแรมทำไม ฉันจะโทรหานางแหวกแว้นคนนั้้นทันทีและให้เธอไสหัวออกไป”
“ผมไม่ไป บนเตียงของคุณไม่รู้มีน้ำหล่อลื่นของผู้หญิงตั้งกี่คนไหลลงไปอยู่ในนั้น ผมพักโรงแรมแค่คืนเดียว ใช้เงินไม่เยอะหรอก แค่นี้แหละ ผมวางสายก่อน”
“เฮ้อ พี่หยาง คุณมีเงินพอไหม?”
“พอ”
ผมขี้เกียจฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระ ก็เลยวางสายโทรศัพท์ทันที จากนั้นก็หาที่พักที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงและมีราคาที่เหมาะสม และขอห้องที่มีคอมพิวเตอร์
ผมนั่งแท็กซี่มาถึงโรงแรม หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็เปิดคอมพิวเตอร์และหาคอนโดปล่อยเช่าทันที
ราคาคอนโดในเซิ่งไห่สูงมากๆจนคนส่วนใหญ่หาเงินตลอดชีวิตและไม่กินไม่ใช้ก็ซื้อบ้านไม่ไหว และค่าเช่าก็สูงมากๆเหมือนกัน
ผมหาคอนโดนานมาก ในที่สุดก็หาคอนโดที่ตรงตามสามเงื่อนไขและราคาที่ผมรับได้ รอพรุ่งนี้ไปดูห้องแล้วค่อยตัดสินใจ
แต่ตอนนี้ ผมต้องหาเงินให้ได้ก่อน
หลังจากที่ผมให้เงินห้าพันหยวนกับสวีเจ๋อ ตอนนี้ผมเหลือเงินแค่สองพันกว่าหยวน จ่ายค่ามัดจำยังไม่พอเลย
หลังจากจดจำข้อมูลของคอนโด ผมก็โทรศัพท์หาไป๋เวย และเธอคือช่องทางเดียวที่ผมสามารถขอเงินได้
เธอรับโทรศัพท์ทันที ผมกล่าวคำทักทาย “ประธานไป๋ คุณยังไม่นอนใช่ไหม”
“ยัง คุณมีอะไรเหรอ?”ไป๋เวยพูดด้วยน้ำเสียงเฉื่อยๆ
“ไม่มีอะไร ผมแค่เป็นห่วงคุณ ประจำเดือนของคุณหมดไปหรือยัง?”
“มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมเป็นห่วงคุณ”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
“กลับมาถึงเซิ่งไห่แล้วเป็นยังไงบ้าง? คุณอยู่คนเดียวหรือเปล่า? ทำอาหารเป็นไหม? ตอนเย็นคุณทานอะไรไป……”
“ฉันพูดแล้วไง ว่าไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
ผมหัวเราะด้วยความเขินอาย “ก็ได้ คุณต้องดูแลตัวเองด้วย ที่ผมโทรมาหาคุณจริงๆแล้วยังมีอีกเรื่อง คือ……คุณเคยพูดว่าโปรเจ็กต์ของBTTมีค่าคอมมิชชั่นอย่างน้อยห้าหมื่นใช่ไหม?”
“อืม มีอะไรเหรอ? คุณอยากจะเบิกเงินล่วงหน้าอีกแล้วใช่ไหม?”
“ผมจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ผมเคยเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้วสี่หมื่นหยวน คุณช่วยเบิกเงินล่วงหน้าให้ผมอีกหนึ่งหมื่นหยวนได้ไหม รวมกันก็เป็นเงินห้าหมื่นพอดี”
จู่ๆน้ำเสียงของไป๋เวยก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “ฟางหยาง คุณเบิกเงินล่วงหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เงินที่คุณเบิกล่วงหน้าไปสี่หมื่นยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลย เงินมันหายไปไหนหมด? คุณใช้จ่ายไปกับอะไร? คุณเอาเงินไปเล่นพนันแล้วแพ้ใช่ไหม?”
ผมรู้สึกละอายใจ “คุณคิดไปไกลแล้ว ผมไม่ได้ไปเล่นการพนัน ตอนนี้ผมไม่มีที่พักและไม่มีเงินไปเช่าคอนโด”
“คุณไม่มีที่พัก? ทำไม? แล้วเมื่อก่อนคุณพักอยู่ที่ไหน?”
“ทำไมนะเหรอ ก็เพราะผมไม่ได้มีเงินซื้อคอนโดเหมือนคุณไง เมื่อก่อนผมพักอยู่คอนโดของเพื่อน ตอนนี้ผมย้ายออกมาแล้วและผมก็ไม่มีที่ไป ผมก็เลยต้องมาพักที่โรงแรม”
“ทำไมคุณต้องยายออกมาด้วย? ทะเลาะกันเพื่อนเหรอ?”
“ทำไมคุณถึงพูดมากจังเลย”
“แล้วเงินที่คุณเบิกล่วงหน้าไปสี่หมื่นหยวนละ? คุณใช้หมดแล้วเหรอ? คุณใช้จ่ายไปกับอะไร?”
ผมเริ่มรู้สึกรำคาญ “ทำไมคุณถึงถามเหมือนยายแก่จังเลย บอกมาตามตรง ผมจะเบิกล่วงหน้าอีกหนึ่งหมื่น คุณจะให้ไหม”
ไป๋เวยนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดอย่างหนักแน่นว่า “เบิกเงินล่วงหน้าได้ แต่ฉันอยากรู้ว่าเงินสี่หมื่นหยวนนั้น คุณใช้ไปกับอะไร ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณใช้เงินไปกับเรื่องผิดกฎหมายหรือเปล่า”
ผมอยากจะด่าเธอและวางสายไป แต่คิดได้ว่าตัวเองกำลังจะจนตรอกและนอนข้างถนน ดังนั้นผมก็เลยระงับความโกรธของตัวเองทันที
“เงินสี่หมื่นนั้น ผมคืนให้หลินโล่สุ่ยแล้ว ตอนที่พวกเราเลิกกัน เธอได้โอนเงินมาให้ผมห้าหมื่น”ผมหายใจลึกๆเพื่อให้ตัวเองสงบลง และพูดเบาๆ
ไป๋เวยนิ่งเงียบไปอีกครั้ง ผ่านไปสักพักเธอก็พูดว่า “คุณต้องการเงินสดหรือเงินโอน?เงินหนึ่งหมื่นพอไหม?”
“หนึ่งหมื่นพอแล้ว ผมไม่เอาเงินสด โอนผ่านธนาคารออนไลน์หรือโอนทางวีแชท อาลีเพย์ก็ได้”
“ได้ ฉันจะโอนให้คุณตอนนี้เลย”
“ขอบคุณ”เมื่อพูดจบ ผมก็วางสายโทรศัพท์ทันที
เวลาผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งนาที ในวีแชทก็แจ้งว่าได้รับเงินโอนจากไป๋เวยหนึ่งหมื่นหยวน
ผมโล่งใจทันที มีเงินก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก
คอมเม้นต์