ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 89 หนอนบ่อนไส้
โดยปกติแล้ว ในฐานะบุคคลที่สองของผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ของBTTกรุ๊ป โจงคังหนิงจะต้องสืบสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถึงจะสืบไม่ได้อะไร ก็ต้องพอรับรู้อะไรมาบ้าง คงไม่ถึงกับไม่รู้อะไรเลย ไม่ถึงกับหลังจากที่ได้ยินไป๋เวยบอกว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย
ดูจากมุมมองของโจงคังหนิง ในฐานะที่เป็นผู้จัดการแผนกกิจการต่างประเทศ เขากลัวว่าโปรเจกต์มีปัญหาเลยตื่นเต้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยแปลกเท่าไร แต่เมื่อรวมกับการคาดเดาก่อนหน้านั้นของผมแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันมีปัญหามาก
หนอนบ่อนไส้ต้องเป็นเขาแน่ๆ
แต่จะต้องหาหลักฐานออกมาพิสูจน์ มันยากมากๆ แทบจะไม่สามารถทำได้เลย
ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์อะไร พยายามอย่าให้เขาทำให้แผนของตัวเองพัง แล้วค่อยดูว่าจะสามารถจัดการเขาไปด้วยได้ไหม
กลับมาถึงโรงแรม ผมพบว่าโจงคังหนิงจองห้องพักให้ผมกับไป๋เวยไกลกันมาก ถึงแม้จะเป็นชั้นเดียวกัน แต่ระยะห่างของห้องห่างกันถึงแปดห้อง
ในตอนที่แยกย้ายกันตรงโถงทางเดิน ผมจงใจถามไป๋เวยว่า”ประธานไป๋ครับ ผมยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย รู้สึกหิวนิดหน่อย คุณจะออกไปทานมื้อค่ำไหมครับ?”
ไป๋เวยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ส่ายหัว”ไม่ล่ะ ก่อนขึ้นเครื่องฉันทานมานิดหน่อย ตอนขึ้นเครื่องก็ทานไปอีกหน่อยแล้ว”
ผมไม่ได้บังคับอะไร”ก็ได้ครับ ผมยังมีเรื่องบางอย่างจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว ได้ไหมครับ?”
“เรื่องอะไร?”
ผมพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน แต่มองไปที่โจงคังหนิงแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า”ผู้จัดการโจงครับ คืนนี้รบกวนคุณแล้ว ผมมีเรื่องบางอย่างจะคุยกับประธานไป๋ครับ เอ่อคุณ……ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ?”
โจงคังหนิงพยักหน้าแล้วหัวเราะ”ได้ครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ เชิญทั้งสองท่านพักผ่อนเร็วๆนะครับ”
เขาก็พักอยู่ชั้นเดียวกัน ห่างจากห้องผมไม่ไกลนัก
หลังจากที่รอโจงคังหนิงกลับห้องไปแล้ว ผมก็เดินไปอยู่ข้างๆไป๋เวย แล้วพูดเสียงเบา”ประธานไป๋ เรื่องนี้ผมคงต้องกลับคำแล้วล่ะ อย่าพึ่งยอมรับว่าคลิปนี้ผมเป็นคนถ่าย ห้ามยอมรับกับใครทั้งนั้น ถ้ามีคนถาม คุณก็บอกว่าตัวเองไม่ทราบรายละเอียด ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ก็พอแล้ว”
ไป๋เวยขมวดคิ้ว”ทำไม?”
“เพราะเรื่องนี้มันเกินกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้ ต้องเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาแล้วล่ะ”
“วิธีไหน?”
“ทำขาวให้เป็นดำ แล้วค่อยล้างดำให้เป็นขาว”
ไป๋เวยตกตะลึง แต่แล้วสีหน้าก็เคร่งขรึม”ฟางหยาง นี่เป็นพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งคุณธรรม คุณรู้ไหม?”
ผมยิ้มอย่างเรียบเฉย”ประธานไป๋ คนอื่นใช้วิธีต่ำๆมาต่อกรกับผม ถ้าผมยังพูดเรื่องคุณธรรมกับอีกฝ่าย นั้นคงไม่เรียกว่าความประพฤติและคุณธรรมสูงส่งหรอกครับ นั่นเรียกว่าโง่ บางครั้งขอแค่เสียสละใครบางคน ถึงจะสามารถช่วยใครอีกคนได้……”
“คุณจะเสียสละใคร?”จู่ๆไป๋เวยก็พูดแทรกผมขึ้นมา
“ตอนนี้ยังบอกคุณไม่ได้ ถึงเวลาคุณก็รู้เอง อีกเรื่องที่ผมจะเตือนคุณ โจงคังหนิงถูกกงเจิ้งเหวินใช้เงินซื้อแล้ว”
ไป๋เวยขมวดคิ้วอีกครั้ง”คุณรู้ได้ยังไง?”
“คนในBTTกรุ๊ปพวกนั้นที่ได้รับคลิป ส่วนมากเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกับอนุรักษ์ เท่านี้ก็พอจะเห็นได้แล้วว่าคนที่ปล่อยคลิปออกไปต้องการเล็งเป้า แต่กงเจิ้งเหวินไม่เข้าใจกลุ่มอำนาจภายในของBTTกรุ๊ป มีเพียงแค่โจงคังหนิงที่รู้ดีกว่า นอกจากเขาแล้วมีใครช่วยกงเจิ้งเหวินได้”
ไป๋เวยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวไปมา”เหตุผลนี้ไม่น่าเชื่อถือ ผู้จัดการโจงไม่มีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น ถ้าโปรเจกต์พังไม่เป็นท่ามันไม่เป็นผลดีอะไรต่อเขา”
ผมหัวเราะ”ประธานไป๋ เรามาลองคิดผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดกันดูก่อนนะครับ ฝ่ายBTTกรุ๊ปยกเลิกความร่วมมือฝ่ายเดียว อนุรักษ์ถูกไล่ออกเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าติดสินบนทางเพศ ข่าวท้องถิ่นรายงานเรื่องอื้อฉาวทางเพศของผู้บริหารBTTกรุ๊ป ด้วยเหตุนี้บริษัทของเราจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ ได้รับผลกระทบด้านความไว้วางใจขั้นวิกฤติ ถึงเวลานั้น โจงคังหนิงจะฉุดคุณลงมา บอกว่าคุณมีส่วนร่วมในการถ่ายคลิปวิดีโอในครั้งนี้ คุณคิดว่าถึงเวลานั้นคุณยังจะสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายได้อีกเหรอ?ตำแหน่งนี้เมื่อว่างออกมา มันเป็นผลดีต่อโจงคังหนิงไหม?”
ไป๋เวยสีหน้าเปลี่ยนไป”มันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อืม หนักมาก ผมถามสันติสุขแล้ว มีข่าวลือในBTTกรุ๊ปว่าอนุรักษ์ขอให้เฉาเหวินหวยกับผมติดสินบนทางเพศ”
ไป๋เวยไม่พูดอะไร เธอได้แต่ขมวดคิ้วครุ่นคิดไม่หยุด สีหน้าของเธอตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
ผมพูดต่อว่า”ประธานไป๋ครับ ถ้าเรื่องถึงขั้นนั้นแล้ว ปัญหาก็จะหนักหนาสาหัสตามมาด้วย ดังนั้นอย่าสนใจเรื่องความประพฤติดีคุณธรรมอะไรนั่นอีกเลย ฟังผมเถอะ ห้ามยอมรับกับใครหน้าไหนทั้งนั้นว่าผมเป็นคนถ่ายคลิป บอกแค่ว่าตัวเองไม่รู้ และห้ามเปิดเผยเรื่องที่เราคุยกันให้โจงคังหนิงรับรู้ ห้ามเปิดเผยข้อมูลกับคนอื่น นอกจากได้รับความเห็นจากผมแล้ว เรื่องนี้มอบให้ผมจัดการเองเถอะครับ เข้าใจไหม?”
ไป๋เวยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมองมาที่ผมอีกครั้ง”คุณคิดจะทำยังไง?”
“ตอนนี้ผมยังบอกคุณไม่ได้”
“คุณไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ แต่ว่า……ผมแค่มีความคิด แต่ยังคิดไม่เสร็จสมบูรณ์”
“มั่นใจไหม?”
“น่าจะประมาณหกสิบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ครับ อย่างมากสุดสามวันก็รู้ผลแล้วครับ”
ไป๋เวยหลับตาลง แล้วไม่พูดอะไร
ผ่านไปนาน เธอก็ลืมตาขึ้น”ฉันตกลงค่ะ จะปฏิเสธการยอมรับว่าคลิปนั่นคุณเป็นคนถ่าย ถ้าสามวันให้หลังเรื่องมันยังไม่ดีขึ้น ฉันก็จะใช้วิธีของฉันจัดการ”
“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้เธอ”ดึกแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ”
พูดจบ ผมก็เดินไปทางห้องพักของตัวเอง
วางสัมภาระเสร็จ ผมไม่ได้อยู่ต่อ แต่ตรงออกจากโรงแรมไปหาอะไรทาน
ผมขึ้นเครื่องหนึ่งทุ่ม ใช้เวลาสี่ชั่วโมงกว่าเครื่องจะลงจอด ตอนนี้น่าจะห้าทุ่มกว่าแล้ว เวลาประเทศไทยช้ากว่าประเทศจีนหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นเวลาท้องถิ่นในตอนนี้น่าจะสี่ทุ่มกว่าเท่านั้น ตามท้องถนนยังมีร้านจำนวนไม่น้อยที่ยังเปิดอยู่
หลังจากที่หาอะไรทานตามท้องถนนเล็กน้อย ผมก็ตรงไปยังคลับคราทันที
ถึงเวลาให้บัญชาชดใช้หนี้มาหน่อยแล้ว
คลับครายังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน มีชีวิตชีวา และเสียงดังอึกทึก คนทั้งคลับเต็มไปด้วยชายที่มีรอยสักกับหญิงสาวแต่งหน้าจัด
ผมเดินเข้าไปในคลับ สายตาทุกผู้ต่างพากันมองมาที่ผม ไม่รอให้ผมเอ่ยปาก กลุ่มคนก็ต่างพากันหลีกทางให้ผมเป็นแถวแล้ว มีชายหนุ่มที่ฉลาดปราดเปรียววิ่งฝ่าผู้คนตรงไปยังด้านใน
ดูท่า กลุ่มคนพวกนี้ยังจำผมได้ดี
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ บัญชาก็วิ่งเหยาะๆออกมาจากด้านใน ทักทายผมจากระยะไกลด้วยสองมือประกบกันและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเขา
“คุณหยาง สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ”
ผมประกบมือตอบกลับ แล้วพูดอย่างเรียบร้อยว่า”บัญชา ผมมีเรื่องอยากจะให้คุณช่วยน่ะครับ”
“คุณหยางเชิญด้านในเลยครับ เชิญไปดื่มด้านในกันก่อนแล้วค่อยๆพูดกัน ขอแค่คนอย่างบัญชาผมทำได้ จะต้องทำให้คุณหยางเรียบร้อยแน่นอนครับ ถึงจะทำไม่ได้ ก็จะพยายามทำให้ได้ร้อยสองร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ”
บัญชาเบี่ยงตัวไปยืนอยู่ข้างๆ โค้งคำนับให้แล้วชี้ไปที่ส่วนที่อยู่ด้านในของคลับ
ผมพยักหน้า เดินไปตามทางที่ผู้คนหลีกไว้ให้
ถึงได้พบว่า ด้านในคลับคราความจริงแล้วยังมีห้องวีไอพีหลายห้อง ตกแต่งสวยกว่าด้านนอกมาก อุปกรณ์เครื่องเสียงคาราโอเกะมีครบครัน
หลังจากที่เชิญผมเข้ามาในห้องวีไอพีที่ใหญ่ที่สุด บัญชาก็วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่หลายรอบ เรียกคนให้เอาเบียร์ไวน์แดงเหล้าขาวที่ดีที่สุดออกมาหลายขวด แล้วเสิร์ฟกับแกล้มขึ้นมาหลายอย่าง
ในรอบสุดท้าย เขาเอาสาวไทยสองคนเข้ามาด้วย คนหนึ่งสวยไร้เดียงสา อีกคนสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นรูปร่างร้อนแรง
คอมเม้นต์