ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 92 ร่วมมือกัน
อนุรักษ์ไม่พูดอะไรอีก มองผมด้วยสีหน้าลังเล
ผมพูดอีกครั้ง “คุณอนุรักษ์ ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายคุณจริงๆ แค่อยากทำให้เรื่องนี้มีผลเสียกับคุณและผมให้น้อยที่สุด”
ผ่านไปสักพัก อนุรักษ์ก็เปิดประตู และถอยหลังไปสองก้าว “เข้ามาสิ ฉันให้เวลาคุณแค่ห้านาที”
หลังจากเข้ามาในบ้าน อนุรักษ์พาผมไปที่ห้องทำงานในบ้านและปิดประตู เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมีเวลาเพียงห้านาที ตอนนี้คุณพูดออกมาได้เลย จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง”
ระหว่างทางที่มา ผมก็คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมก็เลยพูดโดยไม่ต้องคิด “คุณอนุรักษ์ ผมจะทำให้คุณกลายเป็นผู้เสียหายที่โดนกระทำ แต่ผมต้องการความร่วมมือจากคุณ”
“ผมได้ไปเจรจากับอันธพาลพวกนั้นแล้ว พวกเขาจะยอมเป็นแพะรับบาปให้พวกเรา พวกเขาจะยอมรับว่าได้สมรู้ร่วมคิดกับเฉาเหวินหวยเพื่อบันทึกวิดีโอนั้น ผมจะบอกให้พวกเขาโทรหาคุณและพูดทางโทรศัพท์ว่าคุณไม่ให้ความร่วมมือกับเฉาเหวินหวย ดังนั้นพวกเขาก็เลยปล่อยวิดีโอนั้นออกมาเพื่อแก้แค้นคุณ
“สิ่งที่คุณต้องทำคือบันทึกการสนทนาครั้งนั้นและนำหลักฐานไปแจ้งตำรวจ ข้อหาอาจจะเป็นทำลายชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทก็ได้ หลังจากนั้นตำรวจจะจับกุมตัวเขาและประกาศผลการสอบสวน ถึงตอนนั้นคุณก็แถลงการณ์ปฏิเสธรับสินบนด้วยการมีเซ็กส์ และคุณก็พูดว่าเฉาเหวินหวยนัดคุณไปเจอกันที่บาร์เกย์ และคุณไปตามนัดเพราะเป็นมารยาททางสังคม แต่หลังจากที่ได้ยินคำขอที่มากจนเกินไปของเฉาเหวินหวย คุณก็จากไปทันที”
อนุรักษ์ขมวดคิ้ว “ทำแค่นี้ก็ได้แล้วเหรอ? ผลการสอบสวนของตำรวจจะเป็นไปตามที่คุณคิดไว้หรือเปล่า? ถ้ามันเป็นไปตามที่คุณคิด ทำไมคนอื่นต้องเชื่อผลการสอบสวนของตำรวจและคำให้การของฉัน? มีอีกเรื่องหนึ่ง ทำไมอันธพาลพวกนั้นต้องช่วยคุณด้วย? พวกเขาไม่กลัวติดคุกเหรอ? พวกเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้ไหม?”
ผมพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “คุณอนุรักษ์ คุณวางใจได้ ทางฝั่งตำรวจผมจะจัดการเอง พวกเขาจะให้ผลการสอบสวนตามที่พวกเราต้องการ นอกจากนี้ ผมจะเผยแพร่หลักฐานอื่นๆเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณ สำหรับอันธพาลพวกนั้น……พวกเขาเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ พวกเขาไม่กลัวติดคุก เพราะผมจะให้ค่าชดเชยตามที่พวกเขาต้องการ”
หลังจากนั้น ผมอธิบายแผนการและรายละเอียดต่างๆให้อนุรักษ์ฟัง และวิเคราะห์และคาดเดาอย่างสมเหตุสมผล
อันที่จริง ถ้าแผนการไม่มีข้อผิดพลาด หลังจากเปิดเผยผลการสอบสวนของตำรวจกับคำให้การของอนุรักษ์ คณะกรรมการของBTTกรุ๊ปคงไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาคงใช้โอกาสนี้ในการประกาศไม่อนุญาตให้มีการกระจายข่าวลือนี้อีก และเรื่องนี้ก็จะจบลง
ถึงแม้จะมีคนตั้งข้อสงสัย แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ ชื่อเสียงของอนุรักษ์อาจจะได้รับความเสียหายในระดับหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กระทบกับชื่อเสียงของอนุรักษ์เลย แต่เขาจะไม่ถูกตรวจสอบอีก BTTกรุ๊ปก็จะไม่ยุติความร่วมมือด้านธุรกิจกับบริษัทของเรา
แม้วิธีนี้จะไม่เพอร์เฟกต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้
เมื่อฟังคำพูดของผมจบ อนุรักษ์ก้มศีรษะและกำลังครุ่นคิด
ผ่านไปสักพัก อนุรักษ์ก็เงยหน้าขึ้นมาและมองมาที่ผม “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าตำรวจและอันธพาลพวกนั้นจะช่วยคุณจริงๆ?”
ผมพยักหน้า “อันธพาลพวกนั้นได้เอาวิดีโอของร้านบาร์เกย์ไว้แล้ว ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอันธพาลพวกนั้นต้องช่วยพวกเรา ส่วนทางด้านตำรวจ เดี๋ยวผมจะไปสถานีตำรวจเอง ผมมั่นใจอย่างน้อยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าตัวเองสามารถเกลี้ยกล่อมให้ตำรวจยอมช่วยพวกเรา”
อนุรักษ์ครุ่นคิดชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็หายใจลึกๆหนึ่งครั้ง เหมือนเขากำลังตัดสินใจครั้งสำคัญแล้วพูดว่า “หยาง ตอนนี้ฉันเชื่อใจคุณ แต่ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
“คุณอนุรักษ์ คุณวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถของผม”
เมื่อพูดจบ ผมก็พูดย้ำรายละเอียดที่เขาต้องทำอีกหนึ่งครั้ง หลังจากกำชับเรื่องที่เขาต้องระวังและหาโอกาสที่เหมาะสม จากนั้นผมก็ออกจากบ้านของเขา
เมื่อผมเดินออกมาถึงหน้าประตูโครงการบ้านเดี่ยว ผมก็พบว่าบนถนนไม่มีรถตุ๊กตุ๊กและรถแท็กซี่เลย บ้านเดี่ยวของอนุรักษ์อยู่ ไม่คึกคักเท่ากับในตัวเมืองเชียงใหม่ และโครงการนี้ก็อยู่ไกลจากตัวเมืองมากๆ ผมคงต้องใช้เวลาหน่อยในการหารถ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกผมคงจะเช่ามอเตอร์ไซค์และขับมาเอง
มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่บนถนนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ดูเหมือนเขาให้บริการรับส่ง คนขับสวมหมวกกันน็อกและยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆรถมอเตอร์ไซค์
ผมตะโกนเป็นภาษาไทย “สวัสดีครับ รับส่งคนไหมครับ?”
ดูเหมือนคนขับคนนั้นตกใจมากๆ เขามองผมผ่านกระจกของหมวกกันน็อก แต่เขาไม่ได้สนใจผม เขาหันหน้ากลับไปและคุยโทรศัพท์ต่อ
ผมขมวดคิ้ว และตะโกนเสียงดังถามเขาอีกครั้ง
ดูเหมือนเขาได้ยินชัดเจนแล้ว เขาก็เลยโบกมือให้ผม ดูเหมือนเขาจะปฏิเสธผม
ผมทำอะไรไม่ได้ ก็เลยยืนรอรถอยู่ข้างถนน
เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ในที่สุดก็มีรถสองแถวแดงขับผ่าน ผมบอกที่อยู่และตกลงราคากับคนขับเสร็จ เมื่อขึ้นรถสองแถวแดงผมก็หันหลังกลับไปมอง ผมเห็นคนขับมอเตอร์ไซค์ที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างถนน ตอนนี้เขาสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์แล้ว
ผมเกิดความคิดขึ้นมาอย่างเฉียบไว เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก
ระหว่างทาง ผมไม่ได้หันกลับไปมองอีก แต่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดกล้องหน้า และตั้งมุมกล้องให้ถ่ายโดนรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ผมแกล้งทำเป็นเล่นโทรศัพท์ และคอยสังเกตรูปภาพที่ผมถ่ายอย่างละเอียด
ตามที่ผมคิดไว้เลย รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นกำลังสะกดรอยตามผมอยู่ รถสองแถวเปลี่ยนเส้นทางไปหลายครั้ง แต่เขาก็ยังตามหลังรถสองแถวอย่างห่างๆ
ถ้าผมทายไม่ผิด เขาน่าจะเป็นคนที่กงเจิ้งเหวินส่งมาสะกดรอยตามผม
เมื่อถึงสถานีตำรวจ ผมไม่ได้รีบเดินเข้าไป แต่ผมนั่งลงบนโต๊ะติดถนนของร้านอาหารแห่งหนึ่งและแกล้งทำเป็นทานอาหารเช้า และผมก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพผู้ชายคนนั้นที่สะกดรอยตามผม
ผู้ชายคนนั้นจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่โรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในโรงแรม
โรงแรมแห่งนี้ปล่อยเช่ารถมอเตอร์ไซค์ด้วย หน้าประตูมีรถมอเตอร์ไซค์หลายๆรุ่นจอดอยู่ ถ้าผมคิดไม่ผิดละก็ เขาคงจะเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์คันใหม่และคงสะกดรอยตามผมต่อ
ก่อนหน้านี้ผมเคยทานอาหารเช้ามาแล้ว เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเกิดความสงสัย ผมก็ทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารแห่งนี้ไปครึ่งจาน จากนั้นผมค่อยเดินไปยังสถานีตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ถ้าเขาชอบสะกดรอยตามก็ให้เขาตามเลย เพราะเขาทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว?
เมื่อผมเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ ผมก็มองบอร์ดรายชื่อและรูปถ่ายของตำรวจอยู่พักหนึ่ง และหาตำรวจอ้วนๆที่ส่งผมออกมาจากสถานีตำรวจเมื่อครั้งที่แล้ว เขาชื่อณัฐชา เป็นสารวัตรตำรวจ
เมื่อรู้ชื่อของเขา ผมเดินเข้าไปที่แผนกต้อนรับของสถานีตำรวจ และพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกต้อนรับอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ ผมต้องการเจอสารวัตรณัฐชา”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นมองผมตั้งแต่หดจรดเท้าและพูด “ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไร?”
“เรื่องส่วนตัว คุณไปบอกเขาว่าผมชื่อฟางหยาง เมื่อไม่นานมานี้ ผมถูกจับกุมเรื่องกรรโชกทรัพย์และนอนในคุกไปสามวัน ต่อมาเขาเป็นคนส่งผมที่เป็นคนจีนออกจากสถานีตำรวจด้วยตัวเอง”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นขมวดคิ้ว เขามองผมอย่างละเอียดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์และโทรออกไป
ผ่านไปสักพัก เขาก็วางโทรศัพท์ลงและพูด “สารวัตรณัฐชากำลังประชุมอยู่ ฉันได้แจ้งเรื่องของคุณไปที่ห้องทำงานของเขาแล้ว ต้องรอเขาประชุมเสร็จถึงจะทราบว่าเขาจะเจอคุณไหม คุณไปนั่งรออยู่ตรงนั้นก่อน”
“ขอบคุณ”ผมพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปนั่งรอในบริเวณห้องโถง
การประชุมครั้งนี้ของเขาดูเหมือนจะใช้เวลานานมาก ประชุมจนถึงสิบเอ็ดโมงก็ยังประชุมไม่เสร็จ ขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นและเดินไปถามที่แผนกต้อนรับ ก็มีชายชราร่างผอมอายุห้าสิบกว่าๆวิ่งเข้ามาในสถานีตำรวจอย่างเร่งรีบ ใช้ภาษาจีนตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ต้อนรับว่า “คุณตำรวจ ฉันจะแจ้งความ ภรรยาและลูกชายของฉันหายตัวไปแล้ว……”
คอมเม้นต์