ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 94 ลักพาตัว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 94 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ผมยืนขึ้นบอกลาและกำลังจะจากไป ณัฐชาก็ยืนขึ้นมาเพื่อจะไปส่งผม

หลังจากเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆผมก็นึกอะไรบางอย่างออก ดังนั้นผมก็เลยหยุดลงทันทีและพูด “สารวัตรณัฐชา เมื่อสักครู่ตอนอยู่ด้านล่างผมเจอคนจีนคนหนึ่งที่มาเชียงใหม่เพื่อตรวจสอบโปรเจกต์ เขาบอกว่าภรรยาและลูกชายของเขาไปเที่ยวที่แม่น้ำปิงแล้วหายตัวไป ตั้งแต่เช้าถึงตอนนี้เขาก็ยังติดต่อภรรยาและลูกทางโทรศัพท์ไม่ได้ เขาอยากจะขอความช่วยเหลือจากทางตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ด้านล่างบอกว่าถ้าขาดการติดต่อยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ตามกฎระเบียบไม่สามารถแจ้งความได้”

“สารวัตร คุณคิดว่าเรื่องนี้……เฮ้อ เขาก็เป็นนักธุรกิจ เดิมทีเขาอยากจะลงทุนในเชียงใหม่เพื่อสร้างโอกาสและจ้างงานคนในท้องถิ่น ใครจะคิดว่าภรรยาและลูกของเขาหายตัวไป ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นจริงๆ……”

ณัฐชาขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึม “มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ? นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ฉันจะลงไปดูตอนนี้เลย คุณหยางโปรดวางใจ ถ้าภรรยาและลูกของเพื่อนคุณหายตัวไปจริงๆ พวกเราจะค้นหาอย่างสุดความสามารถเพื่อหาภรรยาและลูกของเขาให้เจอ”

“สารวัตรณัฐชาเป็นคนที่มีคุณธรรมและน่านับถือมากๆ”

“เรื่องนี้มันเป็นหน้าที่ของตำรวจอย่างพวกเรา คุณหยางไม่ต้องเกรงใจ”

พวกเราพูดคุยกันและเดินลงมาชั้นล่าง ก็เห็นถงอันจือนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ในห้องโถง

หลังจากณัฐชาถามเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นเขาก็โบกมือ สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในสถานีออกไปตามหาภรรยาและลูกของเขา

ถงอันจือซาบซึ้งและขอบคุณผมหลายครั้ง จากนั้นเขาก็เข้าไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่คนอื่น

ผมกล่าวคำขอบคุณณัฐชาอีกครั้ง และผมก็เดินออกจากสถานีตำรวจ

อันที่จริงครั้งที่แล้วที่ผมโดนจับ ณัฐชาต้องได้รับสินบนจากกงเจิ้งเหวินแน่นอน แต่ผมก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา เรื่องของวิดีโอผมก็ไม่ได้พูดว่าเป็นฝีมือของกงเจิ้งเหวิน เกรงว่าจะทำให้เขารู้สึกอึดอัด

สำหรับคนที่ชื่อฉันทสุดที่ณัฐชาพูดถึง น่าจะเป็นชายชราตัวเล็กๆที่ตู้หมิงเฉียงพามาสถานีตำรวจเมื่อครั้งที่แล้ว

เมื่อพิจารณาจากท่าทางที่ณัฐชามีต่อเขา ชายชราที่ชื่อฉันทสุดอยู่ในระบบตำรวจหรือในรัฐบาล น่าจะมีอิทธิพลมากๆ

ณัฐชาอยากถามว่าผมมีความสัมพันธ์อะไรกับฉันทสุด และมันคุ้มที่เขาจะลงมือช่วยผมหรือเปล่า

ผมเจอเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย และรับมือได้อย่างสบาย

เดินออกมาจากสถานีตำรวจ ผมก็เดินไปที่โรงแรมเล็กๆที่มีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์อย่างสบายๆ และมองดูการเคลื่อนไหวรอบๆตัวผม

คนที่สะกดรอยตามผมคนนั้นน่าจะยังอยู่ในละแวกนี้

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูโรงแรม ผมเห็นมอเตอร์ไซค์คันนั้นจอดอยู่หน้าประตู แต่ผมไม่เห็นคนขับ

ผมเช่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์250CCคันหนึ่ง เดี๋ยวผมจะหนีจากคนสะกดรอยนั้นด้วยรถบิ๊กไบค์คันนี้

เพิ่มจ่ายค่ามัดจำเสร็จ ยังไม่ทันได้ขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ ถงอันจือกับเลขาและคนขับรถของเขาก็ออกมาจากสถานีตำรวจและวิ่งเข้ามาหาผม

“คุณฟางหยาง” ถงอันจือวิ่งมาที่ด้านหน้าของผม เขาหายใจหอบและหยิบนามบัตรใบหนึ่งมาให้ผมและพูด “คุณฟางหยาง เมื่อสักครู่ผมยังไม่ทันได้กล่าวคำขอบคุณเลย นี้เป็นนามบัตรของผม ฉันหวังว่าคุณฟางจะให้เบอร์ติดต่อของคุณกับฉัน หลังจากที่ฉันหาตัวภรรยาและลูกเจอแล้ว ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณ”

ผมรับนามบัตรไว้และยิ้ม “คุณถง คุณเกรงใจมากเกินไปแล้ว”

ขณะพูด ผมก็หยิบนามบัตรของตัวเองและยื่นให้เขา

หลังจากเข้าทำงานที่บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ได้สองวัน ทางบริษัทก็ได้ทำนามบัตรที่มีภาษาไทยให้ผม แต่ผมไม่เคยใช้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมยื่นนามบัตรให้คนอื่น

ถงอันจือรับนามบัตรและมอง “คุณฟางมาจากเมืองเซิ่งไห่นี่เอง บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ บริษัทนี้ผมเคยได้ยินชื่อเสียง ทำเกี่ยวกับสำนักงานอัตโนมัติใช่ไหม”

“ใช่ครับ คุณถงเรียกผมฟางหยางก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ”

“ได้ งั้นคุณก็เรียกผมว่าถงเหล่า เพราะคนอื่นๆก็ชอบเรียกผมแบบนี้เหมือนกัน มันเป็นชื่อที่เรียกง่าย”

“ถงเหล่า ยังวิ่งได้คล่องแคล่วแบบนี้ คุณยังหนุ่มและแข็งแรงมากๆ”

“ฮ่าๆๆ ผมอายุไม่น้อยแล้ว แต่คำพูดของคุณ ฉันชอบฟังจริงๆ”

“ถ้ามีเวลาพวกเราค่อยนัดเจอกัน ถ้าไม่มีธุระอะไรอีก ผมขอลาก่อน ถงเหล่าคุณควรตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยเพื่อดูว่ามีความคืบหน้าอะไรไหม”

“ได้ หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ พวกเราค่อยนัดเจอกัน”

หลังจากกล่าวคำอำลากับถงอันจือแล้ว ผมก็ขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์250ccทันที จากนั้นผมก็ขับบิ๊กไบค์ไปในตัวเมือง เพราะสถานที่ที่มีคนเยอะๆถึงจะหนีจากคนสะกดรอยได้ง่าย

ระหว่างติดไฟแดงอยู่บนถนน ผมก็เหลือบมองนามบัตรของถงอันจือ ในนามบัตรมีเพียงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเขา ไม่มีข้อมูลอื่นๆอีกเลย นามบัตรของเขาไม่ได้เลี่ยมทองและมีลวดลายสวยๆเหมือนนามบัตรของเศรษฐี แต่กระดาษที่ทำนามบัตรมีคุณภาพดีมาก โดยมีการออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา

เขาน่าจะเป็นคนมีเงิน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากค่าแรงและนโยบายพิเศษของรัฐบาล ทำให้อุตสาหกรรมภายในประเทศจำนวนมากย้ายมาตั้งฐานการผลิตที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ทำให้คนที่มีฐานะและร่ำรวยปรากฏตัวที่ประเทศไทยอยู่บ่อยๆ

แม้ว่ากฎหมายและการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะอยู่ในระดับที่ดี แต่มีสิ่งที่เป็นความลับมากมายซ่อนอยู่ การค้ามนุษย์ การลักพาตัวและการกรรโชกทรัพย์ที่เกิดขึ้นที่นี่เป็นเรื่องธรรมดา ถงอันจืออาจจะตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นตั้งแต่แรกแล้ว

ผมหวังว่าลูกชายของเขาจะปลอดภัย เพราะผมรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนดี เป็นคนมีเงินแต่ไม่เย่อหยิ่ง และเข้ากับคนง่าย

เมื่อผ่านแยกไฟแดง ผมก็เห็นผู้ชายที่สะกดรอยตามผมจากกระจกมองหลัง เขาเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์คันใหม่จริงๆ สีของหมวกกันน็อกก็ไม่เหมือนเดิม และเขายังเปลี่ยนเสื้อยืดลายดอกด้วย แต่ผมก็ยังจำเขาได้

เพราะเขาใส่รองเท้าหนังสีดำและมีพื้นรองเท้าสีขาว ก่อนหน้านี้ที่ผมถามเขาว่าจะรับส่งคนไหม ผมก็ได้สังเกตเห็นรองเท้าหนังของเขามีความแวววาวมากๆ และคนที่ชอบใส่รองเท้าหนังแบบนี้มีไม่เยอะ

หลังจากแน่ใจว่าผู้ชายที่สะกดรอยยังตามผมอยู่ ผมก็ขับไปในตัวเมือง

เมื่อขับผ่านถนนแยกหนึ่ง จู่ๆบัญชาก็โทรศัพท์มาหาผม

เมื่อผมกดรับสาย ปลายสายมีเสียงของบัญชาที่กังวลและสั่นเครือว่า “คุณหยาง ผมขอโทษ เรื่องของคุณฉันช่วยไม่ได้จริงๆ”

ผมรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที “ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?”

“ลูกชายของผม……ลูกชายของผมถูกพวกเขาจับตัวไป พวกเขาจะฆ่าลูกชายของผม……”

ผมตกใจ “ใครเป็นคนทำ? คนของกงเจิ้งเหวินใช่ไหม?”

“พวกเขาไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่เป็นคนของเขาอย่างแน่นอน”

ผมจอดรถข้างถนน และสงบสติอารมณ์ของตัวเองและถาม “บัญชา คุณใจเย็นๆก่อน คุณช่วยบอกผมก่อนว่าลูกชายคุณถูกพวกเขาลักพาตัวได้ยังไง ช่วยเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้ตอนเช้าเก้าโมงกว่าๆ ภรรยาได้โทรมาหาผม บอกว่าลูกชายเล่นอยู่ละแวกใกล้ๆบ้าน เผลอแป๊บเดียวก็หายตัวไปแล้ว ผมก็เลยส่งลูกน้องทั้งหมดออกไปตามหา หาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอเลย และเมื่อสักครู่มีคนโทรศัพท์มาหาผม บอกให้ผมห้ามช่วยเหลือคุณ และ……และพวกเขาต้องการให้ผมหักขาของคุณ ทุบหัวเข่าของคุณให้ละเอียดและตัดเส้นเอ็นของคุณ ทำให้คุณกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต ถ้าผมไม่ทำ……พวกเขาจะฆ่าลูกชายของผมและทิ้งศพลงไปแม่น้ำให้ปลากิน”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ผมแทบจะจับโทรศัพท์ไว้ไม่อยู่

แม่งเอ๊ย กงเจิ้งเหวินมันโหดเหี้ยมจริงๆ!

ในสายโทรศัพท์บัญชาถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น “คุณหยาง คุณก็รู้ ฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับคุณจริงๆ และฉันก็ไม่กล้าทำร้ายคุณด้วย แต่ตอนนี้……ผมควรทำยังไง?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด