ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 13 เป็นเพราะผมใช่ไหม

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 13 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ร้านกาแฟนี้เงียบสงบมากๆ เปิดเพลงพื้นบ้านของไทยโบราณ จังหวะของเพลงช้าๆและเข้ากับบรรยากาศค่ำคืนของที่นี่มากๆ

หลินโล่สุ่ยนั่งอยู่ริมหน้าต่าง บนโต๊ะมีกาแฟหนึ่งแก้ว ในแจกันมีดอกกุหลาบที่ปลูกในท้องถิ่นและดอกกุหลาบกำลังเบ่งบานสะพรั่ง

ผมเดินไปหาเธอ มองดูใบหน้าของเธอที่ดูอ่อนโยนมากๆภายใต้แสงไฟ

เธอยืนขึ้นมาแล้วยิ้มให้ผม รอยยิ้มหวานๆของเธอมันช่างคุ้นเคยและเหมือนเดิม

ผมพยักหน้าให้เธอและนั่งลง

ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ ผมไม่ได้พูด”เธอมาแล้วเหรอ”หรือ”เธอสบายดีไหม”ที่เป็นประโยคที่ไร้สาระพวกนี้

“คุณผู้ชายครับ ไม่ทราบว่าคุณต้องการเครื่องดื่มอะไร”

พนักงานต้อนรับชาวไทยที่ใส่ชุดปักลายต่างๆเข้ามาถามผมด้วยภาษาไทยอย่างสุภาพ

“มีเบียร์ช้างไหม?”ผมถามพนักงานด้วยภาษาไทย

“มีครับ”

“ผมเอาขวดหนึ่ง ขอบคุณครับ”

“ได้ครับ คุณผู้ชายโปรดรอสักครู่”

หลังจากที่พนักงานจากไป ดูเหมือนว่าหลินโล่สุ่ยจะหาเรื่องพูดได้แล้ว เธอยิ้มและพูด”ฉันเกือบลืมไปเลยว่าคุณพูดภาษาไทยได้”

ผมยิ้มและพูด”ผมเข้าใจ ถ้าคุณไม่ลืมเรื่องนี้ มันจะเป็นเรื่องแปลก”

หลินโล่สุ่ยได้ยินคำพูดประชดของผม ใบหน้าของเธอก็เศร้าขึ้นมาทันที

ผมเงียบและหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งม้วนกำลังจะสูบ

“ที่นี่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่” หลินโล่สุ่ยเตือนผมทันที

ผมพึ่งนึกได้ ในประเทศไทยห้ามสูบบุหรี่ในอาคารและที่สาธารณะ แม้แต่บนถนนที่มีคนพลุกพล่านและบนชายหาดก็ห้ามสูบบุหรี่เหมือนกัน ถ้าโดนจับจะต้องเสียค่าปรับและอาจจะติดคุกอีกด้วย

ผมเก็บบุหรี่อย่างไม่เต็มใจ ผมถามเธออย่างตรงไปตรงมา”คุณเรียกผมมา ต้องการพูดอะไรเหรอ?”

หลินโล่สุ่ยลังเลเล็กน้อย”ตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่จื้อเหวินใช่ไหม?”

“ใช่”

“เพราะอะไร”จู่ๆเธอก็ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

ผมอยากจะหัวเราะ”นอกจากทำงานหาเงินแล้ว คุณคิดว่ายังมีอะไรอีกเหรอ”

เธอมองผมด้วยสายตาที่สับสนและไม่เข้าใจ จากนั้นเธอก็ก้มศีรษะและไม่พูดอะไรอีก

พนักงานนำเบียร์มาให้ผม ผมเทเบียร์ลงในแก้ว จากนั้นก็จิบเบียร์ทันที

เธอก็ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ

ทันใดนั้นเธอก็พูดว่า”ฟางหยาง ฉันแค่อยากรู้……คุณไปทำงานที่บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์และมาที่เชียงใหม่ เป็นเพราะฉันใช่ไหม?”

“เป็นเพราะเธอ?”ผมอึ้งไปและงุนงงไปชั่วครู่

“เป็นเพราะฉันเลิกกับคุณ คุณจงใจไปที่บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ และจงใจมาเจรจาโปรเจ็กต์ของBTTที่เชียงใหม่ คุณ……คุณเกลียดฉันใช่ไหม?”

ผมตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะออกมา ผ่านไปไม่นานผมก็รู้สึกโศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

รู้สึกเศร้าเพราะตัวเอง

ในสายตาของเธอ ผมดูแย่ขนาดนี้เลยเหรอ

แต่ผมกลับลืมเธอไม่ได้ ยังคงคิดถึงเธอมากๆ

แม่งเอ๊ย ผมมันเป็นคนโง่

ผมไม่อยากตอบคำถามนี้ของหลินโล่สุ่ย และไม่รู้จะตอบยังไงด้วย

เพราะว่าเธอพูดถูกแค่ครึ่งเดียว ที่ผมมาเจรจาโปรเจ็กต์ของBTTก็เพราะเธอ

“ฟางหยาง ฉันขอโทษ”เธอพูดขอโทษอีกครั้ง

“เหอะๆ”ผมหัวเราะออกมา ยกเบียร์ขึ้นมาแล้วดื่มจนหมดแก้ว

ดื่มหมดแล้วก็ควรจะจากไป

“ฉันได้ยินว่าคุณไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีที่บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ ใช่ไหม?”จู่ๆหลินโล่สุ่ยก็ถามขึ้นมา

ผมอึ้งไปชั่วครู่

หลินโล่สุ่ยต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องประชุมตอนบ่ายนี้อย่างแน่นอน ไม่งั้นเธอคงไม่ถามแบบนี้

ขณะที่ทีมโปรเจ็กต์กำลังพูดคุยเรื่องโปรเจ็กต์ มีเรื่องเกิดขึ้นภายใน มันเป็นเรื่องที่คนภายนอกไม่ควรรู้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่เกิดขึ้นรู้ไปถึงหูของคู่แข่ง

ดูเหมือนทีมโปรเจ็กต์ของบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์จะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ คนๆนั้นน่าจะมีสัมพันธ์ที่ดีกับหลินโล่สุ่ยหรือผู้ชายที่แซ่เฉาคนนั้น

ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สังเกตสีหน้าของผม หลินโล่สุ่ยก้มศีรษะและพูด

“ฟางหยาง ถ้าคุณทำงานอยู่ฝั่งนู้นแล้วไม่มีความสุข คุณมาทำงานที่บริษัทของฉันก็ได้ ศักยภาพของบริษัทฉันไม่ได้ด้อยไปกว่าบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์เลย ถ้าคุณเต็มใจมาทำงานที่บริษัทขอฉันจริงๆ คุณจะได้เงินเดือนสูงกว่าที่เดิมอย่างแน่นอน”

หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ ผมอดไม่ไหวที่จะส่ายหัวและหัวเราะ”คุณน่าจะได้ยินอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวผมมาใช่ไหม แล้วคุณก็อยากให้ผมช่วยคุณและคู่หมั้นของคุณได้โปรเจ็กต์นี้ใช่ไหม?”

หลินโล่สุ่ยเงยหน้าและจ้องมองที่ใบหน้าของผม ในสายตาของเธอแสดงความรู้สึกผิดออกมา และเธอก็รีบก้มศีรษะทันที

“ฉันขอโทษ”เธอพูดขอโทษอีกครั้ง คำพูดนี้ดูเหมือนเธอพูดจนชิน

ในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าค่อยๆเดินเข้ามาจากด้านหลัง และในขณะเดียวกันก็มีเสียงที่มั่นใจและเย่อหยิ่งจากผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “คุณฟางเป็นคนฉลาดมากๆ และคุณก็เป็นคนตรงไปตรงมา”

ผมหันหน้าและเห็นผู้ชายแซ่เฉาที่เป็นคู่หมั้นของหลินโล่สุ่ย ใบหน้าของเขามีแต่รอยยิ้มแห่งความมั่นใจในตัวเอง มันทำให้ผมเกลียดรอยยิ้มนี้มากๆ

“ผมขอแนะนำตัวและทำความรู้จักกับคุณใหม่ ผมชื่อเฉาเหวินหวย”

เขาเดินมายังด้านหน้าของผม และยื่นนามบัตรเลี่ยมทองมาให้ผม

ผมไม่ได้รับนามบัตรนั้น แต่มองเขาอย่างเงียบๆ

เฉาเหวินหวยก็ไม่ได้เก็บนามบัตรคืน เขายังคงยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง

ผ่านไปชั่วครู่ ผมก็ยิ้มออกมา แล้วรับนามบัตรของเขา

เฉาเหวินหวย รองประธานของบริษัทม่านดีโคร์ไอทีจำกัดของเมืองเซิ่งไห่

เขาเป็นรองประธานบริษัทนั้นเอง ดูเหมือนเขายังเป็นรองประธานของบริษัทต่างชาติด้วย ไม่แปลกใจเลยที่เขาหยิ่งยโส ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก อายุของเขาน่าจะสามสิบกว่าๆเท่านั้น อายุน้อยขนาดนี้ก็สามารถนั่งเก้าอี้รองประธานได้ เขาหยิ่งผยองก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก

“ประธานเฉา คุณต้องการซื้อตัวผมเหรอ”ผมเก็บนามบัตรและถามด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่าๆๆ” เฉาเหวินหวยหัวเราะออกมาด้วยสีหน้าปกติ เขาไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่กลับนั่งลงข้างๆหลินโล่สุ่ย มองมาที่ผมและพูด”คุณฟาง เดิมทีผมยังแปลกใจ ทำไมประธานไป๋ต้องเรียกพนักงานใหม่คนหนึ่งมาจากประเทศจีน แต่เมื่อรู้ว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณสันติสุขของBTTแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้คุณเป็นคนไปเจรจากับBTT ผมก็เข้าใจได้ในทันที”

“ถ้าผมทายไม่ผิดละก็ คุณฟางน่าจะรู้จักคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าคุณสันติสุขของBTTใช่ไหม หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจัดการต่างๆของBTTใช่ไหม ผมเดาถูกหรือเปล่า?คุณฟาง”

ผมอึ้งไปเลย และรู้สึกว่ามันตลกมากๆ คนโง่อย่างเฉาเหวินหวยหยิ่งยโสมากๆ แม้แต่ความคิดที่เขามีต่อผมก็เหมือนกัน

แต่ในทางกลับกัน เขามีความคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก ในการแข่งขันทางธุรกิจที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง การกระทำของคู่แข่ง ข้อมูลทุกอย่างของคู่แข่ง มันจะถูกขยายความเสมอ

ผมมาที่เชียงใหม่ด้วยตัวคนเดียวก็เพราะไป๋เวย และบังเอิญรู้จักสันติสุข ได้รับการชื่นชมจากสันติสุขก็เป็นเรื่องที่ผมคาดไม่ถึงเหมือนกัน ไป๋เวยให้ผมลองไปเจรจาต่อรองดูเฉยๆ แต่เมื่อความบังเอิญเหล่านี้มาร่วมกัน คนที่ไม่รู้ก็จะคิดไปเอง เมื่อเขาเดาไปเดามา เฉาเหวินหวยก็เดามาทางการแข่งขันทางธุรกิจทันที

เมื่อเห็นผมไม่พูด เฉาเหวินหวยนึกว่าตัวเองเดาถูกแล้ว เขายิ้มอย่างมั่นใจและพูด”คุณฟาง พวกเราพูดกันตามตรงเลย ถ้าคุณมาทำงานที่ม่านดีโคร์กรุ๊ป ถ้าคุณทำให้พวกเราได้โปรเจ็กต์ของBTT คุณต้องการอะไรก็บอกมาได้เลย”

“ผมต้องการอะไรก็จะได้จริงๆใช่ไหม?”ผมแกล้งถามด้วยความไม่น่าเชื่อ

เฉาเหวินหวยกางมือสองข้างออกมา”ตอนนี้คุณพูดมาได้เลยว่าคุณต้องการอะไร”

ผมยิ้มเบาๆ จงใจมองไปที่หลินโล่สุ่ย

สีหน้าของหลินโล่สุ่ยเปลี่ยนไปทันที เธอหันหน้ามองไปนอกหน้าต่างทันที ในขณะนั้น สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน

“สิ่งที่คุณต้องการ ผมให้ได้แค่ในขอบเขตของเรื่องงานเท่านั้น”

ดูเหมือนเฉาเหวินหวยจะมองความคิดของผมออก เขานึกว่าผมต้องการหลินโล่สุ่ยคืนมา เขาก็เลยรีบพูดทันที

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด