ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 18 อย่าคิดเพ้อเจ้อ
“คุณ……”ไป๋เวยรีบสะบัดเท้าของผมออกด้วยความโกรธ
แต่ผมก็เหยียดเท้าอีกหนึ่งข้างออกไป แล้วใช้ขาทั้งสองข้างล็อกตัวเธอไว้ แล้วดึงเธอมาที่เตียงนอน
หลังจากนั้น เธอก็กรีดร้องแล้วล้มลงบนอ้อมกอดของผม
สองขาของผมล็อกเอวของเธอไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอดิ้น ผมใช้มือข้างหนึ่งกอดเธอไว้ ทำให้หน้าอกของแทนแนบชิดกับหน้าอกของผม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกำลังจับคางของเธออยู่
“คุณ……เป็นคนสารเลว! คุณจะทำอะไรฉัน? รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”ไป๋เวยโกรธจนหน้าแดงและพยายามดิ้น
“ประธานไป๋ คุณอย่าตื่นเต้นมากจนเกินไป ผมเคยกอดคุณมาแล้ว และเคยจูบปากคุณด้วย พวกเรามาทบทวนความรู้สึกนั้นอีกครั้งดีไหม”
ขณะพูด ผมก็จงใจทำปากจู๋และขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของเธอ
“อ้า!!!”
ไป๋เวยกรีดร้องและสองมือของเธอก็ข่วนไปด้วย ผมพยายามมากๆกว่าจะจับมือของเธอได้ เกือบจะโดนเธอข่วนโดนหน้า
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้……คุณมันสารเลว! กากเดน! เศษสวะ!”
ไป๋เวยตะโกนใส่หน้าของผมที่อยู่ในระยะใกล้ๆ
ผมขมวดคิ้ว ดึงมือของเธอมาที่ใบหน้า เช็ดน้ำลายของเธอที่อยู่บนใบหน้าของผม
“คุณ……”
ไป๋เวยทั้งโกรธทั้งอาย เธอรีบหันไปมองด้านข้าง
ผมใช้โอกาสนี้ รีบเงยหน้าและจูบใบหน้าที่ขาวสะอาดของเธอทันที
ไป๋เวยเหมือนโดนไฟช็อตจนทำให้ร่างกายของเธอแข็งทื่อ หลังจากนั้นร่างกาย มือและเท้าของเธอก็เริ่มอ่อนแรง
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายกับมือและเท้าของเธอก็เกร็งขึ้นมาทันที และเธอก็เริ่มดิ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
“พอแล้ว พอได้แล้ว คุณห้ามขยับ ผมปล่อยคุณก็ได้”เมื่อเห็นเธอดิ้นอย่างรุนแรง ผมก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดี
เธอหยุดดิ้น แต่เธอยังหันหน้าไปข้างๆและไม่ยอมมองหน้าผม
ผมอดกลั้นความคิดที่จะจูบเธออีกครั้งและพูด”ผมปล่อยคุณได้ แต่คุณห้ามลงมือทำร้ายผม และห้ามโทรแจ้งตำรวจด้วย”
เธอไม่ขยับและไม่ตอบผม
“คุณต้องตอบผมก่อน ผมถึงยอมปล่อยตัวคุณ”
เธอไม่ได้ตอบผม
ผมรู้สึกลำบากใจ ผมทำได้เพียงล็อกเอวของเธอด้วยขาของผม และผมก็ไม่ได้ปล่อยมือของเธอและพูดอย่างใจเย็น
“ถ้างั้นผมจะอธิบายเรื่องของพวกอันธพาลให้คุณฟังก่อน เฉาเหวินหวยให้เงินพวกเขาหนึ่งล้านบาท เพื่อให้พวกเขาแกล้งทำเป็นรู้จักผม ฉวยโอกาสทำลายชื่อเสียงและทำลายความร่วมมือระหว่างเรากับBTT จากนั้นเฉาเหวินหวยก็จะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้”
“เมื่อสักครู่ผมไปหาอันธพาลพวกนั้น และได้รับการยืนยันเรื่องนี้ และผมได้ถ่ายวิดีโอการสนทนาระหว่างผมกับอันธพาลพวกนั้น เดี๋ยวผมจะเปิดให้คุณดู”
“มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ อันที่จริงเมื่อคืนเฉาเหวินหวยมาหาผม เขาอยากจะให้ผมไปทำงานที่บริษัทของเขา แต่โดนผมปฏิเสธ ตอนนั้นผมผิดใจและทะเลาะกับเขาด้วยวาจา”
ไป๋เวยไม่ได้ดิ้น และไม่ได้ด่าผม ดูเหมือนเธอจะสนใจเรื่องที่ผมพูดมากๆ
ผมพูดอีก”มีคำพูดหนึ่งที่ว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ในเมื่อเฉาเหวินหวยกล้าลอบกัดผม ผมก็ต้องเอาคืนเขาเหมือนกัน เพราะผมเป็นคนที่มีความแค้นต้องชำระ เขาปฏิบัติกับผมยังไง ผมก็จะปฏิบัติกับเขาอย่างนั้น
“คุณไม่ต้องห่วง โปรเจ็กต์นี้ยังไงก็เป็นของพวกเราอย่างแน่นอน ผมหาวิธีแก้แค้นเฉาเหวินหวยได้แล้ว รอให้BTTปฏิเสธบริษัทซิลิคอนแวลลีย์กับบริษัทอินเดียแล้ว และทั้งสองบริษัทนั้นเดินทางออกไปจากเชียงใหม่ ผมจะทำให้คุณเห็นเฉาเหวินหวยโดนBTTปฏิเสธ จากนั้นBTTก็คงต้องเซ็นสัญญากับพวกเราเท่านั้น”
“ดังนั้น ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาต่อว่าหรือด่าผม เพราะการเดิมพันของเรายังไม่สิ้นสุด ถ้า……คุณแพ้ คุณก็ต้องนอนกับผมหนึ่งคืน”
“คุณฝันไปเถอะ!”ไป๋เวยหันหน้ากลับมาด้วยความโกรธ เธอหันหน้ามาทางผม และรีบหันหน้าหนีไปทันที หลังจากนั้นเธอก็ดิ้นอีกครั้ง
ผมล็อกเอวของเธอไว้แน่น กดสะโพกของเธอลงมา จากนั้น……
เธออ้าปากค้างทันที มองหน้าผมด้วยความหวาดกลัว
สายตาของเธอ เสียงหายใจหอบของเธอ และสัมผัสนั้น……ทำให้จิตใจที่สั่นไหวของผม ไม่สามารถสงบลงและทำให้ผมใจสั่นมากขึ้น
จากนั้น ผมก็กอดเธออีกครั้ง
ผมเกือบจะได้จูบริมฝีปากสีแดงอันเซ็กซี่ของเธออีกครั้ง แต่เธอส่ายหัวอย่างรุนแรง”ไม่เอา ไม่เอา ฉันขอร้องละ……”
ผมได้สติขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นผมก็อารมณ์เสียและเขินอาย เพื่อให้บรรยากาศไม่ตึงเครียด ผมพูดติดตลกว่า
“คือ……พวกเราเคยพนันกันไว้ ยังไงคุณก็ต้องนอนกับผมคืนหนึ่ง ก็คิดซะว่าคุณทำตามสัญญาละกัน”
“ไม่!”ไป๋เวยส่ายหัวโดยไม่ลังเล”ฉันไม่นอนกับคุณหรอก……คุณอย่าคิดเพ้อเจ้อเลย”
ผมพูดอย่างจำใจ”ดูเหมือนคุณยังไม่เชื่อว่าผมสามารถเอาโปรเจ็กต์นี้คืนมา งั้นรอให้เซ็นสัญญาจนเสร็จแล้วคุณค่อยมานอนกับผม แต่ตอนนี้ คุณต้องร่วมมือกับผมและสังเกตสองเรื่อง”
ไป๋เวยไม่ได้ขยับและไม่ได้ตอบ
“คุณยังอยากได้โปรเจ็กต์นี้คืนมาไหม?”ผมถามเธออีกครั้ง
“ไม่อยากได้”คำตอบของเธอทำให้ผมประหลาดใจ
ผมอดไม่ไหวก็เลยหัวเราะออกมา
“ประธานไป๋ อย่าโกรธเลย โปรเจ็กต์นี้มีมูลค่าหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์ ถ้าคิดเป็นเงินหยวนก็น่าจะประมาณสิบล้านหยวน ถึงแม้กำไรจะไม่ใช่ของคุณ แต่คุณมีค่าคอมมิชชั่นและโบนัสสิ้นปี มันยังสามารถให้ผลประโยชน์ด้านอื่นๆด้วย อย่างเช่นการเลื่อนตำแหน่ง……อ้อ ผมลืมไปว่าคุณมีพ่อที่รวยมากๆ”
“แต่คุณก็ไม่ควรเห็นแก่ตัวอย่างนี้ คุณต้องคิดถึงคนอื่นๆในทีมโปรเจ็กต์ คิดถึงคนที่ทำงานในบริษัทเพื่อโปรเจ็กต์นี้ด้วย อย่างเช่นพวกโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานล่วงเวลาเพื่อพัฒนาระบบนี้ คุณไม่ควรปล่อยโปรเจ็กต์นี้เพราะโดนคนเลวอย่างผมแต๊ะอั๋ง และทำให้พวกเขาต้องสูญเสียผลประโยชน์ไป”
“ยิ่งไปกว่านั้น ผมแค่แต๊ะอั๋งคุณเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลย……”
“คุณหุบปากเดี๋ยวนี้”ไป๋เวยขมวดคิ้วและจ้องผมด้วยความโกรธ
“ได้ ผมหุบปากก็ได้”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้ พวกเราต้องคุยเรื่องงานให้เสร็จก่อน จากนั้นผมต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่แจ้งตำรวจ”
ไป๋เวยหายใจหอบและจ้องมองมาที่ผม
ผ่านไปสักพัก เธอก็ระงับความโกรธของตัวเองลงและถามอย่างเย็นชา”คุณพูดมาได้เลยว่าจะเอาโปรเจ็กต์นี้คืนมาได้ยังไง และต้องการให้ฉันร่วมมือกับคุณยังไง?”
ผมครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และพูด”อันดับแรก เราต้องรู้การเคลื่อนไหวของเฉาเหวินหวย เอาที่อยู่ของโรงแรมและเบอร์โทรศัพท์ของเฉาเหวินหวยมาให้ผม พวกเราต้องได้เบอร์โทรศัพท์ของอนุรักษ์ด้วย จากนั้นก็ค่อยจับตาดูพวกอเมริกาและพวกอินเดีย ถ้าพวกเขาเดินทางออกจากเชียงใหม่ก็รีบรายงานให้ผมทราบทันที มีอีกเรื่องหนึ่งสำคัญมากๆ ต้องค่อยจับตาดูการเจรจาระหว่างเฉาเหวินหวยกับBTT และต้องรายงานความคืบหน้ากับผมตลอด”
สายตาของไป๋เวยเริ่มเย็นชามากขึ้น”คุณอย่าลืมนะ ฉันเป็นหัวหน้า ทำไมฉันจะต้องรายงานความคืบหน้ากับคุณด้วย”
อาจจะเป็นเพราะผมเจอสายตาเย็นชาแบบนี้ทุกวัน ผมก็ไม่สนใจและพูดอย่างเฉยเมย
“คุณไม่รายงานความคืบหน้ากับผมก็ได้ ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดแล้วเอาโปรเจ็กต์นี้คืนมาไม่ได้ คุณก็อย่ามาโทษผม”
ไป๋เวยจ้องหน้าผมอยู่สักพัก แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอพูดเพียงสามคำ”ปล่อยฉันไป”
“คุณต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่แจ้งตำรวจ?”
“ถ้าคุณยังไม่ยอมปล่อยฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจจริงๆ”
“ได้”
ผมแสร้งทำเป็นปล่อยมือทั้งสองข้างของเธอ ระวังโดนมือของเธอตบหน้าตลอดเวลา ในขณะที่ไป๋เวยโล่งใจและกำลังจะลุกขึ้น ผมก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง ในขณะที่สายตาตกตะลึงและโกรธของเธอมองผมอยู่ ผมก็จูบริมฝีปากอันนุ่มของเธอทันที……
หลังจากนั้น ผมเห็นใบหน้าที่สวยงามของผู้หญิงคนนี้ หน้าของเธอแดงก่ำและสวยงามมากๆ
คอมเม้นต์