ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 19 ฝันไปเถอะ
เมื่อริมฝีปากของพวกเราแยกจากกัน เธอรีบพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมาและถอยหลังอย่างรวดเร็ว ถอยไปอยู่หลังกำแพงและจัดเสื้อผ้าของตัวเอง และเธอก็หายใจหอบ
ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้โทรหาตำรวจ
เมื่อสักครู่ขณะที่เธอลุกขึ้นจากผม ผมรู้สึกโล่งใจทันที เพราะแรงกดดันบนหน้าอกของผมมันมากเกินไป ผมรู้สึกผิดและรู้สึกเสียดาย รู้สึกตัวเองพลาดสิ่งสำคัญมากๆไป
“พูดมาเลย คุณจะจัดการเฉาเหวินหวยยังไง คุณจะเอาโปรเจ็กต์คืนได้ยังไง?”จู่ๆไป๋เวยถาม
“ถึงเวลานั้นคุณก็จะรู้เอง เพราะผมจะพาคุณไปดูสิ่งที่เกิดขึ้น”
“หึ ชอบหลอกลวงผู้อื่น ฉันจะดูว่าคุณจะเอาโปรเจ็กต์คืนมายังไง”
เมื่อพูดจบ ไป๋เวยหันหลังแล้วกำลังเดินจากไป
“ประธานไป๋ อย่าลืมหาคนไปจับตาดูการเคลื่อนไหวของเฉาเหวินหวยด้วย และหาเบอร์ของเฉาเหวินหวยกับอนุรักษ์ให้ผมด้วย และจับตาดูบริษัทอินเดียและบริษัทอเมริกาด้วย”ผมพูดกับเธอ
เธอไม่ได้ตอบ ผมได้ยินเสียงปิดประตูดัง”ปัง”ทันที
ผมมองไปที่ประตู เมื่อแน่ใจว่าประตูปิดสนิทแล้ว ผมส่ายหัวและยิ้ม จากนั้นผมก็ดึงผ้าห่มและหมอนแล้วนอนต่อ
เมื่อคืนผมเขียนต้นฉบับจนถึงกลางดึก ตั้งแต่เช้าผมก็ไปพูดอธิบายโปรเจ็กต์เป็นเวลาสองชั่วโมง ทำให้ผมเหนื่อยมากๆ
ผมหลับไปอย่างไม่รู้ตัวและผมก็ฝัน ฝันว่าผมผลักไป๋เวยไปชิดกำแพง ผมกระตือรือร้นที่จะทำมิดีมิร้ายเธอ ในความฝันไป๋เวยให้ความร่วมมือเป็นพิเศษ ราวกับว่าเธอทำตามที่แพ้พนันไว้กับผม
ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ผมก็ไม่ได้คิดมาก แค่อยากจะปลดปล่อยตัวเองสักครั้ง……
ในช่วงเข้าได้เข้าเข็ม จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคย ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นๆมาราดบนศีรษะของผม
ผมสะดุ้งและตื่นทันที ผมพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความฝัน แต่เสียงเรียกเข้ายังคงดังอยู่ ซึ่งเสียงนั้นมาจากโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่ข้างเตียง
ผมด่าด้วยความโมโหและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อแต่เบอร์นี้คุ้นมากๆ
ผมรับโทรศัพท์ด้วยความสงสัย และมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น”ฟางหยาง ฉันไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม?”
“โล่สุ่ย?”หลังจากที่ผมถาม ผมก็รู้สึกเสียใจทันที ทำไมผมถึงไม่เรียกนามสกุล’หลิน’ของเธอด้วย
“อืม ฉันเอง”
“คุณมีธุระอะไรเหรอ?”
เมื่อเธอได้ยินน้ำเสียงอันเย็นชาของผม หลินโล่สุ่ยที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ก็เงียบทันที
ผมอยากจะวางสาย ไม่อยากจะมีสัมพันธ์อะไรกับเธออีก
เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับความรักเหมือนเมื่อสามปีที่แล้ว และไม่ใช่ผู้ชายโง่เง่าที่มองความรักเหนือทุกสิ่ง
เมื่อผมทนไม่ไหวและจะกดวางสาย ในที่สุดหลินโล่สุ่ยก็เอ่ยปากพูด ใช้น้ำเสียงที่เบาและรู้สึกผิดพูดว่า”ฟางหยางฉันขอโทษ ฉันโทรมาเพื่อจะกล่าวคำขอโทษกับคุณ ฉันไม่รู้ว่าเหวินหวยจะใช้วิธีที่สกปรกแบบนี้ไป……ยังไงก็ตาม ฉันต้องขอโทษจริงๆ ฉันขอโทษแทนเขาด้วย”
ผมรู้สึกรำคาญ”คุณมาขอโทษทำไม? มันไม่จำเป็น ผมไม่ยอมรับคำขอโทษจากคุณ ในเมื่อเป็นศัตรูกันแล้ว ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ถ้าสุดท้ายแล้วใครแพ้คนนั้นก็เป็นลูกหมา”
“ฟางหยาง อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นคนเลวร้าย เขาเป็นคนชอบเอาชนะ เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนไปหน่อย คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ และอีกอย่าง คุณ……คุณเอาชนะเขาได้จริงๆเหรอ”
“เหอะๆ”ผมทนไม่ไหวก็เลยหัวเราะออกมา”ถ้ายังไม่ถึงที่สุด ก็คงไม่รู้ว่าใครแพ้หรือใครชนะกันแน่ คุณก็รอดูแล้วกัน”
“ฟางหยาง……”
“คุณยังมีอะไรจะพูดอีกเหรอ?”
“คุณเปลี่ยนไปมากๆ”ขณะที่หลินโล่สุ่ยพูดคำนี้ออกมา ดูเหมือนเธอจะลังเลอยู่ชั่วครู่
ผมตอบอย่างใจเย็น”คุณพูดถูก ผมเปลี่ยนไปจริงๆ การติดคุกสามปีมันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ผมเข้าใจโลกความจริงมากขึ้น ตอนนี้ผมสามารถปล่อยวางได้ทุกอย่าง แต่ผมเปลี่ยนไปเป็นคนแบบนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณ เพราะพวกเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันมาตั้งนานแล้ว”
“เงินที่คุณเคยโอนให้ผมห้าหมื่นหยวน ภายในหนึ่งเดือน ผมจะคืนเงินทั้งหมดให้คุณอย่างแน่นอน”
“ไม่ต้องคืนแล้ว คุณก็คิดซะว่าเงินก้อนนั้นฉันชดเชยให้คุณละกัน”หลินโล่สุ่ยพูดอย่างเย็นชา
ผมรู้สึกโกรธ”คุณไม่ต้องมาชดเชยให้ผม พวกเราสองคนไม่ได้ติดค้างกัน คุณไม่ต้องสงสารผมด้วยการให้เงิน เพราะผมจะมีชีวิตที่ดีด้วยตัวเอง ถึงแม้ผมจะอดตาย ผมก็จะไม่ใช้เงินของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าเงินห้าหมื่นหยวนนี้เป็นของคุณหรือเฉาเหวินหวยกันแน่”
หลินโล่สุ่ยนิ่งเงียบ
“แค่นี้แหละ ลาก่อน”
ผมวางสาย โยนโทรศัพท์ไปที่เตียงอย่างแรง
หลังจากนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะใช้มือดึงเส้นผมของตัวเอง ใช้วิธีนี้ระบายความโกรธที่อยู่ในใจ และขจัดความเศร้าที่อธิบายไม่ได้
ผมทำแบบนี้ และนั่งนิ่งอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน
ผ่านไปสักพัก ผมด่าออกมาอย่างรุนแรง จากนั้นก็หยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟแล้วสูบบุหรี่ทันที
ผมจะต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ ผมจะไม่เสียใจกับความรักที่ไร้สาระอีกต่อไป ผมจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะผู้หญิงคนไหนอีก
หลังจากสูบบุหรี่หมดไปหนึ่งม้วน ผมได้รับข้อความจากไป๋เวย บอกว่าช่วงบ่ายเฉาเหวินหวยได้พาคนในบริษัทไปเที่ยวที่เมืองโบราณ เธอยังส่งเบอร์โทรศัพท์กับโรงแรมของเฉาเหวินหวย และเบอร์โทรศัพท์ของอนุรักษ์มาให้ผมพร้อมกัน
ผมหายใจลึกๆหลายครั้ง ทำให้ตัวเองใจเย็นและสงบ จากนั้นค่อยออกจากประตูไป
ผมซื้อวิกผมและหนวดปลอมอย่างละสองชิ้น ปลอมตัวเป็นผู้ชายที่ไว้หนวดเครา จากนั้นก็หาบาร์เกย์ที่อยู่ใกล้ๆ ผมเลือกบาร์ที่อยู่ไกลๆและเงียบสงบ และจำที่อยู่ของร้านบาร์นี้ไว้
หลังจากนั้น ผมเช่ารถจักรยานยนต์และขับมาที่โรงแรมของเฉาเหวินหวย ผมสั่งเครื่องดื่มหนึ่งแก้วจากร้านชานมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม และนั่งเงียบๆมองดูฝั่งตรงข้าม รอให้เฉาเหวินหวยปรากฏตัว
บัญชาต้องมาหาเฉาเหวินหวยอย่างแน่นอน เฉาเหวินหวยอาจจะโกรธมากๆและคงด่าอันธพาลพวกนี้ที่ไม่รักษาคำพูด แต่เขาก็ต้องจำยอมให้เงินอันธพาลพวกนี้อย่างแน่นอน
เพราะเฉาเหวินหวยต้องการโปรเจ็กต์ของBTTมากๆ เขากลัวบัญชาจะเปลี่ยนมากลั่นแกล้งเขา จนทำให้เขาเสียโปรเจ็กต์นี้ไป เมื่อเทียบกับกำไรของโปรเจ็กต์นั้น ถ้าต้องจ่ายเพิ่มหนึ่งถึงสองล้านบาท สำหรับเขามันเป็นเรื่องที่เขารับได้อยู่แล้ว
เขากับบัญชาจะต้องใช้เวลาในการเจรจาอย่างแน่นอน เพื่อพยายามต่อรองราคา จากนั้นเขาคงไปเตรียมเงินสด เพราะเขาไม่กล้าโอนเงินให้บัญชา เพราะเขากลัวว่ามันจะกลายเป็นหลักฐานที่เขาร่วมมือกับอันธพาลพวกนี้
จากนั้น เขาก็จะมาเจอบัญชาและจ่ายเงินสด
อาจจะเป็นคืนนี้ หรืออาจจะเป็นพรุ่งนี้ หรืออาจจะเป็นวันมะรืนในช่วงเทศกาลเป็นวันสงกรานต์
ผมต้องอดทน เฝ้ามองเฉาเหวินหวยและนั่งรออย่างช้าๆ ผมจะเปลี่ยนแผนการตามสถาณการณ์ที่เปลี่ยนไป
ช่วงเย็น เฉาเหวินหวยและพนักงานของม่านดีโคร์กรุ๊ปกลับมาที่โรงแรม ผ่านไปไม่นาน หลินโล่สุ่ยกอดแขนของเฉาเหวินหวยและ
ปรากฏตัวที่หน้าประตูโรงแรม และเดินไปที่ร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ พวกเขาไม่ได้กลับไปที่โรงแรม แต่ขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งไป
ผมขับรถจักรยานยนต์ที่เช่ามาตามอยู่ด้านหลังพวกเขา
เฉาเหวินหวยพาหลินโล่สุ่ยไปย่านใจกลางเมืองเพื่อช็อปปิ้ง ทานขนม ซื้อของฝาก โดยพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ
ผมแสร้งทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแล้วเดินตามหลังพวกเขา เห็นพวกเขากอดกัน เห็นเฉาเหวินหวยกอดเอวของหลินโล่สุ่ย เห็นหลินโล่สุ่ยยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข……
ผมพยายามอดกลั้น ไม่ปล่อยให้ความเศร้าและความโกรธส่งผลต่อความใจเย็นและความคิดของผม
ตอนดึกสามทุ่มกว่าๆ เฉาเหวินหวยกับหลินโล่สุ่ยกลับมาถึงโรงแรม จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ออกจากโรงแรมอีก
คอมเม้นต์