ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่44 พี่สะใภ้
หลายวันมานี้ที่อยู่ในโรงพักผมคิดอะไรได้บางอย่าง มีเงินจึงจะมีความสามารถ
แต่จะตัดสินอะไรซี้ซั้วไม่ได้ ต้องดูก่อนว่าตู้หมิงเฉียงจะเดินทางสว่างอย่างเดียวจริงๆใช่มั้ย จะได้ไม่ถูกเขาหลอกได้
แล้วผมก็รู้ว่าเขาคนนี้ฉลาดมาก บางครั้งถึงขั้นฉลาดเกินไป ไม่ว่าจะในเรื่องผู้คนหรือปัญหา ก็โหดเหี้ยมใช้ได้ เพื่อบรรลุเป้าหมายเขาสามารถที่จะไม่ใช่เล่ห์ก็ใช้กลได้
พูดจริงๆ ผมไม่อยากทำธุรกิจกับคนที่ทั้งฉลาดและโหมเหี้ยม ความรู้สึกนั้นเหมือนมีภัยอันตรายได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น ตู้หมิงเฉียงมีตระกูลที่ทั้งยิ่งใหญ่และความสัมพันธ์ซับซ้อน สมาชิกในครอบครัวกระจายกันอยู่ตามประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งหมดต่างทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น
เหมือนกับว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบางคนในครอบครัว ที่ถูกจับเข้าคุกห้าปี เหมือนว่าจะถูกคนพวกนั้นเล่นงานเข้าให้
ผมไม่อยากเข้าไปแก่งแย่งผลประโยชน์ของกลุ่มอาชญากรแบบนี้ ที่ไม่ทันได้ระวังตัวก็เสียชีวิตประมาณนี้
“อาหยาง เรื่องนี้ก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร รอให้แกคิดให้ถี่ถ้วนแล้วมาหาฉันได้ตลอดเวลา ถ้าแกไม่อยากทำ ก็ไม่เป็นไร ก็ยังเป็นพี่น้องเหมือนเดิม”
ราวกับดูออกถึงความลังเลของผม ตู้หมิงเฉียงจึงได้พูดเสริมต่อ
ผมพยักหน้า “เหล่าตู้ ไม่ว่าอนาคตจะได้ร่วมงานกับคุณมั้ย ผมขอขอบคุณ ความหวังดีนี้ของคุณก่อนเลยก็แล้วกัน และขอบคุณที่เห็นค่าในตัวผม”
“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ พวกเรามีความผูกพันทางจิตใจ อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้ให้เงินแกฟรีๆ แค่อยากให้แกช่วยฉันหาเงินก็เท่านั้น”
“คนล่ะเรื่องกัน ฉันรู้ว่าแกหวังดี”
ตู้หมิงเฉียงหัวเราะ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อีกต่อไป
“อ้อ เหล่าตู้ ครั้งนี้ที่ช่วยผมออกมา จ่ายเงินไปเท่าไหร่? เดี๋ยวผมคืนให้คุณ”
“ไม่ได้จ่ายเงิน แค่ใช้เกียรตินิดหน่อยเท่านั้น เดิมทีแกก็ไม่ได้ทำผิด การที่จะช่วยออกมาก็ง่าย ส่วนถ้าแกอยากเล่นงานคืน……ฉันพอจะเข้าใจเรื่องบ้างแล้วล่ะ เบื้องหลังของครอบครัวกงเจิ้งเหวินใหญ่มาก ต่อกรไม่ค่อยง่ายสักเท่าไหร่ ต้องคิดให้ดีๆ แต่เฉาเหวินหวยนั่นจัดการได้ง่ายๆ แต่เมื่อวานมันเพิ่งจะกลับประเทศไป ต้องกลับไปก่อนจึงจะจัดการมันได้
“ส่วนบัญชา นักเลงกะโปก จัดการมันง่ายมาก มันออกมาช้าหน่อย เพราะคดีนี้เดิมทีไม่มีมูล ผู้เสียหายBTTอะไรนั่นยังไม่รู้เลยว่ามีคดีความ ตอนนี้มีคนปรากฏตัวออกมาแล้ว คดีความจะถอนฟ้องไปอย่างเร็ว รอมันออกมาเราค่อยไปเอาคืนมัน วางใจได้ ฉันเอาอาวุธมา ไม่มีทางเสียเปรียบ”
ผมพยักหน้า “อืม กงเจิ้นเหวินค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าสู่ต่อหน้าเอาไม่อยู่ ทำได้เพียงลอบกัดมัน เรื่องนี้ไม่รบกวนคุณก็แล้วกัน ผมค่อยๆลงมือก็โอเคแล้ว”
ตู้หมิงเฉียงมองผมอย่างสนใจ “ที่สู้มันไม่ได้ พูดจริงๆก็เพราะแกไม่มีเงิน”
ผมหัวเราะอย่างเซ็ง “จริง”
เขาพูดไม่ผิด พูดตรงๆก็เพราะผมไม่มีเงิน
เฉาเหวินหวยโอบกอดหลินโล่สุ่ย ประชดประชันผมต่อหน้าผมว่า ไอ้ยาจก ถามผมว่าจะเอาอะไรไปสู้มัน
กงเจิ้งเหวินก็ว่าผมว่าไอ้ยาจก และก็ถามผมเหมือนกันว่าเอาอะไรไปสู้มัน สุดท้ายจะใช้เงินซื้อชีวิตผม
ดังนั้น ผมอยากหาเงิน หาเงินให้มากๆๆ จากนั้นก็ฆ่าพวกมันเสีย
อีกอย่าง ผมต้องนอนกับไป๋เวยให้ได้ ให้กงเจิ้งเหวินโมโหจนกระอักเลือดออกมา
แล้วก็ยังมีไป๋เวยผู้หญิงที่ไร้ความรู้สึกไร้คุณธรรม กูช่วยชีวิตมันสองครั้ง ติดคุกเพื่อมัน วันนี้มันเห็นคนกำลังลำบากแต่ไม่ช่วย กูจะไม่ให้มันมีความสุข
หลังจากที่ถามตู้หมิงเฉียงและโล๋อีเจิ้ง ผมเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองเพิ่งจะเข้าไปได้สามวัน เพราะถูกขังไว้ในห้องเล็กที่มืดสลัวไร้เดือนไร้ตะวัน ไม่รู้เลยเสียด้วยซ้ำว่าตอนไหนพระอาทิตย์ขึ้นตอนไหนพระอาทิตย์ตก รู้เพียงแค่เวลามันช่างยาวนานเหลือเกิน คิดว่าผ่านไปหลายวันแล้วเสียอีก
ตู้หมิงเฉียงพูดว่า โครงการการร่วมมือทางการค้าระหว่างบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์กับBTTไม่มีปัญหาอะไร ช่วงหลายวันนี้ไป๋เวยกำลังคุยรายละเอียดสัญญากับอีกฝ่าย น่าจะใกล้เซ็นสัญญาร่วมมือกันแล้วล่ะ
กงเจิ้งเหวินยังคงอยู่ที่เชียงใหม่ แล้วยังอยู่เป็นเพื่อนไป๋เวยทุกวันอีกด้วย
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่เคยพักเมื่อก่อน ผมเพิ่งจะพบว่าไป๋เวยได้เช็คเอ้าท์ห้องพักของตนแล้ว ทางโรงแรมจัดเก็บสัมภาระให้อยู่
ผมเปิดห้องใหม่ ห้องนั้นที่อยู่ข้างๆห้องของไป๋เวยยังว่างอยู่พอดี ดังนั้นจึงได้เลือกห้องนั้น
และได้เปิดห้องให้โล๋อีเจิ้งอีกห้อง เขาเพิ่งจะถึงเชียงใหม่วันนี้ ยังไม่ได้จองที่พัก
ตู้หมิงเฉียงมีที่พัก ไม่ต้องจัดการแทนเขาเลยแม้แต่น้อย
ผมกลับไปอาบน้ำที่ห้อง และได้พูดคุยกับตู้หมิงเฉียงและโล๋อีเจิ้งอีกสักพัก เกือบจะถึงช่วงอาหารค่ำตอนนั้นจึงจะออกจากโรงแรมไป
เมื่อเดินออกจากโรงแรม ผมได้เปิดประตูรถเบนซ์ของตู้หมิงเฉียง ตอนที่กำลังจะขึ้นรถ หางตาได้เหลือบไปเห็นชายหญิงสองคนที่คุ้นๆเดินริมถนนเข้ามาที่ประตูโรงแรม
ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่รีบขึ้นรถ แต่หันหลังไป จ้องชายหญิงชั้นต่ำที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ กงเจิ้งเหวินและไป๋เวย
ตู้หมิงเฉียงรู้สึกได้ถึงความแปลกไปของผม จึงได้หันไปดู จากนั้นก็ส่งสายตาให้ลูกน้องทั้งสามคนของเขา ลูกน้องของเขารับคำสั่ง กระจายกันเข้าประชิดกงเจิ้งเหวินและไป๋เวยอย่างช้าๆ
“พี่หยาง นั่นคือไอ้หมาเย็ดแม่งเหรอ?” โล๋อีเจิ้งยืนข้างผมแล้วจ้องไปที่กงเจิ้งเหวินแล้วถาม
“อืม เดี๋ยวแกห้ามทำอะไรนะ”
“พี่หยาง ทำไมล่ะ?”
ฉันกลัวแกจะไม่มีความพอดี ถ้าเป็นเรื่องใหญ่จะสร้างปัญหาให้เหล่าตู้อีก ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องหลังของตระกูลกงเจิ้งเหวินยิ่งใหญ่ พยายามไม่ลงมือจะดีที่สุด ฉันจะใช้วิธีอื่นฆ่ามัน”
“ถูก อาหยางพูดถูก อายุนี้แล้วชกต่อยฆ่าแกงให้น้อยๆลงหน่อย ทำอะไรใช้สมอง” ตู้หมิงเฉียงพูดอยู่ข้างๆ
“พี่เฉียง ผมฉลาดอยู่” โล๋อีเจิ้งมองเขาอย่างน้อยใจ
ในขณะที่พวกเราพูดคุยกัน กงเจิ้งเหวินและไป๋เวยได้เดินใกล้เข้ามาแล้ว ทั้งสองแทบจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเห็นผมที่ยืนอยู่ข้างๆรถเบนซ์ข้างถนน จากนั้นก็ชะงักไปทันใด
“ประธานกง ไม่เจอกันนานสบายดีมั้ย”
ผมพูดอย่างสงบ ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าวมาถึงด้านหน้าของกงเจิ้งเหวิน
กงเจิ้งเหวินได้สติกลับมา จึงได้ถามอย่างแสร้งตกใจว่า “ฟางหยาง แกออกมาได้ยังไง? ตำรวจพวกนั้นเข้าใจผิดจากนั้นจึงได้ปล่อยแกออกมาใช่มั้ย?”
“เหอะๆ” ผมยกมือขึ้น แล้วตบเบาๆสองครั้งไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลานุ่มๆนั้นของเขา แล้วกล่าว “ประธานกง อยากเสแสร้งยังไงก็ทำไปเถอะ ผมก็แค่อยากบอกคุณว่า ผมจะเล่นคุณให้ตาย”
กงเจิ้งเหวินผลักมือผมออกด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฟางหยาง กรุณาอย่าทำแบบนี้ ผมให้เกียรติคุณมาตลอด ขอคุณกรุณาให้เกียรติผมด้วย”
“มึงแม่งแสดงอะไรของมึงวะ” โล๋อีเจิ้งทนดูต่อไปไม่ไหว จึงได้พุ่งเข้าไปอย่างเร็ว
ลูกน้องทั้งสามของตู้หมิงเฉียงก็รีบล้อมไว้อย่างเร็ว เพียงแค่รอคำสั่งของผม บางทีพวกเขาอาจจะเอากงเจิ้งเหวินจนตายก็เป็นได้
ผมรีบขวางโล๋อีเจิ้งไว้ ส่งสัญญาณให้ลูกน้องของตู้หมิงเฉียงว่าไม่ต้องร้อนรน จากนั้นก็ได้ยกมือขึ้นอีกครั้ง แล้วตบหน้ากงเจิ้งเหวินเบาๆอีกครั้ง
ครั้งนี้ กงเจิ้งเหวินไม่ได้ผลักมือผมออก ให้ผมตบหน้าเขาจนเป็นเสียงดัง”เพี่ยะๆ”
“ฟางหยาง พอได้แล้ว” ไป๋เวยทนดูต่อไปไม่ไหว จึงปัดแขนของผมออกอย่างแรง จากนั้นก็เข้ามาขวางไว้ตรงกลางระหว่างผมกับกงเจิ้งเหวิน
“เหอะๆ” ผมหัวเราะ แล้วพูดกับโล๋อีเจิ้ง “อาเจิ้ง นี่คือพี่สะใภ้ของแก”
คอมเม้นต์