ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 87 ใส่ร้ายป้ายสี
เบอร์โทรศัพท์ของเขาผมคุ้นเคยมาก ไม่ต้องหาชื่อ กดหมายเลขโทรศัพท์โดยครง หลังจากนั้นก็โทรออกได้เลย
สายโทรศัพท์ถูกรับเร็วมาก เขาทักทายผมด้วยน้ำเสียงปกติ แล้วเอ่ยถามว่า”สบายดีไหม?”
ผมหัวเราะแล้วตอบกลับ”พอได้ หลายวันก่อนทำออเดอร์ใหญ่ได้ ได้ค่าคอมมิชชันหลายหมื่น แต่เตรียมจะถูกไล่ออกแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ถูกคนใส่ร้าย”
ผมเล่าเรื่องของตัวเองกับกงเจิ้งเหวิน และเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนให้เขาฟังคร่าวๆ
ผมรู้สึกมาโดยตลอดว่าฉินโหย่วหยินเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด เพราะบนตัวของเขามีนิสัยวายร้ายบางอย่าง ในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดคนที่วางแผงขายอาหารมื้อดึกในมณฑลกวางตุ้ง ต้องคบค้าสมาคมกับนักเลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชกต่อยกับคนอื่นกระทั่งฆ่าคนไปหลายคน
พอฟังสิ่งที่ผมพูดจบ ฉินโหย่วหยินก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นมาว่า”คิดจะทำยังไง?”
“อู๋เฉิงจื้อกับโจวเมี่ยวนั่น ช่วยฉันสืบหน่อย จัดการสองคนนั้นก่อนมันง่ายกว่า”
“อืม เดี๋ยวนายส่งชื่อกับเบอร์โทรศัพท์ของพวกเขามาก็พอ”
“ถ้านายสืบได้แล้วอย่าพึ่งให้พวกเขารู้ตัว อีกเดี๋ยวฉันจะไปประเทศไทยแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาสองสามวันถึงจะกลับมา ถึงเวลานั้นฉันไปหานายดื่มเหล้าแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้ ถ้านายไปถึงที่นั่นเห็นกะเทยก็ถ่ายรูปให้ฉันดูหน่อยแล้วกัน”
“ในเน็ตมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันอยากได้รูปที่อยู่ข้างล่างโว้ย อยากดูว่าพวกเธอผ่าตัดแล้วด้านล่างตัวมันมีสภาพยังไง”
“โอ๊ย ไสหัวไป”
ฉินโหย่วหยินหัวเราะอย่างต่ำๆ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า”หลังจากที่ถูกไล่ออก นายวางแผนไว้ยังไง?”
ผมครุ่นคิด”ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร อาจจะหางานทำต่อไปก็ได้มั้ง”
“เคยคิดไหมว่าจะทำเอง?”
ผมหัวเราะ”นายยังไม่ตายใจอีกเหรอ?”
“คนยังไม่ตาย เอาใจที่ไหนมาตายล่ะ?”
“เหอะๆ นายสุดยอดจริงๆ ฉันน่ะ……ยังไม่ได้คิด เพราะตอนนี้ออกมาทำธุรกิจยากจริงๆ แต่ถ้ามีช่องทางที่ดีล่ะก็ จะทำแน่ นายถามคำถามนี้ มีช่องทางดีๆใช่ไหม?”
“ไม่มี”
“ไม่มีช่องทางนายทำเหี้ยอะไรล่ะ”
“ฉันแค่ลองถามนายดูเองว่ามีช่องทางอะไรดีๆไหม”
“จริงสิ นายยังจำที่ฉันบอกว่ารู้จักคนลักลอบขนสินค้าที่อยู่ในคุกนั่นได้ไหม?”
“จำได้สิ ทำไมเหรอ?”
“ไอ้หมอนั่นรวยมากเลยนะ อีกทั้งมีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พอตัวเลย ไม่นานมานี้เขาเคยเรียกฉันให้ไปช่วยงาน บอกว่าเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย แต่ฉันไม่ได้ตอบตกลง”
“จริงนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องเข้าวงการนั้น ถึงเวลาจะออกมาจะเป็นการยาก”
“เอาล่ะ ฉันต้องรีบไปขึ้นเครื่อง ไม่คุยกับนายแล้วนะ”
“ไปเถอะ อย่าลืมถ่ายรูปมาให้ฉันด้วยนะ”
ผมขี้เกียจตอบรับเขา จึงวางสายในทันที แล้วส่งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของอู๋เฉิงจื้อกับโจวเมี่ยวส่งให้เขา แล้วสะพายกระเป๋าขึ้นเดินออกจากบริษัทโบกรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปสนามบิน
ระหว่างทาง ผมได้รับสายจากสันติสุขที่โทรมาจากไทย พึ่งรับสาย ปลายสายก็มีเสียงรีบร้อนของเขาดังลอดขึ้นมา”หยาง นายเป็นคนถ่ายคลิปของคุณอนุรักษ์กับเฉาเหวินหวยที่บาร์เกย์ใช่ไหม?”
หัวใจของผมหล่นวูบ เป็นไปตามกงเจิ้งเหวินได้ปล่อยคลิปไปที่ประเทศไทยแล้ว
เพื่อเป็นการทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้น เขาต้องทำแบบนั้นแน่ๆ ตอนนี้เขากลับวางแผนทำร้ายเฉาเหวินหวย แน่นอนว่าไม่มีทางแคร์ความรู้สึกของอนุรักษ์อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขากับอนุรักษ์ก็ไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ
“หยาง ทำไมไม่พูดล่ะ?”เห็นผมไม่ตอบกลับ สันติสุขจึงถามอีกครั้ง
ผมถามกลับอย่างเรียบเฉย”คลิปนั้นถูกปล่อยไปที่เว็บไซต์ท้องถิ่นของพวกคุณแล้วใช่ไหม แล้วค่อยปล่อยไปที่บริษัทของพวกคุณ?”
น้ำเสียงของสันติสุขเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที”หยาง ผมหวังว่าคุณจะตอบคำถามของผม คลิปนั้นคุณเป็นคนถ่ายใช่ไหม?คุณเป็นคนปล่อยออกไป?ทำไมคุณต้องทำแบบนั้นด้วย หรือคุณไม่รู้ว่ามันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณอนุรักษ์ใหญ่ขนาดไหน?”
ผมไม่รู้จะทำอย่างไร”สันติสุข คุณคิดว่าผมโง่ขนาดนั้นรึไง?เรื่องนี้มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับผมด้วยซ้ำ มีแค่เสียกับเสีย ผมจะเอาคลิปนั้นปล่อยไปได้ยังไง คนร้ายคือคนอื่น มีคนจงใจใส่ร้ายป้ายสีผม”
ผมไม่ได้ยอมรับ และไม่ได้เอาเรื่องที่ตัวเองกับกงเจิ้งเหวินผิดใจเล่าให้เขาฟัง เพราะผมมีวิธีแก้ปัญหาที่คิดไว้แล้ว คนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี
รวมถึงสันติสุข ผมไม่สามารถเชื่อใจเพื่อนแบบผิวเผินแบบนี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้เขาจะไม่มีมีเจตนาร้ายใดๆกับผมก็ตาม กระทั่งมีเพียงแค่ความหวังดี เรื่องแบบนี้ถ้าต้องปกปิดก็ควรปกปิดไว้ ไม่ว่าความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างเราจะต้องแตกหักกันไป
พอฟังที่ผมเล่าจบ สันติสุขก็สะอึกไปชั่วครู่ หลังจากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า”หยาง ผมไม่รู้ว่าควรเชื่อคุณดีไหม รู้แค่ว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณจริงๆ ตอนนี้คลิปนั้นได้ถูกปล่อยไปทั่วทั้งบริษัทของพวกเขาแล้ว ทุกคนแทบจะรู้กันเกือบหมดว่าคุณอนุรักษ์เป็นเกย์”
“สิ่งที่ร้ายแรงไปมากกว่านั้นก็คือ มีข่าวลือว่าเขาขอสินบนทางเพศกับเฉาเหวินหวย หลังจากที่เขาได้มาแล้วก็ไม่ร่วมงานกับอีกฝ่าย แต่หันมา……”
พูดถึงตรงนี้ สันติสุขก็ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ถอนหายใจ แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
ผมอดไล่ถามเขาต่อไปไม่ได้ว่า”ข่าวลือพวกนั้น เนื้อหาด้านหลังคืออะไร?”
“หยาง ข่าวลือพวกนั้นมันไม่ค่อยน่าฟังเท่าไร”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ สันติสุข คุณน่าจะรู้ดีว่าคนอย่างผมสามารถรับความกดดันภายในจิตใจได้ ผมอยากรู้ว่าตอนนี้เรื่องราวไปถึงขั้นไหนแล้ว สิ่งนี้มันสามารถช่วยให้ผมแก้ปัญหาได้ คืนนี้ผมจะบินไปที่เชียงใหม่”
สันติสุขอ้ำอึ้ง หลังจากนั้นก็กดเสียงให้ต่ำแล้วพูดว่า”มีคนพูดว่า คุณอนุรักษ์ขอสินบนทางเพศกับเหวินหวยแล้ว เหตุผลที่ไม่รวมงานกับเขาเป็นเพราะ คุณก็บริการด้านนี้ให้เขาเช่นกัน อีกทั้งเขาชอบคุณมากกว่า เพราะฉะนั้นสุดท้ายบริษัทของเราจึงร่วมงามกับพวกคุณ”
พอได้ยินสิ่งที่สันติสุขพูดแล้ว ผมก็อดขำออกมาไม่ได้ กงเจิ้งเหวินหน้าด้านเกินไปแล้วมั้ง เรื่องไร้สาระแบบนี้ยังสามารถแต่งออกมาได้
ถ้าเขาปล่อยคลิปอย่างเดียว ผู้คนรู้ว่าคุณอนุรักษ์เป็นเกย์ จะมีผลกระทบไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะในประเทศไทยมีคนที่รักร่วมเพศไม่น้อย คนในท้องถิ่นจึงไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไร
แต่ถ้าหากพูดไปถึงเรื่องการติดสินบนทางเพศ โดยเฉพาะได้เฉาเหวินหวยแล้วค่อยมาเอาผม มันจึงต่างกัน เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องอื้อฉาว มันจึงเพิ่มระดับเป็นความผิดทางหน้าที่แล้ว
อนุรักษ์เป็นเพียงหัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของBTTกรุ๊ป ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่ใหญ่ที่สุด หากบอร์ดกรรมการไล่เขาออกด้วยเรื่องแบบนี้ แล้วเอาไปทำข่าว เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่
ในใจของผมเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้น หนึ่งเป็นเพราะลากอนุรักษ์มาติดร่างแหด้วย ตอนนี้เขาจะต้องเสียใจมากแน่ๆ สองกลัวว่าบอร์ดกรรมการของBTTกรุ๊ปจะเอาเหตุผลของเรื่องนี้ มายกเลิกสัญญากับบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ และจะไม่จ่ายแม้แต่ค่าผิดสัญญา ถึงเวลานั้นการขึ้นโรงขึ้นศาลจะเป็นอะไรที่ลำบากมาก
อีกทั้ง เรื่องนี้จะต้องทำลายภาพพจน์ของบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์หนักมากอีกด้วย จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชน และถึงขั้นวิกฤตเรื่องความไว้วางใจ
เมื่อสิ่งต่างๆมาถึงจุดนี้แล้ว อยากจะแก้ไขให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ถามสันติสุขในสายว่าคลิปปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร และถูกแพร่ออกไปได้อย่างไร
คอมเม้นต์