World domination system – Chapter 6 รางวัลและห้องสมุดเมือง
โจรแทงกริชมาทางศีรษะของเขา พร้อมแสดงเจตนาที่จะสังหารเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
โดยไม่คิดใดๆ แดนีลต่อยไปตามวิถีที่ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ และวิถีดังกล่าวมุ่งไปยังแขนของโจร ในตำแหน่งที่ใกล้กับข้อศอก
ขณะที่กริชพุ่งเข้ามาอยู่ห่างจากศีรษะของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร หมัดของเขาก็กระแทกไปที่ข้อศอกของโจรจนหัก และมันทำให้โจรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเสียงนี้ก็เองที่ปลุกให้พ่อของเขาตื่นและรีบวิ่งเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น
แทบจะในทันทีที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็เข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที โรเบิร์ตโกรธเป็นอย่างมาก และเขาชกไปที่โจรคนนั้นอย่างรุนแรง ซึ่งความเจ็บปวดจากการชกนี้ก็ทำให้โจรคนนั้นสลบไปในทันที
[ภารกิจเสร็จสิ้น ได้รับรางวัล แต้มประสบการณ์ 20 แต้ม, ความคืบหน้าระดับ 5%]
[ติ๊ง!]
[การกู้ยืมได้รับการชำระคืนแล้ว ขอบคุณสำหรับการใช้บริการธนาคารระบบ!]
แดนีลไม่เคยคิดว่าเขาจะฝันร้ายได้น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน เขาได้กลายเป็นทาสของระบบ ที่เก็บดอกเบี้ยจากเขาอย่างโหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากนี้ เขาสาบานกับตัวเองว่า เขาจะไม่กู้ยืมมันอีก อะไรคือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้? ระบบโม้ว่ามันจะช่วยให้เขาได้ครอบครองโลก แต่ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาครอบครองอยู่ก็คืออัตราดอกเบี้ยอันโหดร้ายของมัน
แดนีลคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ และส่วนหนึ่งในจิตใจของเขาต้องการคำตอบ ซึ่งมันก็ได้ทำให้ระบบทำการตอบสนอง
[ระบบจะต้องแจ้งให้โฮสต์ทราบว่า ทรัพยากรอย่างแต้มประสบการณ์และความคืบหน้าระดับ ระบบจะสามารถรับมาได้ผ่านการยอมรับจากโฮสต์เท่านั้น และระบบจะรับมาหลังจากที่ภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น]
[ระบบการกู้ยืมถูกนำมาใช้โดยผู้สร้างระบบ เพื่อช่วยเหลือโฮสต์ที่ยังอ่อนแอ มีพลังงานหลงเหลืออยู่ในระบบเพียงเล็กน้อย สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม มันก็มีพารามิเตอร์ที่เกี่ยวกับการใช้พลังงานนี้ นี่ก็เพื่อห้ามปรามโฮสต์จากการทำอะไรตามใจชอบที่มากเกินไป และสนับสนุนให้โฮสต์ทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงและได้รับรางวัล ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยจึงต้องเป็นเช่นนี้]
แดนีลไม่ได้คาดหวังว่าระบบจะตอบเขาเช่นนี้
“ลูกชาย? ลูกชาย! พวกเขาทำร้ายเจ้าหรือไม่? เป็นอย่างไรบ้าง?”
หลังจากที่ถูกพ่อของเขาเขย่าร่าง แดนีลก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง เขาไม่มีเวลาที่จะวิเคราะห์คำตอบของระบบ เพราะพ่อของเขากำลังจ้อมมาที่เขาด้วยความกังวล
“ไม่ ท่านพ่อ ข้าสบายดี ข้าแค่รู้สึกตกใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วตอนนี้ พวกเราควรจะทำเช่นไรดี?” เขาถาม ขณะที่มองไปยังพวกโจร
“คงต้องไปเรียกเบนนี่ โจรเหล่านี้จะต้องมีค่าหัวอย่างแน่นอน หากพวกเราส่งตัวให้คนอื่น พวกเขาอาจจะฉกเงินรางวัลที่พวกเราสมควรจะได้รับเพราะสถานะของพวกเราได้” เขากล่าวพร้อมถอนหายใจ
มีหลายครั้งที่ตำรวจหรือพ่อค้าในเมืองโกงพวกเขา เพราะไม่มีใครเรียกร้องและมอบความยุติธรรมกับพวกเขา นี่เป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับคนที่มีเครื่องหมายดังกล่าว พวกเขาทำได้เพียงปิดปาก และพยายามที่จะไม่ถูกหลอกอีกครั้ง
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้พวกเขาได้เห็นเพื่อนแท้ และเบนนี่ก็หนึ่งในนั้น เขาเป็นตำรวจที่รับผิดชอบการลาดตระเวณในสลัม เขาเห็นใจครอบครัวแอนิวรอนและคอยช่วยเหลือพวกเขา อย่างไรก็ตาม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเขารู้เหตุผลที่แท้จริงที่โรเบิร์ตถูกขับไล่ออกจากกองทัพ แดนีลชอบความทรงจำเกี่ยวกับลุงเบนนี่คนนี้ ที่ชอบนำอาหารหรือของหวานอร่อยๆมาให้เวลาที่เขาหิว
“ว่าแต่ เจ้าจัดการกับโจรคนแรกอย่างไร และทำให้โจรคนที่สองร้องด้วยความเจ็บปวดได้อย่างไรกัน?”
“เฮะ เฮะ มันเป็นสัญชาตญาณ ข้าเพียงได้ยินเสียงของพวกเขาและต้องการที่จะหยุดพวกเขา ข้าไปหาลุงเบนนี่แล้วนะ” เขากล่าวข้อแก้ตัวออกมา ก่อนจะวิ่งออกจากกระท่อมไป
ดวงตาของโรเบิร์ตมองตามหลังแดนีลพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ลูกชายของเขามีบางอย่างเปลี่ยนไป
เขาตัดสินใจที่จะหาคำตอบในภายหลัง และรีบมัดโจรทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกตัว
ลุงเบนนี่มาถึงอย่างรวดเร็ว และเขาก็ตกใจเมื่อได้เห็นว่าคนร้ายทั้งสองถูกจับมัดเรียบร้อยแล้ว โจรเหล่านี้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่บางอย่างซึ่งมันได้เขย่าขวัญเมืองชั้นนอกเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้ทำการปล้นครั้งใหญ่ และทุกคนคิดกันว่าพวกเขาได้ออกนอกเมืองไปแล้ว เมื่อรู้ว่าพวกเขาถูกจับได้ที่สลัม หัวหน้าของเขาคงจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
มีรางวัลก้อนใหญ่สำหรับค่าหัวของโจรเหล่านี้ ซึ่งมันจะช่วยครอบครัวแอนิวรอนได้อย่างมาก ลุงเบนนี่สัญญาว่าจะนำเงินรางวัลทั้งหมดมามอบให้กับพวกเขา และจะบอกกับหัวหน้าของเขาว่า เป็นคนอื่นที่จับโจรเหล่านี้ได้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็กลับไปนอนต่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น แดนีลตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงไก่ขัน ด้านนอกยังคงไม่สว่างมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปนอนอีก
อย่างที่เคยทำเป็นประจำ เขาช่วยพ่อและแม่ของเขาทำงานบ้านจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นอย่างเต็มที่ จากนั้น แม่ของเขาก็จะออกไปทำงาน และพ่อของเขาก็จะออกไปพบสหายในสลัม
หลังจากที่มีเวลาว่าง แดนีลก็ออกจากบ้านของเขา เพื่อไปยังห้องสมุด
ห้องสมุดเมืองเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดในเมือง มันถูกสร้างขึ้นในพื้นที่เปิดกว้าง มีโดมสูง และได้รับการตกแต่งด้วยงานปูนที่ดูฟุ่มเฟือย โดยรวมแล้ว มันดูงดงามเป็นอย่างมาก มันทำให้เขาคิดไปถึงทำเนียบขาวในโลกก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ วัสดุที่ใช้สร้างมันเป็นสีเหลือง ไม่ได้เป็นสีขาว
แดนีลเดินไปที่บันไดอย่างตื่นเต้น และเมื่อไปถึงประตู ก็มีเสียงดังขึ้น “ค่าเข้า 10 แลนเงิน”
แลนเป็นสกุลเงินของแลนธานอร์ โดย 100 แลนสัมฤทธิ์จะเท่ากับ 1 แลนเงิน และ100 แลนเงินจะเท่ากับ 1 แลนทอง
10 แลนสัมฤทธิ์ เป็นปริมาณที่มากพอที่คนทั่วไปจะสามารถกินอาหารอย่างง่ายๆได้ 1 วัน และห้องสมุดบ้านี่กลับมีค่าเข้ามากกว่าถึง 100 เท่า?
ด้วยสภาพการเงินของครอบครัวเขา ไม่มีทางเลยที่เขาจะนำเงินจำนวนมากเช่นนี้มาใช้ได้ แดนีลทำได้เพียงเกาหัวด้วยความหงุดหงิดและคิดไม่ตกว่าเขาควรจะต้องทำเช่นไร
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินกลับบ้านอย่างหดหู่
ขณะที่เขากลับมาถึงบ้าน เขาก็เห็นลุงเบนนี่กำลังมอบถุงเงินเล็กๆให้กับพ่อของเขา
“มันช่างน่าเสียดายนักโรเบิร์ต ดูเหมือนว่าโชคร้ายจะตามตื้อเจ้าอย่างแท้จริง โจรทั้งสองนี้ประสบความสำเร็จในการปล้นครั้งใหญ่เมื่อวาน ก่อนที่พวกเขาจะมาถูกจับที่บ้านของเจ้า ยังคงไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาปล้นอะไรไปได้บ้าง พวกเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้ตั้งค่าหัวพวกเขาไว้สูงมากนัก หากรู้เช่นนี้ ข้าคงจะซ่อนพวกเขาไว้ก่อน หลังจากเวลาผ่านไปซักพักแล้วค่อยนำพวกเขาไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ช่างน่าเสียดายนัก ตอนนี้ พวกเราเลยได้รับมาเพียงแค่ 1 แลนทองต่อโจรหนึ่งคนเท่านั้น แต่ก็อย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ว่าอย่างไร รางวัลก็ยังคงสูงมากอยู่ แล้วก็โรเบิร์ต เจ้าควรจะคิดเกี่ยวกับการส่งแดนีลไปเรียนต่อสู้ด้วย หากสิ่งที่เจ้ากล่าวเป็นความจริง และเขาเป็นคนจัดการกับพวกโจรด้วยตัวเอง เขาจะต้องมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”
ลุงเบนนี่จากไปหลังจากที่เขาลูปหัวของแดนีลจนยุ่งเล็กน้อย
สายตาของแดนีลจับจ้องไปที่ถุงเงิน นี่คือตั๋วเข้าห้องสมุดของเขา
“ท่านพ่อ ข้าต้องการเงิน 10 แลนเงิน”
ได้ยินเช่นนั้น พ่อของเขาก็จ้องมองไปที่เขา จนถึงวันนี้ แดนีลเป็นเด็กที่เชื่อฟัง และไม่เคยขออะไรจากพ่อแม่ของเขาเลย
“จะเอาไปทำอะไร?” เขาถาม พร้อมแสดงใบหน้าที่อดทน
แดนีลตัดสินใจบอกความจริง ตั้งแต่ยังเด็ก เขาก็สนใจในการอ่านหนังสือมาโดยตลอด พ่อและแม่ของเขาสอนวิธีการอ่านให้กับเขา และพวกเขายังบอกด้วยว่า เขาสามารถที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆจากมันได้ในระยะเวลาอันสั้น
“ข้าอยากไปที่ห้องสมุด ท่านพ่อ ข้าต้องการที่จะอ่านทุกอย่างที่นั่น หลังจากนั้น ข้าก็จะตัดสินใจว่า ข้าอยากจะทำอะไรในอนาคต ได้โปรดท่านพ่อ มอบมันให้ข้าด้วยเถิด”
โรเบิร์ตถอนหายใจขณะที่มองลูกชายของเขาทำท่าทางเหมือนลูกสุนัขที่น่าสงสาร
“ก็ได้ จำไว้ว่า เจ้าเป็นคนตัดสินใจชีวิตของตัวเจ้าเอง ระมัดระวังตัวเองด้วย”
หากเป็นเมื่อก่อน เงินจำนวนเพียงเท่านี้ เขาคงจะไม่คิดมากใดๆเลย แต่ในตอนนี้ ที่พวกเขาจำเป็นจะต้องไขว่ขว้าแม้แต่อาหารเล็กๆน้อยๆ มันค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาใหญ่ กระนั่น เขาก็ยังปรารถนาให้ลูกชายของเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ และไม่ต้องการจะให้คนอื่นหัวเราะเยาะลูกชายของเขาที่ไม่รู้อะไรเลย
นอกจากนี้ เขายังปรารถนาให้ลูกชายของเขามีอนาคตที่สดใส
“เดี๋ยวข้าจะไปแลกเงินกับสหายบางคน รออยู่ที่นี่ก่อน” เขากล่าวแล้วเดินออกจากบ้านไป
คอมเม้นต์