World domination system – Chapter 37 ปีหนึ่งที่สถานศึกษาของแดนีล
WDS Chapter 37 ปีหนึ่งที่สถานศึกษาของแดนีล
กลุ่มระดับสูงสุด มีนักเรียนเพียง 30 คนเท่านั้น และพวกเขาล้วนแล้วแต่มีระดับความเข้าใจขั้นสีส้มเป็นอย่างน้อย ในหมู่นักเรียน แน่นอนว่ามีองค์ชายลาราเวลอยู่ด้วย และแดนีลก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาได้เห็นว่า มากกว่าครึ่งของกลุ่มนี้ สวมชุดราชวงศ์ แม้ว่าความหรูหราจะด้อยกว่าชุดของลาราเวลก็ตาม
นักเรียน 18 จาก 30 คน นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในสนามหญ้า พวกเขามองไปรอบๆพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า สำหรับคนที่เหลือ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นลูกชายและลูกสาวของเหล่าพ่อค้าที่ร่ำรวย
ดูเหมือนว่า แดนีลจะเป็นคนสุดท้ายของชั้นเรียน เนื่องจากมีเก้าอี้ว่างเหลืออยู่เพียงตัวเดียว หลังจากนั่งลง เขาก็หันไปหาเด็กทั่วไปที่นั่งด้านข้างและพยายามจะพูดคุย แต่เด็กคนนั้นกลับส่งเสียงฮึดฮัด ไม่สนใจเขาอย่างสมบูรณ์
รู้สึกว่ามีบางคนกำลังจ้องมอง เขาก็หันไป และเห็นว่าลาราเวลกำลังจ้องอมองมาที่เขา พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของตน
เขาคงจะเป็นทำสิ่งนี้ แดนีลคิด ขณะที่เขากำลังสงสัยว่าทริกค์ของเด็กคนนี้อยู่นั้น ชายชุดคลุมสีนำเงินที่คุ้นเคยก็ปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขา
“ยินดีต้อนรับสู่วันแรกในสถานศึกษา” เขากล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“ข้าชื่อเฮนรี่ และข้าเป็นครูสอนธาตุทั่วไปของพวกเจ้าตลอดช่วงเวลาที่พวกเจ้าอยู่ในสถาบัน เป้าหมายของข้าก็คือ ทำให้พวกเจ้ารู้ถึงธาตุให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้พวกเจ้าค้นพบธาตุที่เหมาะกับพวกเจ้าที่สุด ธาตุเป็นสิ่งที่พวกเจ้าจะต้องให้ความสำคัญและมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าจะต้องเชี่ยวชาญให้ได้มากที่สุด”
การแนะนำนี้เป็นการเริ่มต้นปีหนึ่งในสถานศึกษาของแดนีล ชั้นเรียนแรกใช้เวลาไปกับการเรียนรู้ว่า ธาตุทำงานอย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่เขาเห็นในการทดสอบความเข้าใจ แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเห็นมันด้วยตัวเองแล้ว แต่มันก็ยังจำเป็นต้องได้รับการอธิบาย เพื่อให้พวกเขาทำความเข้าใจได้ลึกซึ่งมากยิ่งขึ้น
ช่วงเย็น แดนีลพบว่า องค์ชายตัวน้อยได้สั่งให้ทุกคนในสถาบันเว้นระยะห่างกับเขา แฟกซัลบอกเขา แต่ตัวเขาก็ยังคงทำเช่นเดียวกับเมื่อก่อน นี่ทำให้แดนีลรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้มีเพื่อนที่สามารถพึ่งพาได้
เขาไม่ได้สนใจว่าจะไม่มีเพื่อน เพราะวัตถุประสงค์หลักของเขาก็คือ การได้รับพลังและการเรียนรู้ ด้วยความคิดนี้ เขาได้วางแผนการเรียนรู้ของเขาอย่างเข้มงวด และเขาจะยึดมั่นมันเป็นหลัก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ในช่วงเช้า ชั้นเรียนถูกจัดขึ้นพร้อมกับที่เขาได้พบกับครูหลากหลาย ที่ให้คำแนะนำกับพวกเขาเกี่ยวกับความรู้สึกถึงองค์ประกอบที่แตกต่างกัน เป้าหมายของจอมเวทย์ก็คือ การใช้ต่อมไพเนียลควบคุมอนุภาคมูลฐานในโลกภายนอก เพื่อสร้างผลลัพธ์ตามที่พวกเขาต้องการ
ในวันที่สองของชั้นเรียน พวกเขามีการทดสอบศักยภาพ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจมีความสำคัญมากกว่าศักยภาพมากเพียงใด
นี่คือตอนที่แดนีลรู้ว่า จอมเวทย์สามารถเพิ่มระดับศักยภาพได้ด้วยการเลื่อนระดับขั้นของพวกเขาให้สูงขึ้น แม้ว่าผลของมันจะค่อยๆเกิดขึ้นก็ตาม มีการกล่าวกันว่า ราชวงศ์มีเทคนิคลับที่เร่งกระบวนการนี้ได้ แต่ก็เช่นกัน มันมาพร้อมกับผลค้างเขียงบางอย่าง
ตามที่ระบบกล่าว ระดับการเสื่อมของต่อมไพเนียลสอดคล้องกับศักยภาพ และขนาดของมันสอดคล้องกับความเข้าใจ แดนีลรู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่า เขามีต่อมไพเนียลระดับสูงอยู่แล้ว ก่อนที่จะใช้เทคนิคพัฒนาหน่อจอมเวทย์ เพียงแค่มันถูกทำให้ฝ่อเท่านั้นเอง
องค์ชายมีศักยภาพสูงสุด และเขาหวังว่าแดนีลจะมีศักยภาพขยะ แม้เขาจะรู้ว่า ความแตกต่างระหว่างศักยภาพและความเข้าใจนั้นมันเป็นไปไม่ได้ตามหลักเหตุผลก็ตาม ผลที่ได้ก็คือ แดนีลได้ศักยภาพสูง นี่เป็นเพราะต่อมไพเนียลของเขาได้รับการขัดเกลาเป็นเวลานานถึง 2 เดือน
องค์ชายกัดฟันแน่นเมื่อได้เห็นสิ่งนั้น แต่ดูเหมือนจอมเวทย์ราชสำนักจะกล่าวถูก องค์ชายไม่ได้พยายามที่จะทำร้ายเขาแม้แต่น้อย การกระทำของเด็กก่อนหน้านี้ยังคงติดใจแดนีล ในขณะที่เขาจำได้ว่า จากคำกล่าวของจอมเวทย์ราชสำนัก องค์ชายตัวน้อยนี้เป็นคนฉลาดอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้ มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถจะทำได้
หลังจากการเรียนในช่วงเช้า นักเรียนทุกคนก็จะใช้เวลาของพวกเขาในห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงาน ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ มันทำให้ง่ายต่อการสังเกตและตอบสนองอนุภาคมูลฐาน
หลังจากนั้น นักเรียนจะสามารถทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ โดยทั่วไปแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่จะเข้าไปในป่าหรือสถานที่อื่นๆ เพื่อทำสมาธิเชื่อมต่อกับอนุภาค
สำหรับแดนีล มันเป็นช่วงเวลาของการรวบรวมความรู้ โรงเรียนมีห้องสมุดขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นในชีวิตของเขา มันมีหนังสือมากกว่า 1 แสนเล่ม โชคดีที่มันมีโพเดียมเหมือนห้องสมุดเมือง ทำให้สามารถเลือกอ่านหนังสือได้ง่าย
แต่ละวันแต่ละวัน เขาได้ใช้เวลาช่วงเย็นถึงดึกในการรวบรวมความข้อมูลให้ได้มากที่สุด แม้ว่าเขาจะได้รับคาถามามากมาย แต่ละบบก็ไม่สามารถจะพัฒนามันได้ทั้งหมด
แดนีลต้องการที่จะเข้าใจสไตร์การต่อสู้ที่เหมาะสมกับตัวเองและมุ่งเน้นความสนใจของตัวเองในอนาคต เขาไม่ต้องการอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องให้คนอื่นช่วยเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อเขาสะสมข้อมูลและเทคนิคต่างๆ แดนีลก็เริ่มแผนการของเขาอย่างช้าๆ ช่วงเวลาหลังจากนี้ เขาเริ่มที่จะไปฝึกซ้อมในป่า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า เขากำลังฝึกซ้อมอะไร
ทุกๆวันดำเนินไปเช่นนั้น ปีหนึ่งของสถาบันค่อยๆผ่านไป โดยที่เขามีวันหยุดให้กับตัวเองน้อยมาก และวันหยุดของเขาก็คือ ช่วงเวลาที่เขาผ่อนคลายอยู่กับครอบครัวของเขา
ในที่สุด มันก็ถึงเวลาสำหรับการประเมินสิ้นปี เพื่อเลือกธาตุหลักของตัวเอง
แม้ว่าในปีหนึ่ง จะไม่มีชั้นเรียนต่อสู้ แต่การทดสอบแรกก็คือการเจียรไนที่แท้จริง นี่คือตอนที่จะดูว่า นักเรียนจะต่อสู้ด้วยตัวเองอย่างไรโดยปราศจากการฝึกอบรม แน่นอนว่า ผู้ที่ว่าจ้างอาจารย์ส่วนตัวจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ กระนั้น คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยทำเช่นนั้น เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้เส้นทางของตัวเองถูกจำกัดการฝึกอบรมตั้งแต่ต้น
แดนีลถูกลืมโดยทุกๆ แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ระดับตำนานแฝงก็ตาม เขาหายไปจากสายตาของทุกคนเพราะแผนการฝึกของเขา และเขาเติบโตขึ้นในทุกๆวัน
ในที่สุด มันก็ถึงเวลาที่จะเตือนพวกเขาถึงการคงอยู่ของเขาแล้ว
คอมเม้นต์