World domination system – ตอนที่ 141

อ่านนิยายจีนเรื่อง World domination system ตอนที่ 141 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

141 การวางแผนการ

[เนื่องจากความซับซ้อนของการดูดซับพลังงานที่สูง ร่างโคลนจำเป็นจะต้องอยู่ในรัศมี 5 เมตรจากตัวโฮสต์ หากระยะห่างมากกว่านั้น โคลนจะไม่สามารถดูดซับพลังงานได้ หากไม่มีการดูดซับพลังงานเกิดขึ้น พารามิเตอร์อื่นๆก็จะเป็นเช่นเดียวกันนั้น]

หลังจากทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเทคนิคร่างโคลนใหม่แล้ว แดนีลก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ประโยชน์ของมันก็มากกว่าพวกมันทั้งหมด

ช่วงเวลาที่เขาได้ยินคำอธิบายส่วนแรก เขาก็ฝันว่า เขาจะใช้ร่างโคลนในการฝึกฝน ขณะที่ร่างหลักของเขาสามารถจะออกไปต่อสู้ได้

น่าเสียดาย เขาไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากมีการจำกัดรัศมี หากเขาต้องการจะดูดซับพลังงาน หากต้องการจะให้ร่างโคลนดูดซับพลังงาน อย่างมากที่สุด เขาก็จำเป็นจะต้องอยู่ภายในห้องโถงราชา

แน่นอนว่า สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เขาสามารถจะฝึกฝนไปพร้อมกับร่างโคลนได้

โดยพื้นฐานแล้ว ด้วยการดูดซับพลังงานที่มากกว่าแดนีล 4 เท่า โคลนจะสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของเขาเป็น 2 เท่า

กล่าวโดยสรุปก็คือ เขาใช้บล็อกอีเธอร์ส่วนหนึ่งเพื่อความก้าวหน้าในก่อนหน้านี้ ตอนนี้ เขาสามารถจะใช้บล็อกอีเธอร์เพิ่มขึ้น 5 เท่า เพื่อที่จะเพิ่มความเร็วในความก้าวหน้าขึ้นเป็น 2 เท่า

ในความเป็นนี้ เทคนิคนี้เป็นดั่งพรจากสวรรค์ หลายวันที่ผ่านมานี้ แดนีลเป็นกังวลเกี่ยวกับระดับพลังในปัจจุบันของเขา แม้ว่าเขาจะมีเวลาในการฝึกฝนเพิ่มเต็มในช่วงนี้ก็ตาม อัตราความเร็วในการเติบโตของเขาช้าเกินไป และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นช่วงนี้ก็มากเกินไป

พลังเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ยิ่งหลังจากที่เขารับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการของเชิร์ชแล้ว แดนีลก็รู้สึกได้ว่า เขาจำเป็นจะต้องเร่งตัวเองให้มากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ ด้วยเทคนิคนี้ พลังจะเข้ามาอยู่ในมือของเขา

แน่นอน สิ่งที่เขาต้องการก็คือ ทรัพยากร ซึ่งอย่างน้อยก็จะไม่มีปัญหาในตอนนี้

เขายังคงเป็นผู้โดดเด่นระดับมนุษย์​ และปริมาณพลังงานที่เขาดูดซับได้ยังคงมีจำกัด แม้จำนวนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการดูดซับของร่างโคลน แต่มันก็ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจะจัดการได้โดยง่าย ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นราชาแห่งแลนธานอร์

อย่างไรก็ตาม เรื่องทรัพยากรจะกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตามความความก้าวหน้าในระดับพลังของเขา

แน่นอน แม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถจะทำอะไรได้ในตอนนี้

“ระบบ ปล่อยให้ร่างโคลนดูดซับพลังงานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง”

หลังจากออกคำสั่งแล้ว แดนีลก็ขึ้นไปที่ห้องโถงด้านบน

สิ่งที่เขาจะทำถัดไปก็คือ การทดสอบสำหรับการโจมตี

เริ่มแรก เมื่อครั้งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับคุณสมบัติของร่างโคลนนี้ เขาได้จินตนาการถึงการโจมตีอันน่าเหลือเชื่อของนกกระเรียนในระหว่างประหาร

แม้เขาจะครอบครองเครื่องประดับเวทมนต์ครั้งเดียวที่มีพลังงานระดับนั้นบางส่วน แต่มันก็มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งเขาต้องการจะเก็บไว้ให้นานที่สุด

นี่ก็เป็นเพราะเขาหวังว่าสักวัน เขาจะสามารถใช้ระบบวิเคราะห์มันได้ ก่อนกหน้านี้ เขาเคยลองพยายามแล้ว แต่ก็ไม่ประสบผลเพราะมันมีความซับซ้อนมากเกินไป

เครื่องประดับเวทมนต์เหล่านี้ควรจะถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลระดับผู้ชนะ แดนีลจึงไม่ได้ประหลาดใจเกินไปนัก

สำหรับความคิดของเขา มันก็คือ ดูดซับพลังงานเข้าไปในร่างโคลนให้มากพอ เพื่อใช้มันเป็นดั่งเครื่องประดับเวทมนต์ครั้งเดียว

วิธีเดียวที่จะสามารถทดสอบได้ก็คือ การมีร่างโคลนที่ดูดซับพลังงานมาแล้ว 1 ชั่วโมงเหมือนก่อนหน้านี้

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึกฝันมันได้ใน 1 วัน แต่มันก็ยังคงคุ้มค่าที่จะรวบรวมข้อมูล

หลังจากเข้าไปในห้องโถงของราชาแล้ว แดนีลก็คิดเล็กน้อย ก่อนที่จะเรียกหัวหน้าฝ่ายการวิจัย ริปลีย์ มาพบ

ในขณะที่กำลังรอให้เขามาถึง แดนีลได้จ้อมมองไปยังกระถางที่มุมห้อง ซึ่งเขาได้ปลูกต้นอีเชอร์เอาไว้

ภาพของมันทำให้เขาถอนหายใจขณะที่คิดถึงแผนการเกี่ยวกับพืชชนิดนี้

พวกมันถูกปลูกตามแนวชายแดนตามแผนการของเขา ซึ่งมันทำให้เขาจำเป็นจะต้องทำเป็นใจแข็งเพื่อที่จะดำเนินการ

ตั้งแต่เมื่อครั้งที่พบกับอาจารย์ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย แผนการทั้งหมดก็ก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของแดนีล

ในความเป็นจริง มันเป็นความทะเยอทะยานที่เขาไม่เคยจะแสดงออกมากให้ตัวเขาเองเห็นอย่างสมบูรณ์

ส่วนแรกของแผนการนั้นค่อนข้างชัดเจน จัดการกับภัยคุกคามที่โดดเด่นทั้งสองอย่าง ราชอาณาจักรเอลดินอร์และราชอาณาจักรกาดำ

แน่นอน สำหรับการจัดการของมัน มันหมายถึงการหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เขามีกับพวกเขาเท่านั้น

หลังจากนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ซึ่งมันทำให้เขาถูกดึงกลับมาจากความคิดของเขา

ขณะที่เขาเปิดประตูผ่านระบบ คนที่ทำให้เขาเริ่มต้นเส้นทางการเอนชานท์ก็เดินเข้ามา

แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่มักจะแสดงอารมณ์ไม่ดีหรือแสดงออกอย่างเฉื่อยชา รีปลีย์ในตอนนี้ยิ้มตลอดเวลา

สังเกตเห็นเช่นนั้น แดนีลก็ถามเขาว่า “ท่านสนุกกับงานใหม่ของท่านหรือไม่?”

นั่งลงบนเก้าอี้ที่ด้านหน้าของหัวใจมังกร รีปลีย์หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “มันก็ดี ทุกครั้งที่ข้าเห็นคนน่าเบื่อเหล่านั้นสะดุ้งในเวลาที่ข้าตำหนิพวกเขา มันได้เติมเต็มหัวใจของข้าด้วยความสุข แต่มันดูเหมือนว่า สิ่งที่ทำให้ข้าสนุกอย่างแท้จริงก็คือ การเห็นพวกเขาพัฒนาขึ้น ซึ่งมันทำให้ข้ามีความหวังว่า ในหมู่พวกเขา จะมีคนเช่นเดียวกับข้าเมื่อครั้งที่ยังอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา”

ได้ยินคำตอบของเขา แดนีลก็ถอนหายใจขณะที่คิดถึงความโดดเดี่ยวในอดีตของชายผู้นี้

ในความเป็นจริง เขาได้ออกคำสั่งให้คนออกไปตามหาผู้หญิงที่เคยตั้งเงื่อนไขว่า เธอจะอยู่กับคนที่ได้เป็นเอนชานเตอร์ขั้น 2 ก่อน น่าเสียดาย ยังไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับเธอ

เขาเปลี่ยนหัวข้อและถามว่า “การผลิตเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสารเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ยอดเยี่ยม เครื่องประดับเวทมนต์กลุ่มแรก 500 ชิ้น จะพร้อมในไม่ช้า ตอนนี้ ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่า เหตุใดท่านถึงต้องการพวกมันเป็นจำนวนมาก”

ในความเป็นจริง แดนีลได้สั่งให้ฝ่ายการวิจัย มุ่งเน้นไปที่การผลิตเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสารในตอนนี้

เริ่มแรก ความคิดของเขาก็คือ ใช้ผังที่ปรับปรุงง่ายๆนี้ เพื่อให้ฝ่ายวิจัยคุ้นเคยกับการทำงานเป็นกลุ่ม อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินเรื่องภัยคุกคามจากเชิร์ชแล้ว แผนการใหม่ต่างๆก็ก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของเขา

“ได้ แต่ก่อนอื่น ช่วยบอกข้าเกี่ยวกับวิธีที่เอลดินอร์เลือกผู้นำของพวกเขาให้ข้ารู้เสียก่อน”

แม้ริปลีย์จะค่อนข้างงุนงงกับคำถามนี้ แต่เขาก็ยักไหล่ก่อนจะเริ่มอธิบายเกี่ยวกับประชาธิปไตยของเอลดินอร์

แดนีลเคยอ่านเกี่ยวกับมันแล้ว แต่เขายังคงต้องการข้อมูลจากคนที่เคยอาศัยอยู่ในสถานที่จริง และเพื่อการนั้น ไม่มีใครจะเหมาะสมไปมากกว่าริปลีย์อีกแล้ว

หลังจากฟังเกี่ยวกับมันแล้ว เขาก็เริ่มที่จะเข้าใจ มันค่อนข้างที่จะคล้ายกับโลกเดิมของเขา

เอลฟ์ทุกคนที่ลงทะเบียนรับรัฐบาล มีสิทธิ์ที่จะออกเสียง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะก้าวออกมาแข่งขัน และคนที่ได้รับคะแนนมากที่สุด จะได้เป็นผู้ชนะ

แน่นอน มันมีสิ่งหนึ่งที่ผู้ชนะจำเป็นจะต้องทำ ซึ่งก็คือ การสาบานตนว่า จะทำงานเพื่อสวัสดิการของเอลดินอร์ นี่ก็เพื่อป้องกันให้ผู้ชนะการเลือกตั้งที่มีแผนการชั่วร้ายต่อประเทศไม่สามารถจะสร้างความเสียหายใดๆได้

“ผู้สมัครเข้าถึงบุคคลทั่วไปได้อย่างไร?” เขาถามต่อหลังจากที่ริปลีย์อธิบายจบ

“ด้วยการใช้จ่ายหรือความชำนาญของพวกเขา พวกเอลฟ์จะสร้างเครื่องประดับเวทมนต์สำหรับกระจายข้อมูล ในความเป็นจริง ราชินีองค์ปัจจุบัน เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องประดับเวทมนต์ทวีต ซึ่งเป็นวัตถุคล้ายนกที่บินไปรอบๆ เพื่อกระจายข้อความไปยังทุกคนบนท้องถนน แม้ว่ามันจะน่ารำคาญ​ แต่มันก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับวิธีการอื่นๆที่นางใช้ มันทำให้นางชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ จะมีการเลือกตั้งอีกครั้งเร็วๆนี้ การดำเนินแผนการทั้งหมดต่อไปของนาง คงจะขึ้นอยู่กับมัน ข้าได้ศึกษาเครื่องประดับเวทมนต์นั้นด้วยตัวเองแล้ว และมันก็ยอดเยี่ยมทีเดียว”

“โอ้? แล้วมันมีอะไรหยุดยั้งคนอื่นๆจากการคัดลอกเครื่องประดับเวทมนต์ของเธอ และใช้มันเพื่อตัวพวกเขาเอง?”

“ท่านอาจจะไม่เข้าใจ เพราะท่านไม่ใช่เอลฟ์ เนื่องจากลักษณะนิสัยเฉพาะตัวของพวกเขา พวกเขารู้สึกว่า การคัดลอกความคิดสร้างสรรค์ของผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งที่ผิด นอกจากนี้ ภายในเอลดินอร์ยังมีวิธีสำหรับจัดการกับเรื่องนี้ ซึ่งเรียกว่า การอภิปรายสาธารณะ หากใครบางคนเชื่อว่า การออกแบบผังของพวกเขาถูกขโมยไป พวกเขาสามารถท้าทายอีกฝ่ายให้ออกมาอภิปรายในที่สาธารณะ ซึ่งจะมีการกล่าวถึงความแตกต่างของผัง เพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง ผู้ออกแบบจริงย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบ ซึ่งมันจะทำให้อีกฝ่ายที่พ่ายแพ้อับอายขายหน้า จากความจริงที่ว่า พวกเอลฟ์เกลียดการกระทำเช่นนี้”

ส่วนสุดท้ายทำให้แดนีลประหลาดใจมากที่สุด เพราะมันทำให้เขาคิดย้อนกลับไปถึงสิทธิบัตรในโลกเดิมของเขา

เขาถามคำถามหลักที่อยู่ในใจของเขาตั้งแต่เขาเริ่มแผนการ

“ท่านมีผังสำหรับการส่งข้อความไปยังเครื่องประดับเวทมนต์ในเวลาเดียวกัน โดยตัวผู้ส่งอยู่ห่างจากพวกมันหรือไม่?”

แฟนเพจ : WDS แปลไทย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด