World domination system – Chapter 80 ศักดิ์ศรี

อ่านนิยายจีนเรื่อง World domination system ตอนที่ 80 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

WDS Chapter 80 ศักดิ์ศรี

ดวงตาสีแดงจดจ้องมายังเขา ขณะที่ร่างนั้นค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น

เส้นผมสีดำปกคลุมทั่วร่างของลาราเวล มันแหลมและคมอย่างมาก มองเห็นชุดคลุมราชวงศ์ที่ถูกฉีกกระชากอย่างง่ายดาย แดนีลฟื้นคืนความรู้สึกของเขาและรู้ในทันทีว่าเขาจะต้องหนี แม้แต่บนใบหน้าของลาราเวล ก็มีขนสีดำปกคลุมไปทั่ว ซึ่งมันทำให้ไม่มีใครสามารถจะจดจำได้เลยว่า สิ่งนี้เคยเป็นองค์ชายมาก่อน บนใบหน้าของเขา มองเห็นเพียงฟันที่ขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นเขี้ยวและด้วงตาที่ประกายความปรารถนาในการสังหารเท่านั้น

อย่างรวดเร็ว ร่างนั้นลุกขึ้นและพุ่งมาที่เขา

ร่างนั้นยังคงขยายใหญ่ขึ้นและเล็บของของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นดั่งใบมีดที่มีความยาวอย่างน้อยครึ่งฟุต เสียงเล็กที่กำลังขูดกับพื้น ดั่งสะเทือนเข้ามาถึงภายในใจของแดนีล

ความเร็วของสิ่งมีชีวิตนั้นเหนือยิ่งกว่านักสู้ผู้โดดเด่นระดับมนุษย์ โชคดีที่แดนีลเป็นจอมเวทย์ ไม่อย่างนั้น เขาคงจะไม่มีโอกาสใดที่หากพึ่งพาเพียงร่างกายของเขา

หลังจากเทเลพอร์ตมายังมุมหนึ่งของห้องแล้ว เขาก็เสกน้ำแข็งขึ้นมาที่ทางเดิน ซึ่งทำให้มันสะดุดล้มลง

ก่อนที่มันจะลุกขึ้น เขาก็พยายาใช้ลูกบาศก์ดินมาห่อหุ้มร่างของมันไว้

น่าเสียดาย นั่นยังไม่เพียงพอที่จะหยุดมันได้ เมื่อร่างนั้นยืนขึ้นอีกครั้งได้ มันก็เริ่มที่จะไล่ล่าแดนีลอีกครั้ง

เส้นทางด้านหน้าและด้านหลังถูกปิดกั้น แดนีลไม่ต้องการที่จะเสี่ยงอันตรายที่เขารู้สึกกับทางเข้าประราชวัง เขาบอกให้ระบบวิเคราะห์ แต่คำตอบที่เขาได้รับก็คือ มันซับซ้อนเกินกว่าที่จะวิเคราะห์ได้ สำหรับการเทเลพอร์ตโดยตรง ระบบได้เตือนว่า มันมีมาตรการตอบโต้ผู้บุกรุก แม้ระบบจะไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยง

อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็รู้ว่า ระบบสามารถที่จะวิเคราะห์รูปแบบได้ หากเขาเข้าไปในพระราชวังได้ แต่ก่อนหน้านั้น เขาจะต้องจัดการกับภัยคุกคามตรงหน้า และหาวิธีเข้าไปในพระราชวังโดยไม่ได้รับอันตรายให้ได้เสียก่อน

ไม่ว่าอย่างไร ร่างตรงหน้านี้ก็ยังคงเป็นพันธมิตรของเขา มันจะดีที่สุดที่เขาจะใช้เครื่องมือที่ไม่เป็นอันตรายและทำให้เขาล้มลง แล้วค่อยหาวิธีรักษาเขาในอนาคต

หลังจากมันสูงได้ถึง 8 ฟุตแล้ว ในที่สุดร่างนั้นก็หยุดเติบโต เล็บที่ยาวผิดปกติของมัน แหลมคมมากพอที่จะเจาะผ่านร่างของแดนีลได้ และเนื่องจากเขาอยู่ในห้องขนาดเล็ก มันจึงเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะเคลื่อนที่หลบร่างนั้น

ในขณะที่แดนีลกำลังร่ายคาถาที่พัฒนาขึ้นใหม่ ก้อนหินขนาดเล็กรอบๆก็เริ่มที่จะลอยขึ้นไปบนอากาศ

“เวทมนต์? สิ่งนี้คือการควบคุมอนุภาค” เขาตระหนักได้เมื่อเห็นว่าก้อนหินขนาดเล็กเหล่านั้นพุ่งมาหาเขา พร้อมกันนั้น ร่างยักที่โจมตีเขาก็เริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อมันเห็นว่า มดตัวเล็กๆตรงหน้มันเทเลพอร์ตไปรอบๆห้อง

สายฟ้า, ลม, เพลิง, น้ำแข็ง, ดิน คาถาใดๆที่แดนีลใช้ออกมา ถูกหยุดโดยผมสีดำ ตอนนี้ แดนีลเข้าใจแล้วว่า คาถาที่เขาใช้อ่อนแอเกินว่าจะจัดการร่างนี้ได้ ในความเป็นจริง มันแทบจะไม่ส่งผลใดๆกับร่างนั้นเลยด้วยซ้ำ

“ข้าจะต้องฆ่ามันจริงๆหรือ?” เขาเริ่มตื่นตระหนก เพราะพื้นที่ที่เขาสามารถจะหลบหนีได้ ลดลงเรื่อยๆแล้ว นอกจากนี้ ร่างตรงหน้าก็ดูเหมือนว่าจะเชี่ยวชาญการใช้เวทมนต์มากขึ้นเรื่อยๆ

‘ระบบ ข้าจะหยุดสิ่งนี้ได้อย่างไร?’

[โฮสต์ต้องการให้ร่างนี้ตายหรือไม่?]

“ไม่ตาย”

[ร่างที่อยู่ตรงหน้าโฮสต์ เกิดขึ้นจากการกลายสภาพในหน่อจอมเวทย์ ผลกระทบโดยตรงจากหน่อจอมเวทย์ อาจจะส่งผลกระทบบางอย่าง]

ดูเหมือนว่า หน่อจอมเวทย์จะอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ มองขึ้นไป แดนีลเห็นก้อนหินขนาดครึ่งหนึ่งของตัวเขา ซึ่งมันส่ันไปมาทุกครั้งที่ร่างนั้นชนกับผนังหรือพื้น

หลังจากที่มันชนเข้ากับผนังหลายต่อหลายครั้ง สภาพของห้องก็แย่ลงเรื่อยๆ และมันดูเหมือนว่า หากร่างนั้นชนเข้ากับผนังอีกครั้ง หินก้อนนั้นจะตกลงมา

แดนีลเทเลพอร์ตไปยังมุมหนึ่งของห้อง เพื่อให้ร่างนั้นพุ่งผ่านหินก้อนนั้น จากนั้น แดนีลก็สั่งให้ระบบร่ายคาถาดินไปที่หินก้อนนั้น เพื่อให้มันตกลงมาใส่ร่างนั้น เนื่องจากเขาไม่สามารถคำนวณเวลาที่แน่นอนได้ แดนีลจึงต้องให้ระบบทำแทนเขา

ตามที่คาดไว้ ร่างนั้นหันมาหาเขาและพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ราวกับความเกรี้ยวกราดกลืนกินสติทั้งหมด มันไม่สนใจเลยว่า มันล้มเหลวมาแล้วกี่ครั้งและยังคงทำเช่นเดิมต่อไป

ตูม!

เมื่อหินก้อนนั้นกระทบเข้ากับศีรษะของมัน ร่างนั้นก็นอนหยุดนิ่งลงบนพื้น

ในที่สุด เสียงดังจากการอาละวาดของร่างนั้นก็เงียบลง

แดนีลเดินเข้าไปหาร่างนั้นอย่างระมัดระวัง และเขาสังเกตเห็นบาดแผลบนหน้าผากที่มีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่า ก้อนหินจะไม่ได้ปะทะกับหน่อจอมเวทย์โดนตรง แต่มันยังคงทำหน้านี้ของมันได้ดี

“แด…แดนีล…”

ได้ยินเสียงที่อ่อนล้า แดนีลรีบวิ่งไปที่ร่างนั้น

การแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดของมันหายไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่าใบหน้าของมันยังคงปกคลุมไปด้วยขน แต่แดนีลก็สามารถจะมองเห็นใบหน้าคร่าวๆของเจ้าของร่างเดิมได้บ้างแล้ว

ดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น การต่อสู้ระหว่างการแสดงออกที่แตกต่าง 2 อย่าง พยายามต่อสู้กันเพื่อควบคุมร่าง หนึ่งคือความเกรี้ยวกราดที่แดนีลเผชิญมาจนถึงเมื่อครึ่ง

อีกหนึ่งคือความมุ่งมั่น ซึ่งแดนีลเชื่อว่า มันเป็นลาราเวลที่พยายามต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา

“พาข้า….ไปที่ประตู…”

ได้ยินคำกล่าวของลาราเวล แดนีลรีบลากร่างนั้นไปที่ประตูที่อยู่ใกล้ๆทันที โชคดีที่เขาเป็นนักสู้ผู้โดดเด่นขั้น 4 ด้วยเช่นกัน เขาจึงสามารถลากร่างที่มีน้ำหนักราว 250 กิโลกรัมไปได้ไม่ยาก

ช่วงเวลาที่มาถึงประตู ลาราเวลก็ยกมือที่สั่นเทามาจับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา

จากนั้น เขาก็เขียนสัญลักษณ์เช่นเดียวกับที่เปิดกำแพงด้านนอก

“มันจะกลับมาควบคุมร่างของข้าอีกครั้งแล้ว แดนีล ฆ่าข้า การแปรสภาพนี้ไม่สามารถจะแปลงกลับได้….และข้าไม่ต้องการจะอยู่เช่นนี้ ข้ารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ภายในตัวข้า หากปล่อยมันไว้นานกว่านี้…ข้าจะไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป และเจ้าก็จะไม่สามารถจะจัดการกับมันได้ ได้โปรด แดนีล”

ลาราเวลพยายามกล่าวคำกล่าวนั้นออกมาด้วยความเจ็บปวด และเขาใกล้จะหมดสติเต็มทีแล้ว

‘ระบบ จริงหรือไม่ที่มันไม่สามารถจะแปลงกลับได้’

[ยืนยัน หน่อมจอมเวทย์และร่างมีการแปรสภาพไปอย่างถาวร ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ ร่างนั้นจะใช้พลังจากการเผาผลาญอายุขัยขอเจ้าของเดิม และมันจะมีอายุได้ไม่เกิน 1 เดือน]

พ่อทำสิ่งนี้กับลูกชายของตัวเองได้อย่างไร? แดนีลรู้สึกรังเกียจราชามากยิ่งขึ้น ที่ใช้เทคนิคชั่วร้ายเช่นนี้กับสายเลือดของตัวเอง

มองเข้าไปในดวงตาที่กำลังดิ้นรนของลาราเวล แดนีลเห็นถึงความยึดมั่นในอุดมการณ์ของเขา แน่นอนว่า อุดมการณ์ก็มีข้อบกพร่อง แต่ความมุ่งมั่นที่ยึดติดพวกมันและยินดีที่จะตายเพื่อมันนั้น มันได้ทำให้แดนีลรู้สึกชื่นชมในตัวลาราเวล และเขาหวังว่า สิ่งต่างๆจะไม่กลายเป็นเช่นนี้

ในขณะนั้น ความเกรี้ยวกราดเริ่มที่จะปรากฎขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้แดนีลตระหนักว่า เขาไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไป

ชายคนนี้ไม่สมควรที่จะถูกครอบงำร่างกายเช่นนี้เลย เพราะมันเป็นการลบหลู่ศักดิ์ศรีและความมุ่งมั่นของเขา

ในที่สุด แดนีลก็ตัดสินใจ

เข็มเปลวเพลิงที่ถูกอัดแน่นปรากฎขึ้นในอากาศ ดวงตาของลาราเวลเบิกกว้าง เมื่อตระหนักได้ว่า อาจารย์ลึกลับก็คือตัวแดนีลเอง

“อย่าลืม…ข้อตกลงของพวกเรา ทำมันให้ได้” เขากล่าวขณะที่ปิดตาลง และรอคอยความตายอย่างเป็นสุข จิตใจของเขาบอบช้ำมาก และมีบางสิ่งภายในร่างของเขา ที่ต้องการจะทำลายจิตสำนึกของเขาทั้งหมด และยึดร่างไป ความรู้สึกถึงชัยชนะส่องผ่านหัวใจของลาราเวล เพราะเขารู้ว่า มันจะไม่ได้ในสิ่งที่มันต้องการ

“ชื่ออันสูงส่ง ตระกูลแลนธานอเร่ จะคงอยู่ต่อไปในประวัติศาสตร์ ยังมีหลายคนที่ชื่นชมราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างราชอาณาจักรแห่งนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ประหลาดใจลักษณะนิสัยองค์ชายที่ยอมแพ้ในทุกๆสิ่งเพื่อรักษาความสูงส่งนั้นไว้ ลาก่อน ลาราเวล”

ได้ยินคำกล่าวของแดนีล รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้น เข็มเพลิงก็แทงเข้าไปในหน้าผากของเขา

แทนที่จะรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้าของเขากลับแสดงถึงความผ่อนคลายสบายใจ

เข็มเจาะหน่อจอมเวทย์ ก่อนที่มันจะทะลวงเข้าไปในสมอง หลังจากที่ร่างของเขาหยุดนิ่ง แดนีลก็ปิดตาลาราเวล และรู้สึกประหลาดใจกับการแสดงออกที่มีความสุขบนใบหน้าของเขา

น้ำตาของแดนีลไหลออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคน และที่แย่กว่านั้น คนผู้นี้ก็เป็นพันธมิตรของเขา

กระนั้น เขาก็ไม่มีเวลาให้ร้องไห้ เสียงระเบิดบนพื้นดิน ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันได้กระตุ้นให้แดนีลยืนขึ้นและวางความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้

มองไปยังลาราเวลเป็นครั้งสุดท้าย เขาจดจำหน้าของชายคนนี้ไว้ในความทรงจำ ก่อนที่จะเดินผ่านประตูเข้าสู่พระราชวัง

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด