WDS Chapter 22 เทคนิคการพัฒนาหน่อจอมเวทย์

แดนีลใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันกับพ่อแม่ของเขา เพลิดเพลินไปกับความอบอุ่นและผ่อนคลายของบ้าน

เขายังคงฝึก CT-1 ร่างสีขาวเริ่มเร็วขึ้น แต่มันไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเทคนิคใหม่ๆเลย มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในการหลบการโจมตีของมัน

เขาทำการฝึกฝนอยู่ที่ป่าอันเงียบสงบใกล้สลัม และเขาได้ตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่า ไม่มีใครเฝ้าดูการฝึกของเขา

น่าเสียดายที่มันไม่มีอีเธอร์ให้เขาดูดซับ ระดับความก้าวหน้าของเขาจึงเป็นศูนย์ เขาคิดถึงความรู้สึกที่เซลล์กำลังดูดซับอีเธอร์ และพวกมันก็ฟื้นฟูอย่างมีชีวิตชีวา

ในวันที่ 3 แดนีลตื่นมาพร้อมกับความตื่นเต้น

ในไม่ช้า ระบบก็กล่าวขึ้นว่า

[การพัฒนาเสร็จสิ้น เทคนิคการพัฒนาหน่อจอมเวทย์(MDT-1)เสร็จสิ้น]

[MDT-1 : หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลที่ระบบรวบรวมได้ทั้งหมดและการพัฒนาPAM-2แล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า หน่อจอมเวทย์ก็คือ ต่อมไฟเนียล ซึ่งอยู่บนศีรษะของมนุษย์ ระหว่างดวงตาทั้ง 2 ข้าง บนโลกก่อน มันเป็นที่รู้จักในชื่อของ ‘ตาที่สาม’ เพราะมันมีความสามารถในการมองผ่านสิ่งต่างๆ ทั้งปรากฎการณ์ประหลาดและเหนือธรรมชาติ]

[เหมือนกับโลกก่อน มนุษย์ทุกคนที่นี่เกิดมาพร้อมต่อมไพเนียล เนื่องจากการพัฒนาร่างกาย มันได้ทำให้ต่อมไพเนียลฝ่อและถูกฝังไว้ในส่วนลึก บางคนเกิดมาพร้อมกับต่อมไพเนียลที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดการฝ่อที่ช้ากว่าคนอื่น สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาผ่านการทดสอบที่จัดขึ้นโดยสถาบันการศึกษา และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘ผู้ครอบครองหน่อจอมเวทย์’ ในความเป็นจริง มนุษย์ทุกคนต่างก็มีหน่อจอมเวทย์ ปัญหาก็ พวกเขาไม่สามารถใช้เวทมนต์ได้]

[ด้วยความช่วยเหลือของ PAM-2 เทคนิคของมันสามารถใช้พลังงานที่สกัดจากอีเธอร์ เสริมสร้างต่อมไพเนียลและเพิ่มขนาดของมันได้ ซึ่งมันก็จะเป็นการเพิ่มศักยภาพจอมเวทย์ให้กับโฮสต์]

[ดังนั้น โฮสต์จึงต้องรวบรวมอีเธอร์และดูดซับมัน]

[ติ๊ง!]

[ภารกิจใหม่ : เสริมสร้างต่อมไพเนียล และประสบความสำเร็จในการเข้าNMAL]

[รางวัลภารกิจ : แต้มประสบการณ์ 100 แต้ม]

[คุณต้องการรับภารกิจหรือไม่?]

‘รับ’ แดนีลกล่าว ขณะที่เขากำลังคิดอย่างหนักว่า จะดูดซับอีเธอร์ได้จากที่ไหน

การจะซื้อมันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย อัตราแลกเปลี่ยนอีเธอร์กับแลนทองคือ 1ต่อ10 ซึ่งก็หมายความว่า ด้วยเงิน 10 แลนทอง เขาสามารถซื้ออีเธอร์มาตรฐาน1ได้เพียงบล็อกเดียว ผู้มีร่างศักยภาพสูง ต้องใช้อีเธอร์ราว 2 บล็อก ในการเลื่อนจากระบบมนุษย์ขั้น 1 ไปเป็นระดับมนุษย์ขั้น 2 ซึ่งนี้ก็มีความหมายว่า ผู้ที่มีร่างศักยภาพกลาง จะต้องใช้ 4 บล็อก และผู้ที่มีศักยภาพต่อ ต่องใช้ 8 บล็อก ด้วยราคาข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานนั้นสูงเพียงใด

ขณะที่แดนีลกำลังคิดอย่างหนักในหัวของเขาอยู่นั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้น

[คำแนะนำระบบ : หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลด้วย PAM-2 แล้ว ระบบมีคำแนะนำ โฮสต์ต้องการรับฟังหรือไม่?]

“ต้องการ” คำแนะนำ? นี่เป็นสิ่งใหม่

[ระบบแนะนำให้โฮสต์ทำภารกิจ ‘ค้นหาที่ซ่อนตัวของโจร’ ให้เสร็จสิ้น นี่เป็นเพราะระบบตรวจพบร่องรอบอีเธอร์ที่มีคุณภาพสูงจากโจรที่เคยปะทะกับโฮสต์ ที่ไม่ตรวจพบก่อนหน้านี้ เพราะPAMยังไม่มีประสิทธิภาพพอ]

โจรได้สัมผัสกับอีเธอร์คุณภาพสูง? นี่เป็นโอกาสที่พระเจ้ามอบให้เขาอย่างแท้จริง

มีความเป็นไปได้ว่า จะมีโจรมากกว่า 2 คนก่อนหน้านี้ คิดถึงการต่อสู้กับโจรเมื่อครั้งก่อน แดนีลถึงกับหลั่งเหงื่อออกมา เพราะเขาเกือบจะพลาดท่าให้กับโจร

แดนีลไม่ต้องการจะเสี่ยง หากเขาต้องการจะไปที่นั่น เขาจะต้องไปในสภาพที่พร้อมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจวิเคราะห์เทคนิคที่เขาได้รับ ช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ เขายังไม่ได้แตะต้องมัน เพราะเขาต้องการจะทำให้แน่ใจก่อนว่า เขาฝึกเทคนิคต่อสู้พื้นฐาน(CT-1)สมบูรณ์แล้ว ความสามารถในการหลบร่างสีขาวได้อย่างสมบูรณ์ แสดงให้เห็นว่ามันถึงเวลาแล้ว

แดนีลหยิบเหรียญรูปกำปั้นโปร่งใสออกมาและถือมันไว้ในมือ

[ตรวจพบอินเตอร์เฟซ คุณต้องการให้ระบบดาวน์โหลดข้อมูลเก็บไว้หรือไม่?]

‘ต้องการ’ เขากล่าวและรู้สึกได้ว่าเหรียญในมืออุ่นขึ้นเล็กน้อย

หลังจากผ่านไป 5 นาที ระบบก็กล่าวขึ้นว่า

[หมัดแห่งความยุติธรรม วิเคราะห์ 2 ขั้นแรกเสร็จสิ้น สำหรับขั้นต่อไป เนื่องจากระดับของระบบไม่สูงพอ จึงไม่สามารถจะทำการวิเคราะห์ได้]

[กระบวนท่าลับ : ซ่อนสังหาร สามารถเพิ่มเข้าไปใน CT-1 ได้ คุณต้องการจัดระเบียบ CT-1 และเพิ่มกระบวนท่าเข้าไปหรือไม่?]

ซ่อนสังหาร! แดนีลสงสัยว่ามันจะเป็นกระบวนท่าที่เอเลนาฟใช้กับเจ้าหน้าที่ในครั้งที่พวกเขาพบกันนอกห้องสมุด

‘กระบวนท่าคืออะไร?’ แดนีลถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

[ซ่อนสังหาร : เป็นการใช้เทคนิคกำลังย้อนกลับ สามารถสร้างฟองอากาศแรงกดดันขึ้นในร่างของศัตรูได้ ฟองอากาศเหล่านี้สามารถกำหนดให้ระเบิดตามในภายหลังได้ ด้วยการควบคุมแรงขณะกระแทก กุญแจสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแรงเหวี่ยงในทันทีหมัดหรือเท้ากระทบกับร่างกายของฝ่ายตรงข้าม โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถจะบอกความแตกต่างระหว่างการโจมตีปกติและการโจมตีด้วยซ่อนสังหารได้ แต่หากทำไม่ถูกต้อง ผลของมันก็จะกลับมาทำร้ายผู้ใช้เอง]

มันเป็นเทคนิคเดียวกันอย่างแน่นอน ในที่สุด เขาก็จะสามารถใช้เทคนิคสุดยอดที่เขาเห็นที่นอกห้องสมุดได้แล้ว