World domination system – Chapter 39 พารากอน
WDS Chapter 39 พารากอน
“ผ่าน!” ผู้ตัดสินประกาศ ทำให้ทุกคนที่สงสัยเกิดความสับสน
“ดูนั่น พื้นดินใต้เท้าหุ่นกลายเป็นอ่อนนุ่ม” ผู้คนหนึ่งที่อยู่แถวหน้ากล่าว
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็หันไปมองที่พื้น สนามหญ้าที่พวกเขาอยู่ มีลักษณะที่แตกต่างออกไป
มันเป็นจุดเล็กๆจุดหนึ่งที่พื้นดินกลายเป็นโคลนและเปียกแฉะ ซึ่งมันได้ทำให้หุ่นเชิดถไลและล้มลงกระแทกพื้น
“สัตว์ประหลาด” นี่คือสิ่งที่ผู้ชมกล่าวออกมาหลังจากได้ตระหนักถึงสิ่งที่เขาทำ เหตุผลหลักก็คือ เพียงใช้วิธีง่ายๆ ก็สามารถจะผ่านการทดสอบได้แล้ว แต่สิ่งที่แดนีลใช้ มันต้องควบคุมอนุภาคมูลฐานถึง 2 ชนิดในเวลาเดียวกัน
จะต้องเริ่มจากการเชื่อมต่อกับไอน้ำในอากาศ เปลี่ยนมันเป็นบอลน้ำ จากนั้น ก็เชื่อมต่อกับดินและควบคุมให้มันเปียกน้ำ หน่อจอมเวทย์ของคนที่สามารถทำเช่นนี้ได้ จะต้องมีความเร็วและสิทธิภาพเป็นอย่างมาก แล้วคนผู้นั้นก็จำเป็นจะต้องมีความเข้าใจในระดับที่สูงเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถควบคุมด้วยระดับในปัจจุบันของเขาได้
ระดับของจอมเวทย์ตัดสินว่า จะสามารถเชื่อมต่อและควบคุมอนุภาคมูลฐานได้มากเพียงใด ในขณะที่ความเข้าใจ มันจะเป็นตัวตัดสินความเร็วในการเชื่อมต่อและควบคุมอนุภาค
แดนีลเดินไปยังสถานที่ที่สำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบและนั่งลงอย่างสงบ ลาเลเวลนั่งอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว และเขาจ้องมองไปที่แดนีลอย่างไม่กระพริบตา
แดนีลไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ทำให้นักเรียนที่เหลือตระหนักได้ถึงระยะห่างระหว่างพวกเขา สำหรับการคบค้าสมาคม? เขามีแฟกซัลและครอบครัวของเขาอยู่แล้ว แล้วเขายังจะต้องการอะไรอีก? นอกจากนี้ ความเหินห่างของนักรเรียนคนอื่นๆ มันก็กลายเป็นว่า ได้ช่วยให้เขามีเวลาไปมุ่งเน้นกับการเรียนรู้และการฝึกฝนของเขาอย่างเต็มที่
นักเรียนคนต่อไป เป็นหนึ่งในคนที่มีระดับความเข้าใจขั้นสีแดง เมื่อเขาได้เห็นปฏิกิริยาของผู้ชมบนเวที เขาก็ต้องการจะแสดงให้เห็นว่า ตัวเขาเองมีความสามารถคู่ควรแก่การชื่นชมเช่นกัน
เขากอดอกเหมือนแดนีลและยืนอยู่ตรงนั้น แต่เขาก็ไม่เหมือนกับแดนีล เพราะเขาต้องจดต้องไปบนพื้นเพื่อสร้างบอลน้ำขึ้นมาเหนือมัน ดูเหมือนว่า เขาวางแผนที่จะปาบอลน้ำลงกับพื้น เพื่อสร้างผลลัพธ์เช่นเดียวกับแดนีล
แต่หลังจากที่บอลน้ำกระทบพื้นแล้ว พื้นกลับไม่ได้เปียบชื่นมากนัก และหุ่นเชิดก็ผ่านพื้นที่ตรงนั้นมาได้อย่างง่ายดาย
ดินแห้งของสนามหญ้าไม่ดูดซับน้ำ มันจึงไม่ลื่นใดๆเลย ในตอนนั้นเอง ที่เด็กคนนั้นได้ตระหนักว่า สิ่งที่แดนีลทำนั้นมันซับซ้อนเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก และเขาต้องการที่ร่ายคาถาใหม่เพื่อผ่านการทดสอบ แต่มันก็สายเกินไป หุ่นเชิดพุ่งเข้ามาถึงตัวเขาและมันทำให้เขาล้มลง
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ทุกคนประทับใจกับการกระทำของแดนีลมากยิ่งขึ้น แม้แต่จอมเวทย์ราชสำนักและราชาก็จดจ้องไปที่แดนีลเป็นครั้งคราว ราวกับว่าทำเพื่อให้แน่ใจว่า แดนีลจะไม่หนีไปไหน
หลังจากนั้นไม่นาน การทดสอบใหม่ก็เริ่มขึ้น
ผู้เข้าร่วมทุกคนจะต้องจับสลาก และหมายเลขที่พวกเขาได้รับจะถูกนำไปจับคู่ต่อสู้
มีนักเรียนที่ผ่านการทดสอบแรก 30 คน แดนีลเดินไปที่จอมเวทย์ราชสำนักที่ถือสลากไว้ในมือ และดึงหมายเลขออกมา
เขาได้หมายเลข 17 นักเรียนทุกคนสวมหมายเลขของพวกเขาไว้ที่หน้าอก แดนีลจึงมองไปรอบๆเพื่อดูว่าเขาได้คู่กับลาราเวลหรือไม่ เขาต้องการที่จะเอาชนะเด็กคนนั้นอย่างแท้จริง แม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะไม่ส่งผลต่อเขามากนักก็ตาม แดนีลเพียงแค่ต้องการขจัดสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของเขาเท่านั้น
การทดสอบเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว นักเรียนระดับขั้นสีส้ม 2 คน เผชิญหน้ากันและกัน
แดนีลถึงกับตกตะลึง สิ่งที่เกิดขึ้นเกินความคาดหมายของเขา
จอมเวทย์รุ่นเยาว์ทั้งสองยืนห่างกันไม่กี่ฟุต จดจ่อไปที่อากาศเบื้องหน้า ราวกับกำลังพยายามสร้างบางสิ่งขึ้นที่นั่น กรรมการได้ประกาศว่า หากนักเรียนคนใดได้รับบาดเจ็บ เขาจะถูกพาตัวออกมาในทันที ซึ่งมันทำให้พวกเขาสบายใจขึ้น
อย่างช้าๆ บอลเพลิงและแท่งน้ำแข็งก่อตัวขึ้นด้านหน้าพวกเขา แต่บอลเพลิงก่อตัวเร็วกว่าเล็กน้อยและมันถูกยิงไปด้านหน้าในทันที แม้ว่าแท่งน้ำแข็งเกือบจะสมบูรณ์แล้ว แต่บอลเพลิงเข้าปะทะมันเสียก่อน
ในฉับพลัน นักเรียนที่ร่ายคาถาน้ำแข็งก็มาอยู่นอกวงสนามและนักเรียนคนแรกถูกประกาศให้เป็นผู้ชนะ และฝูงชนก็ส่งเสียงเชียร์แสดงความยินดี
นี่เป็นการทดสอบ มันไม่เด็กไปหน่อยหรือ? แดนีลคิด เขาได้ฝึกฝนอย่างมากมาเพื่อการทดสอบนี้ และตอนนี้ มันกลับกลายเป็นว่า มันเป็นการแข่งขันร่ายคาถา
รอบที่สองแตกต่างออกไปเล็กน้อย นักเรียนที่เผชิญหน้ากันในรอบนี้ มีความเข้าใจระดับขั้นสีแดและสีส้ม เด็กคนที่มีความเข้าใจด้อยกว่า รู้ดีว่าเขาไม่สามารถจะเอาชนะด้วยการร่ายคาถาได้
ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามันการทดสอบสุดท้ายแล้ว เขาก็พยายามวิ่งไปหาคู่ต่อสู้และพยายามเอาชนะด้วยพลังกาย ดูเหมือนเด็กคนนี้จะฝึกฝนในฐานะนักสู้ด้วยเช่นกัน เขาสามารถวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และจะไปถึงคู่ต่อสู้ของเขาในอีกไม่กี่วินาที
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ชกไปที่ท้องของคู่ต่อสู้ เขาก็ได้พบว่า ตัวเขาอยู่นอกสนามแล้ว ฝูงชนหัวเราะที่ได้เห็นเขาสะดุดล้มขณะที่ชกลม
ขณะที่ถาม เขาก็ได้พบว่า แท่งน้ำแข็งได้ก่อตัวขึ้นเหนือจุดเดิมที่เขาเคยยืนอยู่ ซึ่งก็หมายความหมาย ก่อนที่เขาจะชกโดนคู่ต่อสู้ เขาก็จะถูกยิงด้วยแท่งน้ำแข็ง ซึ่งมันกระทั่งสามารถเขาได้ในทันที
เขาถอนหายใจออกมา และรู้ว่าไม่สามารถจะเอาชนะจอมเวทย์ที่ระดับเหนือกว่าได้ และปลอบใจตัวเองว่าจะฝึกให้หนักขึ้น
หลังจากนั้น มันก็เป็นตาของแดนีล คู่ต่อสู้ของเขามาจากชั้นเรียนเดียวกัน เด็กคนนี้สวมชุดคลุมคนชั้นสูงและมีระดับความเข้าใจขั้นสีแดง
“เหอะ ระดับตำนานแฝงอะไรกัน สิ่งที่เจ้าทำกับหุ่นเชิดจะต้องเป็นความบังเอิญอย่างแน่นอน ข้าจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง” เขากล่าวออกมาอย่างอวดดีก่อนจะจดจ่อไปที่อากาศตรงหน้าเขา
บอลเพลิงค่อยๆก่อตัวขึ้นมาตรงหน้าเขา แสดงให้เห็นว่าเขามีทักษะที่ดี
เช่นเดียวกับการทดสอบแรก แดนีลเพียงยืนมองไปรอบๆ เขาตัดสินใจว่า เขาจะให้ทุกคนได้เห็นการแสดง และเขาจะทำมันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ความตั้งใจของเขาก็คือ เป็นที่สนใจของราชาและจอมเวทย์ราชสำนัก เพื่อรับสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรและครูผู้สอนมากขึ้น
นี่เป็นเพราะในชั้นเรียนของเขา เขาได้เรียนเพียงคาถาพื้นฐานเท่านั้น ระบบได้พัฒนาพวกมันทั้งหมดได้ในเดือนแรก และในเวลาที่เหลือ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนพวกมัน แม้แต่ในห้องสมุด รายละเอียดของคาถาชั้นสูงก็ถูกปิดกั้นออกจากปีหนึ่ง
เขาต้องการพลังอำนาจที่จะทำให้เขาสามารถเลือกสิ่งที่เขาต้องการจะทำด้วยตัวเอง เขาต้องการได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงห้องสมุดที่ไร้ข้อจำกัด และสามารถเรียนรู้ทุกสิ่งที่เขาต้องการได้ เพื่อเป้าหมายนี้ เขาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อทำให้ทุกคนตระหนักถึงความสามารถของเขา
เห็นว่าแดนีลไม่มีทีท่าว่าร่ายคาถา เด็กคนนั้นก็ยิ้มออกมาราวกับเขาได้รับชัยชนะมาแล้ว
ในฉับพลัน เขาก็รู้สึกได้ถึงลมกรรที่พักขาซ้ายของเขาไปข้างหน้า แม้ว่าท่าทางการยืนของเขาจะมุ่นคง แต่เนื่องจากเขาตั้งสมาธิไปที่การร่ายคาถา เขาจึงสูญเสียสมดุลและล้มลงในทันที และเมื่อร่างของเขากระทบกับพื้น เขาก็พบว่าตัวเขาอยู่นอกสนามแล้ว
“ไม่! ข้าไม่ยอมรับ! เหตุใดข้าถึงถูกส่งมานอกสนาม!”
กรรมการไม่ได้กล่าวอะไร และเพียงแค่ชี้ไปยังจุดที่เขาเคยยืนอยู่
ด้านหลังจุดที่เขายืนอยู่ มีแท่งน้ำแข็งสูงขึ้นมาจากพื้น 6 นิ้ว และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปลายของมันแหลมคมมากเพียงใด
หากเขาล้มลงตรงนั้น แท่งน้ำแข็งจะเสียบทะลุร่างของเขา และมันสามารถจะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
เด็กคนนั้นมองไปที่แดนีลด้วยดวงตาเบิกกว้าง เขาสงสัยว่าต้องควบคุมเช่นใดถึงจะสามารถทำเช่นนั้นได้
รูปแบบการต่อสู้เช่นนี้ ไม่เคยได้ยินมาก่อนในหมู่นักเรียน มีเพียงกรรมการและบุคคลสำคัญเท่านั้น ที่มีใบหน้าตกใจราวกับเห็นตำนานตัวเป็นๆ
“เขาอยู่ในเส้นทางของพารากอนแล้ว น่าเสียดาย” ราชาพึมพำออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขากล่าวตั้งแต่เริ่มการประเมิน จอมเวทย์ราชสำนักที่อยู่ข้างๆพยักหน้า มองไปที่ด้านหลังของแดนีลขณะที่ไตร่ตรองบางสิ่ง
คอมเม้นต์